ไทยพาณิชย์ – VISTEC เปิดโครงการ Mission X รุ่นที่ 4 

160

 ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC สานต่อภารกิจ “MISSION X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation รุ่นที่ 4 หลักสูตรลับคมวิสัยทัศน์สำหรับผู้นำองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยการเปลี่ยนผ่านทางด้านดิจิทัล มุ่งเน้นสร้างการเติบโตที่พุ่งทะยานและรักษาการเติบโตให้ธุรกิจได้ยืนหยัดท่ามกลางความท้าทายทุกรูปแบบ โครงการ Mission X รุ่นที่ 4 ครั้งนี้ จัดขึ้นสำหรับผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครวมกว่า 50 คน จาก 27 บริษัทชั้นนำ ด้วยเนื้อหาหลักสูตรที่เจาะลึกทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการเสริมประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมฯ พร้อมด้วยกรณีศึกษาจากซีอีโอชั้นนำระดับประเทศ และการให้คำปรึกษาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัวร่วมพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลขององค์กรเพื่อนำไปใช้งานจริง โดยมี ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี, จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานหลักสูตร Mission X, ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ธนาคารไทยพาณิชย์ และ รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี ร่วมพิธีเปิดและเป็นวิทยากรในหลักสูตร

ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร

ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า “ในโลกปัจจุบันที่อยู่ในยุค 4.0 และเป็นยุคที่เรียกว่า “Data is King” ที่ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลจำนวนมากมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตและธุรกิจ ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด เมื่อบทบาทของดิจิทัลมีมากขึ้นเรื่อยๆ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวหน้าในทุกมิติ ภาคธุรกิจจึงไม่อาจต้านทานต่อแนวคิดทางด้าน Digital Transformation การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกประสิทธิภาพธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงและเป็นเจ้าของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะช่วยพัฒนาการเติบโตของธุรกิจให้ทัดเทียมและแข่งขันได้ โครงการ Mission X ในรุ่นที่ 4 นี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC ยังคงมุ่งมั่นขยายกรอบแนวคิดทางด้านดิจิทัลไปยังกลุ่มผู้นำองค์กรในอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งยังอยู่ระหว่างการรับมือกับความท้าทายทางด้านต้นทุนต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเชื่อมั่นว่าหลักสูตรMission X จะทำให้ทุกท่านมีความเข้าใจในพลังแห่งเทคโนโลยีแขนงต่างๆ อาทิ AI, Blockchain, IoT, แนวคิดโลกเสมือน และ Metaverse และสามารถนำไปใช้ในธุรกิจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ และเสริมศักยภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะยาว”

จรีพร จารุกรสกุล

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานหลักสูตร “Mission X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation กล่าวว่า “จากความสำเร็จของหลักสูตร Mission X ที่ผ่านมาทำให้เกิดการขยายผลอย่างต่อเนื่องจนเดินทางมาสู่รุ่นที่ 4 ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของโครงการในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการปรับตัวเพื่อให้สามารถเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันเราต่างปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก และไม่ว่าเราจะวิ่งเร็วเท่าไรก็ยังช้าไปเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น การปรับตัวด้วย Digital Transformation จึงกลายเป็นหัวใจของความสำเร็จที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น คือการปลูกฝัง Digital Mindset และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้บุคลากรขององค์กรพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นหัวใจหลักของหลักสูตร Mission X และในระหว่างนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเปิดประตูสู่กันอีกครั้ง การท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก เป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกที่จะปรับตัวให้พร้อมเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะกลับมา หวังว่าโครงการ Mission X จะมีส่วนช่วยจุดประกายความคิดให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยปลดล็อคธุรกิจจากกับดักความสำเร็จในอดีต และนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตแบบ Exponential ให้พร้อมแข่งขันอย่างเต็มศักยภาพ”

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ

ดร. ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale และรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในหลากหลายรูปแบบ แต่ในอนาคตอันใกล้ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมอีกหลายประการที่กลุ่มผู้ค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคจะต้องรับมือและทำการปรับธุรกิจให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ อาทิ สังคมผู้สูงอายุ เทรนด์สุขภาพ การยกระดับความสามารถทางอีคอมเมิร์ซ การบริหารจัดการดาต้า รวมไปถึงยุคแห่ง Metaverse ที่ทั้งโลกต้องปรับตัวให้เท่าทัน ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากข้อมูล EIC ระบุว่ามูลค่าธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ราว 11%YOY เป็น 3.45 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายการควบคุมโรค การเพิ่มขึ้นของรายได้ภาคเกษตร และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว อีกทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ในเวทีโลก อย่างไรก็ตาม การเตรียมรับมือกับภาวะผันผวนที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่กระทบต่อต้นทุนพื้นฐานของธุรกิจเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อม  โครงการ Mission X โดยธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC จึงได้เตรียมหลักสูตรและเนื้อหาในโครงการสำหรับการอบรมในรุ่นที่ 4 นี้ ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับคณะผู้นำองค์กรจากกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่ง-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งเน้นการบ่มเพาะวิสัยทัศน์ทางด้านดิจิทัล ด้วยการแนะนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และการสร้าง New S-Curve ให้ธุรกิจ การรับฟังกรณีศึกษาจากซีอีโอชั้นนำในธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศที่มาให้ข้อมูลและตอบคำถามเกี่ยวกับแนวทางการปรับองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และส่วนที่สำคัญที่สุดของโครงการ Mission X  คือผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้พัฒนาออกแบบแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพื่อนำไปใช้งานจริงในองค์กรภายใต้การให้คำปรึกษาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแบบตัวต่อตัว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำพาธุรกิจก้าวข้ามขีดความสามารถด้วยศักยภาพใหม่ๆ พร้อมเติบโตต่อเนื่องได้อย่างไร้ขีดจำกัด 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ VISTEC จะยังคงเดินหน้าขยายผลหลักสูตร “Mission X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่สำคัญของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับศักยภาพของภาคธุรกิจไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งต่อไป