‘เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท’ ในเครือ ‘สิงห์ เอสเตท’ เตรียมออกหุ้นกู้เสนอขายประชาชนเป็นการทั่วไป อายุ 3 ปี คาดเสนอขายตุลาคมนี้

264

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ “SHR”บริษัทในเครือ “สิงห์ เอสเตท”เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยจะเสนอขายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร คาดเสนอขายได้ภายในเดือนตุลาคม 2566 นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุน ในสถานการณ์ที่ธุรกิจโรงแรมเติบโตก้าวกระโดดจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยว ด้านผู้บริหารมั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน ด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล ได้ยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูล (filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี โดยจะประกาศผลตอบแทนที่แน่นอนในภายหลัง

สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 และจะเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือนตุลาคม2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย  

เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์

เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโอกาสของผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่จะได้เข้าลงทุนในหุ้นกู้ SHR ที่ธุรกิจโรงแรมมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวโลก สะท้อนได้จากผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโต 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น 4,821 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) 1,112 ล้านบาท ที่เติบโตสูงถึง 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำศักยภาพของธุรกิจโรงแรมของSHR ได้เป็นอย่างดี 

“การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน ขณะที่กลยุทธ์ในการผลักดันธุรกิจของ SHR ทำให้เราดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเรามีเป้าหมายขับเคลื่อนรายได้ในปีนี้ให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาท และวางเป้าหมายอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอย่างต่ำที่ 70% ควบคู่กับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่การออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯ SHR ในครั้งนี้ จะสนับสนุนให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHR กล่าว

ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์

ด้าน  ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีจะเติบโตจากอุปสงค์การเดินทางที่จะฟื้นตัวอีกครั้ง และการขยายตัวของธุรกิจการบินที่มีสัญญาณการเปิดเส้นทางบินใหม่ในครึ่งปีหลัง

SHR ยังคงมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ในการบริหารรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ร่วมกับการพัฒนาและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงคุณภาพห้องพัก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผลตอบแทนจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR)  ที่เพิ่มขึ้นในช่วง high season ทั้งนี้ Outrigger Fiji Beach Resort ของ SHR จะทำการปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักให้เสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่า ADR จะเพิ่มขึ้น 20% ในขณะเดียวกัน SAii Phi Phi Island Village และ SAii Laguna Phuket ก็คาดว่าจะปรับปรุงห้องพักเฟสแรกแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ก่อนที่ฤดู high season จะเริ่มขึ้น

“เรายังคงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นสำหรับแขกของเรา” เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ กล่าว

ในปี 2566 บมจ. เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท บริษัทในเครือของ สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงแรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา มีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมและรีสอร์ทที่มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทคุณภาพสูงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก ทั้งนี้ SHR ได้พัฒนาแบรนด์ SAii ของตนเองขึ้นมาในประเทศไทยและมัลดีฟส์ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแขกผู้เข้าพักในด้านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการอันยอดเยี่ยม โดยนอกจากแบรนด์ SAii แล้ว SHR ยังเป็นพันธมิตรกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในตลาดของตน โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง จำนวน 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วโลก

บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการลงทุนโรงแรมและการบริหารงานรีสอร์ทที่กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการพักผ่อนและการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ บนปรัชญาการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้แก่ชุมชนท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์การเข้าพักในโรงแรมและรีสอร์ทระดับหรูในราคาที่เข้าถึงได้ สนับสนุนการเข้าร่วมกับพันธมิตร และพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ โดยการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว ได้รับแรงสนับสนุนจากวัฒนธรรมองค์กรด้านการให้บริการที่แข็งแกร่งผ่านการสร้างคุณค่าให้กับพนักงานอย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน การสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงาน และการพัฒนาความสามารถของชุมชนท้องถิ่นเป็นสำคัญ

ด้านสถาบันการเงินในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SHR กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ของธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ลงทุนที่พลาดการจองซื้อหุ้นกู้ของ “สิงห์ เอสเตท” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจนทำให้ความต้องการจองซื้อมีมากกว่าจำนวนเสนอขาย โดยผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้ รวมถึงสอบถามเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ “SHR” สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้ 

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 

** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)