แมคโดนัลด์ สร้างประวัติศาสตร์ ทุบสถิติกวาดรายได้ 7.2 พันล้าน รุกปี 67 ตอกย้ำผู้นำตลาด QSR

535

นางสาวกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมา แมคโดนัลด์สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมียอดขายสูงถึง 7,213 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้งแมคโดนัลด์ ประเทศไทย มาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 31% จากปี 2565 ที่มียอดขายรวม 5,504 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิก็ถิอเป็นสถิติสูงสุดใหม่เช่นกันอยู่ที่ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของเบอร์เกอร์ที่ยังคงเป็น Portfolio หลักของแมคโดนัลด์ที่ครองใจลูกค้าชาวไทยและต่างชาติตลอดมา ด้วยสัดส่วนรายได้ที่มากกว่า 50% และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของไก่ทอดแมคที่สร้างอัตราการเติบโตได้ถึง 40%”

  • ปี 2565 ยอดขายรวม 5,504 ล้านบาท กำไร 120 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 276% จากปี 2564)
  • ปี 2566 ยอดขายรวม 7,213 ล้านบาท กำไร 315 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 168% จากปี 2565)

Flagship Value Platform: ตอบโจทย์ ‘ความคุ้มค่า’ ให้กับลูกค้า

แมคโดนัลด์ ยังคงเดินหน้าให้บริการอาหารที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า แต่ยังคงอิ่มอร่อยได้ทุกวันด้วยเมนูที่หลากหลาย สามารถเลือกอร่อยคุ้มในมื้อเที่ยง มื้อบ่าย หรือมื้อเย็นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุด ‘EVM’ (Everyday Value Meals) ในราคาเพียง 99 บาท มีทั้งชุดเมนูเบอร์เกอร์ ชุดเมนูไก่ทอดแมค พร้อมเครื่องดื่ม หรือชุด ‘McSavers 1+1’ ในราคาเพียง 55 บาท ให้เลือกจับคู่เมนูของว่างและของหวาน โดยในปีที่ผ่านมา ชุด EVM’ มีอัตราการเติบโตมากถึง 47.8% ในขณะที่ชุด ‘McSavers 1+1’ มีอัตราการเติบโตกว่า 12%

BIC & Chicken Leadership: ครองใจ Gen Z ด้วยไก่ทอดแมค

ในปี 2566 ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 31,026 ล้านบาท จึงถือเป็นโอกาสทองของแมคโดนัลด์ที่จะต่อยอดความสำเร็จของไก่ทอดแมคจากปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตได้ถึง 40% จากการปรับสูตรใหม่ให้กรอบนอก  ชุ่มฉ่ำเข้าถึงเนื้อและรสชาติที่อร่อยเข้มข้น ในปีนี้เรามีแผนที่จะสร้างการเติบโตไก่ทอดแมคอย่างแข็งแกร่ง โดยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ตัวแทนของกลุ่ม Gen Z และยังเป็นแฟนไก่ทอดแมคตัวจริง ที่มาเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของกลุ่ม Gen Z ที่มีความนิยมในการบริโภคไก่ทอดมากเป็นพิเศษ ซึ่งจากแคมเปญล่าสุดสามารถสร้างยอดขายไก่ทอดแมคเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50% โดยเฉพาะชุดบักเก็ตไก่ทอดแมคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

Burger Leadership: ย้ำตัวจริงด้านเบอร์เกอร์คุณภาพเยี่ยม

เบอร์เกอร์นับเป็น Portfolio หลักของแมคโดนัลด์ที่ยังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความเป็นตัวจริงด้านเบอร์เกอร์ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นความเป็นผู้นำเรื่องคุณภาพและรสชาติ ตามคอนเซ็ปต์ Hotter, Juicier, Tastier ที่ได้เปิดตัวเมื่อปลายปี 2566 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเบอร์เกอร์มากขึ้น โดยเน้นคุณภาพและรสชาติเบอร์เกอร์ด้วยเนื้อ 100% นำเข้าจากออสเตรเลีย ชุ่มฉ่ำขึ้นด้วยวิธีย่างเนื้อสุดพิเศษ พร้อมขนมปังสูตรเฉพาะของแมคโดนัลด์ที่มีความนุ่มและมันวาว (Softer Glazed Bun) สร้างความแตกต่างจากตลาดได้อย่างชัดเจน คาดว่าในปีนี้จะสามารถผลักดันให้ยอดขายสามารถเติบโตได้ต่อไป

Experience of the Future (EotF): ประสบการณ์บริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่

แมคโดนัลด์ มุ่งสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ที่ไม่ใช่เพียงความอร่อยและคุ้มค่า แต่ยังรวมถึงการสร้างประสบการณ์การได้รับการบริการผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK) ที่รองรับการชำระเงินแบบไร้เงินสด สามารถให้ลูกค้าเลือกซื้อเมนูอาหารได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีบริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และพนักงานต้อนรับ (GEL-Guest Experience Leader) คอยดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ถือได้ว่าแมคโดนัลด์เป็นเพียงแบรนด์เดียวใน QSR ที่ให้ความสำคัญและส่งมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า โดยตั้งเป้ามอบประสบการณ์บริการที่ทันสมัยครบ 100% ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

Stores Expansion: สร้างสาขาใหม่ ดีไซน์ใหม่ จับอินไซด์ลูกค้าด้วย Sustainability Concept

ปี 2567 แมคโดนัลด์ เดินหน้าเปิดสาขาใหม่กว่า 20 สาขา และรีโนเวทร้านสาขาเดิมจำนวน 25 สาขา ภายใต้การออกแบบที่ตรงตามอินไซด์ลูกค้าทุกกลุ่ม เน้นบรรยากาศผ่อนคลายและสนุกสนาน โดยในปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวร้านดีไซน์ใหม่ 2 สาขา คือที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และบางแค ด้วยคอนเซ็ปต์ Geometry’ โมเดิร์น ทันสมัย แต่งเติมด้วยลวดลายเฉพาะตัวในสีสันสดใส ในปีนี้ ก็มีแผนดีไซน์ร้านด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่อีก 2 คอนเซ็ปต์ ได้แก่ คอนเซ็ปต์ CUBE’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสุขในการแกะกล่อง Happy Meal มาผสานองค์ประกอบการออกแบบเพื่อเปลี่ยนโฉมความทรงจำในวัยเด็กสู่พื้นที่จริง และคอนเซ็ปต์ ‘Essential Ingredients 2.0’ หยิบเอาเอกลักษณ์ของแมคโดนัลด์ ในรูปทรงแบบไดนามิกและสีสันต่างๆ มาถ่ายทอดในรูปแบบของศิลปะป๊อปอาร์ตที่สนุกสนาน

ทั้งยังเดินหน้าดำเนินธุรกิจสร้างความยั่งยืนด้วยหลัก ESG ย้ำการเป็น Green & Sustainable โดยมีเป้าหมายยกระดับคุณภาพการให้บริการให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเทรนด์เทคโนโลยีในปัจจุบัน ด้วยสาขาต้นแบบที่มีการตกแต่งบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกร้านอย่างใส่ใจด้วยวัสดุรีไซเคิล สร้างบรรยากาศอันร่มรื่นด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมอำนวยความสะดวกให้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

“แม้สถานการณ์ทุกธุรกิจ QSR จะมีความท้าทายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เรายังคงมั่นใจว่ากลยุทธ์การดำเนินงานแนวรุกที่แข็งแกร่งด้วยงบประมาณการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท และความมุ่งมั่นของเราจะผลักดันให้แมคโดนัลด์สามารถก้าวสู่ความสำเร็จและเติบโตได้กว่า 15% ภายในปีนี้” นางสาวกิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย