ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 ในขณะนี้ นอกจากจะสร้างกระแส “พี่หมื่น-ออเจ้า” ไปทั่วทุกวงการทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังเกิดปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งเมื่อประวัติศาสตร์สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ ที่อาจเคยเป็นวิชาน่าเบื่อในห้องเรียน กลับกลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่มีเรื่องราวน่าสนใจใคร่รู้มากมาย จนนำไปสู่การค้นคว้าแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ รวมถึงการออกตามรอยไปยังสถานที่จริงในฉากนั้นๆ
ล่าสุดก็มีเกร็ดน่ารู้ในตอนที่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) หรือ ออกพระวิสุทธสุนทร นำคณะราชทูตไทยเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีที่ประเทศฝรั่งเศส โดย “ทิพยจักร” นักเขียนแนวบันเทิงคดีและจิตวิญญาณ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Jaruvat Chanposri เล่าถึงอิทธิฤทธิ์ของ ‘อาจารย์ชีปะขาว’ ที่ทำเอาพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และกองทัพฝรั่งเศสถึงกับทึ่ง!!
“เมื่อตอนคณะทูตไทยนำโดยพระยาโกษาปานไปฝรั่งเศสเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ พระยาโกษาปานเชิญอาจารย์ชีปะขาวไปด้วย ในจดหมายเหตุเล่าว่าเป็นคนขี้เหล้า เรื่องขี้เหล้านี้ไม่ใช่อุปสรรคของนักเวทย์ที่ชำนาญ ขอเว้นวรรคไปก่อน
ผมอ่านเนื้อเรื่องตอนคณะทูตไทยไปฝรั่งเศสหลายสำนวน จึงขอสรุปเรื่องให้เข้าใจโดยง่าย
เมื่อเรือสำเภาไทยติดหล่มวังน้ำวนสองวันสามวันเข้าแล้วไม่อาจผ่านออกมาได้ มีแต่จะถูกดูดลงไปเรื่อยๆ คนบนเรือร้องห่มร้องไห้ว่าตายแน่แล้ว อาจารย์ชีปะขาวตั้งพิธีบูชาเทพยดาแล้วเข้าสมาธิเข้าวาโยกสิณบันดาลลมใหญ่ยกเรือสำเภาทั้งลำพ้นออกจากวังน้ำวนเป็นอัศจรรย์
เรื่องนี้ทราบไปถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ก็ซักถามกันหลายปากว่าจริงรึ ทุกคนก็ตอบตรงกันว่าจริง คนไทยทำอย่างไรไม่ทราบแต่เรือพ้นวังน้ำวนมาอย่างน่าอัศจรรย์
พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ให้ทหารแสดงการยิงแม่นปืนโดยทหารสองแถวหันหน้าเล็งปืนเข้าหากัน แล้วยิงปืนใส่กันทั้งสองฝ่ายปรากฏลูกปืนของแต่ละฝ่ายวิ่งเข้าสู่รูปากกระบอกของกันและกันอย่างน่าทึ่ง
พระเจ้าหลุยส์ถามพระยาโกษาปานว่าเมืองสยามมีแบบนี้ไหม พระยาโกษาปานแก้ว่า พระเจ้าอยู่หัวเมืองสยามไม่โปรดใช้คนแบบนี้ แต่โปรดคนมีวิชา คงกระพันชาตรีบ้าง ล่องหนหายตัวบ้าง ทรงวิทยาคมต่างๆ พระเจ้าหลุยส์ไม่เชื่อให้พระยาโกษาปานสำแดง
ท่านอาจารย์ชีปะขาวจัดแต่งมณฑลพิธี แล้วใช้วิชาแต่งตัวให้กับทหารสิบหกคน ตรงนี้ครูบางท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเป็นการเสกน้ำมันงาเข้าตัว และอาจมีวิชาอื่นๆ อีกด้วย
ทหารไทยแต่งวิชาก็มีรูปร่างตัวดำมันแผล็บ ทหารฝรั่งเศสก็ยิ่งชังทหารไทยนักเพราะเห็นสารรูปไม่ต่างคนป่าไร้วัฒนธรรม ทั้งการลองแบบนี้มันหยามกองทัพฝรั่งเศสชัดๆ
เมื่อฝั่งไทยพร้อม ทหารฝรั่งเศสยิง ปรากฏผลเป็นที่สรุปดังนี้
1 นัดแรก ปืนทุกกระบอกด้าน กระสุนยิงไม่ออก
2 นัดที่สอง ลูกปืนพอพ้นปากกระบอกก็ร่วงลงพื้นทันที
3 นัดที่สาม พอลูกปืนพุ่งไปถึงแค่ครึ่งทางก็ร่วงลงอีก
4 นัดที่สี่ พอลูกปืนพุ่งมาถึงเบื้องหน้าทหารไทยพอดีเป๊ะก็ร่วงลงตรงหน้า
หากลองมากกว่านี้กระบอกปืนอาจถึงแตกกันเลยทีเดียว ทหารฝรั่งเศสบางคนถึงกับร้องไห้เลยเพราะมันเหยียดหยามศักดิ์ศรีกันจริงๆ พระเจ้าหลุยส์ก็ทึ่งถึงกับประทานเมียให้พระยาโกษาปานและทหารไทยเพราะเข้าใจว่าเป็น X-men’s
นั่นแหละครับยุคที่ไสยศาสตร์ไทยโด่งดังไปถึงฝรั่งเศส บางท่านว่าพงศาวดารโม้แต่ผมเชื่อว่าจริง เพราะเคยเห็นวิชามหาอุดมาแล้ว”
นอกจากนี้ “ทิพยจักร” ยังได้โพสต์ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า
“มีจดหมายเหตุทางฝรั่งเศสเล่าว่า เมื่อตอนที่ราชทูตฝ่ายไทยจะให้ลองวิชา ทางผู้บังคับการทหารเรียกประชุมแล้วสั่งว่า พรุ่งนี้ทำยังไงก็ได้ ห้ามมิให้ทหารไทยบาดเจ็บหรือตาย เพราะจะทำให้เสียสัมพันธไมตรีทางฝ่ายฝรั่งเศสเลยคิดได้ว่า การลองนั้นครั้งแรกให้ใส่กระสุนไม่มีดินปืน นัดต่อๆ ไปก็ใส่ดินปืนให้น้อยจึงเกิดผล กระสุนไม่สามารถพุ่งไปยังเป้าหมาย การลองครั้งนั้นทุกอย่างจึงปลอดภัย
แต่ทว่ามีทหารบางนายคิดจะให้คนไทยบาดเจ็นจนถึงตายจะได้เกิดความเสียหน้า และการยอมให้การทดสอบนี้ผ่านไปโดยง่ายเท่ากับหยามเกียรติ ฝรั่งเศสจึงบรรจุดินปืนเต็มอัตรา ทว่าการยิงทุกครั้งกลับเป็นไปตามคำของสยาม ให้ไม่ออกก็ไม่ออก ให้ออกแต่หล่นหน้ากระบอกก็เป็นไปตามนั้น ทหารนายนี้ถึงกับร้องไห้ที่ฝ่ายตนเสียเกียรติให้ทางฝ่ายสยาม”
“ทิพยจักร” เป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือออกมาอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ ปณิธานพระโพธิสัตว์, พระพิฆเนศวร, เปิดตำนานหลวงปู่เทพโลกอุดร, ญาณทิพย์ไขปริศนาปลายแผ่นดินพระเจ้าตาก, ปาฏิหาริย์กรรมฐานหลวงปู่ดู่ ฯลฯ
