ผถห. HL อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 หุ้นละ 0.15 บ. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 10% ลุยขยายสาขาครบ 70 แห่ง

1367

บมจ.เฮลท์ลีด (HL) มีเฮ! ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 66 หุ้นละ 0.15 บาท ด้านซีอีโอ “ธัชพล ชลวัฒนสกุล” ตั้งเป้าปี 67 รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 23% รุกขยายสาขาเป็น 70 แห่ง ขณะที่ผลงานโค้งแรกปีนี้มีลุ้นสดใสรับอานิสงส์มาตรการ Easy E-Receipt  

ธัชพล ชลวัฒนสกุล

             ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567  ได้มีมติสำคัญได้แก่ อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมและกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 40,800,000 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 

            โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2566 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566) กลุ่มบริษัท HL มีรายได้รวม จำนวน 1,659.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.87% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,538.21 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย จำนวน 1,635.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.64% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 74.68 ล้านบาท

            สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 1,659.31 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการเติบโตจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG : Same Store Sales Growth) และยอดขายจากสาขาใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น 20 สาขาในปีนี้ ภายใต้แบรนด์ ร้านขายยา iCare, Pharmax, vitaminclub และ Super Drug ส่งผลให้ปี 2567 บริษัทฯ จะมีสาขารวม 70 สาขาทั่วประเทศ 

            “ในปี 2567 กลุ่มบริษัท HL ตั้งเป้ารายได้โตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน และวางแผนเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 23% จากปัจจุบัน ด้วยการปรับรูปแบบการขายสินค้าให้รัดกุม รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาสินค้านวัตกรรมขั้นสูงกว่า 10 รายการ ปัจจุบันเริ่มวางตลาดแล้ว เช่น สเปรย์สลายกลิ่นอเนกประสงค์ รวมทั้งนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเพิ่มสินค้าสุขภาพสำหรับภายนอกร่างกายเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น” ธัชพล กล่าว 

            อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีทิศทางสดใส เนื่องจากได้รับผลดีจากมาตรการ Easy E-Receipt ซึ่งประชาชนสามารถซื้อสินค้า และบริการเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีปี 2567 ได้สูงสุด 50,000 บาท โดยซื้อสินค้าหรือบริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 กับร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice ได้เท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสนับสนุนให้ผลดำเนินงานกลุ่มบริษัท HL เติบโตในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน