สุดเจ๋ง! อาจารย์วิศวฯ จุฬาฯ คิดค้นนวัตกรรมทางการแพทย์จาก “ไหมไทย”

271

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดค้นนวัตกรรมทางการแพทย์ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีวิศวกรรมกับโปรตีนไหมไทย จนเกิดเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อและระบบนำส่งยา ของการรักษาโรคมะเร็ง โรคข้อเสื่อม การผลิตหลอดเลือดเทียม เส้นประสาทเทียม ท่อน้ำตาเทียม การพิมพ์เนื้อเยื่อสามมิติ การทาเปลือกตาเทียม ทาแผ่นปิดแผลนำส่งยา การทาผิวหนังเทียม และกระดูกเทียม

นวัตกรรมทางการแพทย์จากไหมไทยนี้ ศ.ดร.ศิริพร ดำรงค์ศักดิ์กุล และ รศ.ดร.โศรดา กนกพานนท์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการวิจัยเนื่องจากเห็นว่า “ไหมไทย” เป็นวัตถุดิบทางการเกษตรที่สำคัญ และมีสมบัติที่ดีเหมาะสมสำหรับการนำมาใช้ทางการแพทย์ จึงได้ดำเนินงานวิจัยมาอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ สามารถนำมาใช้เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ในการรักษาโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ ได้

ปัจจุบันคณะผู้วิจัยสามารถพัฒนาระบบนำส่งยาและสารสำคัญ รวมถึงวิศวกรรมเนื้อเยื่อจากชีววัสดุไฟโบรอินที่สกัดจากรังไหมไทยในรูปแบบต่างๆ ทั้งไฮโดรเจล โครงสามมิติ แผ่นแปะ อนุภาคขนาดไมครอน เส้นใยขนาดนาโน เป็นต้น เพื่อประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยเฉพาะระบบนำส่งยาหรือสารออกฤทธิ์เพื่อรักษาโรคต่างๆ อาทิ โรคมะเร็ง ข้อเสื่อม เบาหวาน และวิศวกรรมเนื้อเยื่อต่างๆ อาทิ ผิวหนัง กระดูก หลอดเลือด เป็นต้น ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัย ทำให้ผู้วิจัยมั่นใจว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีไฟโบรอินไหมมาประยุกต์ใช้งานได้จริงในทางการแพทย์ เนื่องจากไฟโบรอินไหมมีสมบัติเด่นในด้านความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (Biocompatibility) มีปฏิกิริยาต่อต้านจากภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ (low-immunogenicity) สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย (Biodegradability) และสามารถปรับเปลี่ยนอัตราการย่อยสลายและการปลดปล่อยยาที่บรรจุได้

นอกจากนั้น ไหมไทยยังสามารถนำมาผลิตเป็นครีมไฮโดรเจลจากสารสกัดไหมไทยผสมยาปฏิชีวนะ ใช้สำหรับทาแผลทั่วไปและแผลกดทับ เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในแผล ช่วยส่งเสริมขบวนการหายของแผล และกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยไฮโดรเจลจากสารสกัดไหมไทยจะช่วยปลดปล่อยยาออกมาในปริมาณที่เหมาะสม และลดความถี่ของการใช้ยาปฏิชีวนะได้ รวมถึงการพัฒนาไฮโดรเจลแบบฉีดได้ ซึ่งเตรียมจากสารสกัดไหมไทยผสมยาสเตียรอยด์ที่เป็นยาทั่วไปที่ใช้ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยจะช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวมจากการเสียดสีกันของข้อเข่าที่เสื่อมและต้านการอักเสบ ไฮโดรเจลจากสารสกัดไหมไทยสามารถช่วยปกป้องตัวยาไม่ให้เสื่อมสลาย และช่วยชะลอการปลดปล่อยของตัวยาให้ออกมาในปริมาณที่เหมาะสม แต่เนิ่นนานขึ้น ส่งเสริมให้ตัวยายังคงมีประสิทธิภาพในการรักษานานขึ้น และลดความถี่ของการฉีดยาสเตียรอยด์ได้

นอกจากนี้ ไหมไทยยังสามารถต่อยอดผลิตเป็นแผ่นแปะช่วยผ่อนคลาย แผ่นไฮโดรเจลนวัตกรรมใหม่ ที่มีไฟโบรอินจากไหมไทยที่ประสิทธิภาพในการช่วยชะลอการปลดปล่อย cannabidiol (CBD) อย่างช้าๆ ซึ่งจะช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับง่าย และช่วยให้การนอนหลับลึกขึ้น โดยมีผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์รองรับ รวมถึงผ่านการทดสอบทางผิวหนัง และการผลิตอยู่ภายใต้มาตรฐาน GMP

จากความสำเร็จดังกล่าว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีวิศวกรรมกับโปรตีนไหมไทย เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อและระบบนำส่งยา ความร่วมมือในโครงการ “ไหมไทย” จากอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่นวัตกรรมเพื่อการแพทย์นี้ดำเนินการโดย บริษัท เอนจินไลฟ์ จำกัด (EngineLife) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การบ่มเพาะของ CU Engineering Enterprise ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจากCU Innovation Hub ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย