L&E แตกไลน์ธุรกิจใหม่ Entertainment Tech รับการกลับมาของธุรกิจบันเทิง-คอนเสิร์ต

164

L&E ต่อยอดความสำเร็จผู้นำบริการแสงสว่างมาตรฐานสากล เปิดตัวธุรกิจใหม่ “L&E Beyond” บุกตลาด Entertainment Technology จำหน่ายและให้บริการระบบแสง-เสียง-ภาพ สำหรับธุรกิจบันเทิง-งานละคร-งานรายการ-งานคอนเสิร์ต-งานนิทรรศการแบบครบวงจร หลังเห็นโอกาสฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจบันเทิงช่วง Post-COVID-19 หวังช่วยเติมเต็มอีโคซิสเท็ม ยกระดับมาตรฐานคุณภาพงานบันเทิงไทยสอดคล้องทิศทางใหม่ทั่วโลก คว้างาน The Voice All Stars โชว์ความยิ่งใหญ่และอลังการของงานระบบคุณภาพผ่านรายการชื่อดัง เตรียมอวดโฉมเทคโนโลยี Virtual Production ล้ำยุคนำเข้าจากต่างประเทศเร็วๆ นี้ พร้อมเดินหน้าบุกตลาดทั้ง On-ground และ Online 

อโรชา กิตติวิทยากุล

อโรชา กิตติวิทยากุล ผู้จัดการแผนก Entertainment Lighting บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ L&E Beyond เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการงานโปรดักชั่น (Production Solution Provider) แบบครบวงจร ให้บริการทั้งระบบแสง เสียง ภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัยกลุ่ม Entertainment Tech แก่ธุรกิจด้านบันเทิง อาทิ งานละคร งานถ่ายรายการโทรทัศน์ งานถ่ายทำ Music Video งานคอนเสิร์ต งานนิทรรศการแบบครบวงจร ต่อยอดจุดแกร่งของบริษัทที่เป็นผู้นำบริการแสงสว่างมาตรฐานสากลครบวงจร (Total Lighting Solution Provider) ที่มีโรงงานผลิตโคมไฟและหลอดไฟคุณภาพสูงสำหรับงานโครงการอยู่แล้ว 

“ธุรกิจบันเทิงมีโอกาสฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง Post-COVID-19 สังเกตได้จากความต้องการใช้งานระบบไฟสำหรับงานโปรดักชั่นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ที่ทำให้ยอดขายของแผนกเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา L&E เองให้บริการงานด้านภาพ ผ่านการให้บริการจอ LED แก่กลุ่มลูกค้ารีเทลรายใหญ่จำนวนมาก ขณะเดียวกัน บริษัทมีพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจระบบเสียงคุณภาพ รวมไปถึงยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรเรียนรู้ และร่วมงานกับบริษัทเทคโนโลยีสื่อบันเทิงที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างมากในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา เมื่อผนึกความแข็งแกร่งของทุกระบบเข้าด้วยกัน เราจึงมองเห็นโอกาสอันดีที่จะเปิดตัวธุรกิจใหม่เพื่อให้บริการทุกด้านแบบครบวงจร เพื่อช่วยเติมเต็มระบบนิเวศหรืออีโคซิสเท็มของการบริการงานระบบในธุรกิจบันเทิง พร้อมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพงานบันเทิงไทยให้สูงขึ้นด้วยเทคโนโลยี” อโรชา กล่าว 

ทั้งนี้ แนวโน้มงานโปรดักชั่นของอุตสาหกรรมบันเทิงและอีเวนท์ รวมถึงงานคอนเสิร์ตทั่วโลก มีแนวโน้มพัฒนาขึ้นอย่างมาก จากทั้งเทคโนโลยีของดวงโคมที่มีความสามารถที่มากขึ้นด้วยน้ำหนักและราคาที่ดีขึ้น ระบบจอภาพแบบใหม่ๆ เช่น จอภาพ 3 มิติ และมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ร่วมในระบบ ให้มีคุณภาพมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่าในอดีต ตลอดจนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเล่าเรื่อง ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีโลกเสมือน (Virtual) เข้ามาเกี่ยวข้อง เพิ่มความน่าสนใจให้แก่อุตสาหกรรม บริษัทมุ่งมั่นจะนำความโดดเด่นของคุณภาพมาตรฐาน มารองรับตลาดทั้งในฐานะผู้ให้บริการครบวงจร และเพิ่มโอกาสให้แก่ซัพพลายเออร์รายย่อยสามารถรับงานโปรดักชั่นที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น 

อโรชา กล่าวอีกว่า ล่าสุด บริษัทได้รับงานบริการระบบแสง สี เสียง และภาพ แบบครบวงจรให้แก่รายการ The Voice All Stars รายการประกวดร้องเพลงชื่อดังทางช่อง ONE 31 โดยให้บริการไฟมาตรฐานสากลมากกว่า 400 ดวง ซึ่งประกอบด้วยดวงโคมคุณภาพสูงที่ผลิตจากโรงงานของ L&E โดยตรงมากกว่า 100 ดวง เช่น LED PAR, LED PIXEL BAR, LED PIXEL TUBE และ LED Strip มาใช้ในรายการ พร้อมทั้งระบบจอและระบบเสียงแบบจัดเต็ม เพื่อให้การถ่ายทำตลอดซีซั่นยิ่งใหญ่และอลังการสมการกลับมาของซีซั่นใหม่นี้ โดยเทปแรกได้ออกอากาศไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ บริษัทยังได้นำเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Virtual Production มาตอบโจทย์การสร้างสรรค์โชว์พิเศษภายในรายการด้วย คาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถอวดโฉมให้แก่ผู้ชมและเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเร็วๆ นี้ 

หลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าบุกตลาดทั้งงานโปรดักชั่นบันเทิงและอีเวนท์ทั้งแบบ On-ground และแบบ Online อาทิ Music Video, คอนเสิร์ต รายการ งานประกาศรางวัล ภาพยนตร์ ซีรีส์ งานเปิดตัวสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและทุกสถานการณ์ และพร้อมจะนำEntertainment Tech ล้ำยุคที่บริษัทลงทุนนำเข้าจากต่างประเทศ มาเปิดตัวให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยยกระดับอุตสาหกรรม สอดรับกับเทรนด์โลก 

สำหรับ บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน มีความมั่นใจในการต่อยอดธุรกิจออกสู่ตลาดใหม่นี้ ด้วยความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานที่พัฒนามาอย่างยาวนานของบริษัท เช่น งานวิจัย พัฒนา การผลิต การขาย ตลอดจนบริการหลังการขาย ที่ได้ประสิทธิภาพระดับสากลล้วนเป็นการสนับสนุนให้พร้อมดำเนินการรองรับนวัตกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสำหรับอนาคต