““ALLY” ขยายอาณาจักร กรีน คอมมูนิตี้มอลล์ พร้อมลงทุนเพิ่มเติมสินทรัพย์ใหม่ โครงการ ‘แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง’ มูลค่าไม่เกิน 225.45 ลบ.

471

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY REIT เดินหน้าขยายอาณาจักร กรีน คอมมูนิตี้มอลล์ ประกาศเตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมในกรรมสิทธิ์สินทรัพย์ใหม่ ‘โครงการแฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง’ มูลค่าไม่เกิน 225.45 ล้านบาท นับว่าเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์เป็นโครงการแรกของกองทรัสต์ฯ เพื่อรุกขยายพอร์ตการลงทุนสู่ทำเลศักยภาพกรุงเทพตอนเหนือ ย่านพักอาศัยที่มีประชากรหนาแน่น และเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพฯ ดันมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 13,800 ล้านบาท และพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 164,495 ตารางเมตร คาดลงทุนแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2/2567

กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อัลไล หรือ ALLY เปิดเผยว่า กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (ALLY)​ ได้เตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมในกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทรัพย์สินโครงการ “แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง” จากบริษัท เอ็น.อาร์.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มูลค่าลงทุนไม่เกิน 225.45 ล้านบาท โดยนับเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์โครงการแรกของกองทรัสต์ฯ ซึ่งเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ในทำเลศักยภาพย่านดอนเมือง สรงประภา ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ  ประกอบไปด้วยอาคาร 4 ชั้น (2 ชั้นใต้ดิน) จำนวน 1 หลัง พื้นที่ลงทุนรวม 9,945 ตารางเมตร บนที่ดินกว่า 2 ไร่  และสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบกิจการศูนย์การค้า โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งหมด

ทั้งนี้ กองทรัสต์ ALLY ได้พิจารณาการลงทุนด้วยการประเมินจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ (1) ราคาประเมินของทรัพย์สินที่จัดทำโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 2 ราย (2) ภาวะตลาดเงินตลาดทุนในช่วงที่คาดว่าจะลงทุนในทรัพย์สิน (3) อัตราผลตอบแทนในระดับที่เหมาะสมที่นักลงทุนจะได้รับ (4) ศักยภาพในเชิงพาณิชย์ของทรัพย์สิน (5) อัตราดอกเบี้ยทั้งในประเทศและในตลาดโลก (6) อัตราผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท ตราสารทุน ตราสารหนี้ รวมถึงการลงทุนทางเลือกอื่นๆ และ (7) มูลค่าที่เจ้าของทรัพย์สินและกองทรัสต์ตกลงร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ คือ ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสได้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการที่ีกองทรัสต์ได้นำทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมไปจัดหาผลประโยชน์ รวมถึงทำให้รายได้จากการดำเนินงานของกองทรัสต์ในระยะยาวมีความมั่นคงเพิ่มขึ้นด้วยการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) การกระจายความเสี่ยงของการจัดหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ และช่วยลดการพึ่งพาแหล่งรายได้ (Asset Diversification) จากทรัพย์สินของโครงการใดโครงการหนึ่ง คาดว่าจะรับโอนสินทรัพย์แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2567

โครงการ “แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง”

การเข้าลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าว ถือเป็นการขยายอาณาจักร “กรีน คอมมูนิตี้มอลล์” ของกองทรัสต์ฯ เพราะโครงการ “แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง” เป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายช้อป ชิม ชิล ได้อย่างดี มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านแฮงค์เอ้าท์มากมาย ที่มีบรรยากาศร่มรื่น โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy rate) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 นอกจากนี้ ถือเป็นการขยายการลงทุนสู่กรุงเทพตอนเหนือ ซึ่งเป็นย่านที่มีประชากร ชุมชน และโรงเรียนที่มีความหนาแน่น และยังเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางที่สำคัญมากของประเทศไทย ทั้งสนามบินนานาชาติดอนเมือง สถานีรถไฟ และรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ย่านดอนเมือง มีโอกาสในการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ประกอบกับรูปแบบที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ในพื้นที่ยิ่งทำให้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีความหลากหลายตามไปด้วย ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ร้านค้า ตลาดสด และคอมมูนิตี้มอลล์รอบพื้นที่ให้เติบโตตามไปด้วย

ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีโอกาสได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้น และเพิ่มศักยภาพการกระจายแหล่งรายได้จากสินทรัพย์ที่หลากหลาย ช่วยเสริมสภาพคล่องจากขนาดของกองทรัสต์ที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้กองทรัสต์ ALLY มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 13,800 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทรีเทลที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 164,495 ตารางเมตร หนุนสร้างการเติบโตให้กับรายได้ของกองทรัสต์ในอนาคต พร้อมประมาณการอัตราผลตอบแทน (Yield) การลงทุนจากโครงการโครงการแฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง กว่าร้อยละ 6 ในปีแรก

“เรามีนโยบายขยายการลงทุนเพิ่มในทรัพย์สินประเภทศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูสที่มีศักยภาพปีละ 1 – 3 โครงการ โดยวางงบลงทุนรวมในปีนี้ไว้ประมาณ 350 ล้านบาท คาดว่าจะลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะลงทุนเพิ่มอีก 1 โครงการภายใต้งบลงทุนส่วนที่เหลือ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว โดยการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอาคารศูนย์การค้าที่มีทำเลที่ตั้งที่ดีและมีศักยภาพ ทำให้รายได้จากการดำเนินงานของกองทรัสต์ในระยะยาวมีความมั่นคงเพิ่มขึ้น”  กวินทร์ กล่าว