แกร็บ จับมือ ททท. ส่งแคมเปญ “อะเมซิ่งทั่วไทย มั่นใจไปกับ Grab” เสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้ประทับใจสุดๆ

329

 การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลาหลายปีทำเอาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวห่อเหี่ยว และที่สำคัญการกลับมาครั้งดูเหมือนว่าน่าจะขยายการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทยได้มากกว่าในอดีต เพราะโลกของโซเชียลที่นักท่องเที่ยว ยูทูปเบอร์จากหลากหลายประเทศที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ต่างมีการถ่ายทอดภาพของประเทศไทยออกไปในหลากหลายมุม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี  เครื่องแต่งกาย ไปจนถึงร้านอาหารสองข้างทางให้คนทั่วโลกได้รู้จักและอยากตามรอยบ้าง 

ความคึกคักของการท่องเที่ยวไทยในวันนี้ และมีแนวโน้มที่จะคึกคักมากขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต้องเตรียมแผนงานพร้อมรับมือ และหนึ่งในแผนงานสำคัญคือการมองหาพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ สะดวกสบาย ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจที่สุด

นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า  ภายหลังจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน1 มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมถึงหลักสิบล้านคนเป็นที่เรียบร้อย  ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 25 – 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ผนวกกับรายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ 8.8 แสนล้านบาท ทำให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะมุ่งสู่ 2.38 ล้านล้านบาทภายในสิ้นปี

อย่างไรก็ตาม  ททท. ยังคงเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวสำหรับตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวตามเป้าหมายทั้งในแง่รายได้และการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ควบคู่ไปกับการ Shape Supply ยกระดับห่วงโซ่อุปทานให้มีมาตรฐานการให้บริการในระดับสากล ตลอดจนการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว สอดรับการส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ สร้าง Meaningful Travel ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับและน่าประทับใจ และเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ ททท. จึงได้จับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน รวมถึง แกร็บ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำแพลตฟอร์มที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันอันดับ 1  โดยร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษในช่วงกลางปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจด้านการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

“จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวน 11 ล้านคน ซึ่งเป้าหมายในปีนี้  25-30 ล้านคน ถึงเวลานี้ถือว่าไม่ไกลเกินความจริง  รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 3-4 ครั้ง ททท.ก็มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ใช้ระยะเวลาในการท่องเที่ยวนานขึ้น ด้วยการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ เปิดจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยไปสัมผัส” นิธิ กล่าว 

ด้าน วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า การยกระดับมาตรฐานการเดินทางเพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่แกร็บให้ความสำคัญ โดยที่ผ่านมาบริการการเดินทางของแกร็บได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความโปร่งใสของราคา โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการเรียกรถผ่านแกร็บเพิ่มขึ้นกว่า25%2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้ เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยและสร้างความมั่นใจในเรื่องของการเดินทางให้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ล่าสุดเราจึงได้ร่วมมือกับ ททท. จัดแคมเปญ ‘อะเมซิ่งทั่วไทย มั่นใจไปกับแกร็บ’ เพื่อร่วมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการของพาร์ทเนอร์คนขับให้กลายเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว”

โดย แคมเปญ “อะเมซิ่งทั่วไทย มั่นใจไปกับแกร็บ” ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรมพิเศษ คือ

  • จัดทำไกด์บุ๊ค “Grab&Go” หรือ คู่มือท่องเที่ยว 2 ภาษา ที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร งานเทศกาลและกิจกรรมที่น่าสนใจที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดใน 4 เมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยจัดทำทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อแจกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งภายในรถ GrabCar Premium จุดท่องเที่ยวและสถานที่ต่างๆ อาทิ โรงแรม สนามบิน ร้านอาหาร และช่องทางต่างๆ ในเครือข่าย ททท.  พร้อมสามารถอ่านในฉบับออนไลน์ได้ที่ www.grab.com/th/campaign/travel-guidebook-2023/
  • พัฒนาหลักสูตรอบรมออนไลน์ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บในหัวข้อ “เจ้าบ้านที่ดี” โดยได้วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก ททท. มาร่วมจัดทำคอร์สอบรมออนไลน์บน GrabAcademy  เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำกับพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ (ทั้ง GrabCar และ GrabTaxi) เกี่ยวกับการให้บริการกับนักท่องเที่ยวในฐานะด่านหน้าที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเบื้องต้น
  • จัดกิจกรรม #เที่ยวมั่นใจไปกับGrab เพื่อชิงแพคเกจทริปท่องเที่ยวไปภูเก็ต และของรางวัลใหญ่อีกมากมาย พร้อมมอบส่วนลดการเดินทางสูงสุดถึง 15% โดยแกร็บเตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมสนุกผ่านการแชร์ภาพถ่ายประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยไปกับ Grab พร้อมติด #เที่ยวมั่นใจไปกับGrab บนเฟสบุ๊ค GrabTH  เพื่อลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ แพคแกจทริปท่องเที่ยวตั๋วเครื่องบินไป-กลับภูเก็ต พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท  นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ กระเป๋าเดินทาง และส่วนลดค่าบริการเดินทางของ Grab โดยกิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 – 30 มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเดินทาง แกร็บยังมอบส่วนลดสำหรับบริการ JustGrab GrabCar และ Grab Electric VIP Taxi โดยรับส่วนลดสูงสุด 100 บาทเพียงใส่รหัส “NEWTRAVEL”  สำหรับผู้ใช้ใหม่ และส่วนลดสูงสุด 80 บาทเมื่อใส่รหัส “TRAVEL”สำหรับผู้ใช้ปัจจุบัน พร้อมรับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม3 15% สำหรับบริการ GrabFood และ GrabMart หลังใช้บริการเรียกรถ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2566

“เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะช่วยให้บริการเรียกรถของแกร็บกลับมาเติบโตกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ยังเดินทางมาไม่เต็มที่ นอกจากนั้นแคมเปญนี้จะช่วยสนับสนุนธุรกิจสั่งอาหารให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศจากไกด์บุ๊คGrab&Go  ก็จะช่วยให้ธุรกิจสั่งอาหารเติบโตขึ้นอีกนอกเหนือจากความนิยมการสั่งอาหารของคนไทย” วรฉัตร กล่าว 

ที่มา กองเศรษฐกิจกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (https://www.facebook.com/ETSMOTS )  ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2566

2 เปรียบเทียบจำนวนผู้ใช้บริการชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 กับไตรมาสที่ 4 ของปี 2565

สำหรับบริการ GrabMart ลด 15% สูงสุด 100 บาท เมื่อสั่งขั้นต่ำ 300 บาท และบริการ GrabFood 15% สูงสุด 80 บาท เมื่อสั่งขั้นต่ำ 300 บาท