หลังการพักผ่อนจากวันหยุดยาว หลายคนเตรียมตั้ง New Year resolution ของปีใหม่กันแล้ว คนโสดยังตั้งตารอ Dating Sunday หรือวันอาทิตย์แรกของปี ซึ่งเป็นวันสุดฮอตที่คึกคักที่สุดบนแอปหาคู่ และในปีนี้ตรงกับวันที่ 7 มกราคม ซึ่ง Tinder เปิดเผยว่าในวันนี้มีการส่งข้อความหากันเพิ่มสูงกว่าวันอื่นๆ กว่า 22% รวมถึงมียอดกด Likesบนแอปเพิ่มขึ้นถึง 18.2% ซึ่งมากกว่าวันอื่นๆ อีกด้วย
ปีนี้คนโสดยังเน้นใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า ไม่เสียเวลาเล่นเกมความรัก ผู้ใช้ Tinder ตอบข้อความเร็วขึ้นถึง 19.4 นาที ในวันอาทิตย์แรกของการออกเดท (Dating Sunday) เมื่อเทียบกับวันอาทิตย์วันอื่นๆ ในปีเดียวกัน รวมถึงคน Gen Z ที่กำลังมองหาใครสักคน มีความกระตือรือร้นที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ว่าต้องออกมาในรูปแบบไหน พร้อมสร้างเส้นทางการเดทของตัวเอง เปิดกว้างกับความแตกต่าง และเปิดใจรับโอกาสใหม่ๆ ซึ่งผลการสำรวจของ Tinder พบว่า 69% ของคน Gen Z ต้องการความท้าทายและเปลี่ยนแปลงมุมมองความสัมพันธ์แบบเดิมๆ
5 แนวทางที่ Gen Z ชาวไทยได้กำหนดเรื่องราวการเดทในแบบของตัวเอง
1. ไม่เสียเวลากับการเดทแบบเร่งด่วน (fast date) อีกต่อไป
คน Gen Z มุ่งมั่นในการออกเดทมากขึ้น หลีกเลี่ยงการเล่นตัวหรือเล่นเกมความรัก และไม่สนใจคนที่ไม่จริงจังที่จะหาความสัมพันธ์ มีการใช้ฟีเจอร์ Tinder MatchmakerTM เพื่อให้เพื่อนๆ ช่วยเช็คคนที่น่าสนใจและเหมาะสมที่จะมาเป็นคู่ Match ในอนาคต และเมื่อจับคู่ Match แล้ว คนรุ่นใหม่ก็ทำการบ้านเป็นอย่างดีก่อนออกเดท และพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่จริงจังด้วยการพูดคุยกันในหัวข้อที่มีความหมาย แทนที่จะนัดไปเดทเพื่อนั่งดื่มกันเฉยๆ ในปี 2566 พบว่ามีการกล่าวถึง “เบียร์” ลดลงเกือบ 20% บนหน้าประวัติส่วนตัว Tinder ในไทย เนื่องจากคนไทยเลือกที่จะไปทำกิจกรรมที่มีความหมายร่วมกันในวันออกเดทมากกว่า ซึ่งกิจกรรมออกเดทที่เป็นอันดับ #1 ของคนไทยบน Tinder ปี 2566 คือการไปดู “คอนเสิร์ต” ด้วยกัน
2. บอกลา Fast Fashion เลือกไอเท็มที่ยั่งยืนกว่า
ปีที่ผ่านมา กระแส Y2K เป็นเทรนด์ที่ฮอตฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก โดยไอเท็มสุดฮิตของยุคก่อนๆ อย่าง เข็มขัดลูกปัด กระโปรงยีนส์เอวต่ำ สร้อยคอแบบโซ่ หรือเสื้อครอปก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง คน Gen Z บอกลาฟาสต์แฟชั่นเพื่อแสดงออกถึงการตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เป็นวิถีแห่งความยั่งยืนมากขึ้น เสื้อผ้ามือสองถูกจับตามองมากขึ้นและกลายเป็นของที่ต้องมีติดตู้ โดยพบว่ามีผู้ใช้ Tinder เลือกความสนใจ (Interests) ในหัวข้อ “เสื้อผ้ามือสอง” (second hand apparel) มากขึ้นถึงสองเท่าตัวเมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนมิถุนายน 2565-2566
3. โฟกัสปัจจุบันมากกว่าผลลัพธ์ที่ยังมาไม่ถึง
คนโสดรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับ “เรื่องราว” ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมากกว่า “ตอนจบ” ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันและเส้นทางที่จะเดินไปด้วยกัน โดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ที่ยังมาไม่ถึง เห็นได้จาก 27% ของคน Gen Z บน Tinder ที่ใช้ฟีเจอร์รูปแบบความสัมพันธ์ (Relationship type) เลือก “ความสัมพันธ์แบบเปิด” และ 22% ที่ใช้ฟีเจอร์ Dating Goal เลือกหัวข้อ “ยังคิดอยู่ว่าเอาไงดี”5 สำหรับคนไทย “การแลกเปลี่ยนทัศนคติ” เป็นกิจกรรมออกเดทยอดนิยมในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ไปไกลกว่าแค่รูปภาพสวยๆ บนโปรไฟล์ แต่เน้นที่การเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับผู้คนอย่างลึกซึ้งในรูปแบบที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น
4. Work-Date- life balance
การทำงานหนักเพื่อแลกกับการมีชีวิตที่ดีเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้วสำหรับคน Gen Z ในยุคนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่นี้เป็นวัยที่มีความทะเยอทะยานและมีแรงผลักดันอย่างแรงกล้า แต่ก็พยายามรักษาสมดุลทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานเพื่อที่จะรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้ดี สะท้อนสิ่งที่คนรุ่นนี้กำลังมองหาจากความสัมพันธ์ คนรุ่นใหม่เปิดกว้างในการเดทกับคนที่อยู่นอกวงสังคมที่ของตัวเอง แต่ความคิดและไลฟ์สไตล์ในแบบที่สมดุลเหมือนกัน จากแบบสำรวจล่าสุดของ Tinder พบว่าผู้ใช้กว่า 2 ใน 3 เห็นตรงกันว่า Tinder ช่วยเปิดโอกาสให้ได้เดทกับคนที่อยู่นอกแวดวงสังคม หรือกลุ่มเพื่อน คนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบกันในชีวิตจริง
5. รัก “ตัวเอง” ก่อนสร้างความสัมพันธ์
ประโยคสุดฮิตของ RuPaul แดร็กควีนในตำนานที่กล่าวไว้ว่า “if you can’t love yourself, how in the hell are you gonna love somebody else?” (ถ้าคุณยังรักตัวเองไม่ได้ แล้วคุณจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร) สะท้อนมุมมองของคน Gen Z ในปัจจุบันได้ดี เพราะคนรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจที่ดีของตัวเอง ก่อนที่จะเริ่มแสวงหาความรักบนเส้นทางแสนโรแมนติกจากคนอื่นๆ Tinder พบว่า 80% ของคน Gen Z ยอมรับว่าการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อออกเดท และ 79% อยากจะให้คนที่มาเป็นคู่ Match ดูแลตัวเองเช่นเดียวกัน
