SC ปลื้มนักลงทุนเชื่อมั่นปิดดีลหุ้นกู้ครบตามเป้า เผยนำเงินที่ได้ไปรองรับการขยายธุรกิจและคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด

102
อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศและส่งมอบLiving Solutions เพื่อทุกเช้าที่ดี” หรือ SC ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566 จำนวน 2ชุด จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี และอายุ 4 ปี ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ และขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกรายที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้เกินกว่าเป้าที่คาดหมายแม้อยู่ในช่วงท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นกู้

อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถปิดการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566  จำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.31% ต่อปี และ ชุดที่ 2อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี รวม 2 ชุดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต โดยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงระดับบน

อรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้อยู่ในช่วงที่ตลาดหุ้นกู้มีความผันผวนสูงมาก นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่นักลงทุนมีความมั่นใจ การที่บริษัทฯได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เป็นอย่างดี ทำให้สามารถจำหน่ายได้ครบมูลค่าที่ตั้งเป้า แสดงถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี บริษัทฯขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกรายที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯด้วยดีเสมอมา และสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต ที่ทำให้การขายหุ้นกู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้คืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืนของบริษัทฯต่อไป”

“ในส่วนของแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการไปทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 18,600 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการและคอนโด 1 โครงการ โดยเป็นแบรนด์ใหม่2 โครงการ ได้แก่ “95E1” บนทำเลเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา โครงการบ้านเดี่ยวระดับ 100 ล้านบาท และ โครงการคอนโด “COBE” รัชดา-พระราม 9 ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และในส่วนครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดโครงการทั้งหมด 15 โครงการมูลค่ากว่า 22,800 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 13 โครงการและคอนโด 2 โครงการ ซึ่งโครงการทั้งหมดมีที่ดินรองรับทั้งหมดแล้ว ซึ่งบริษัทเชื่อว่าทุกโครงการจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของบริษัทเหมือนทุกโครงการที่ผ่านมา”