แกร็บเจาะตลาด B2B เปิดบริการ “GrabAds” สื่อโฆษณาตามติดการใช้ชีวิตคนเมือง ตั้งแต่ออนไลน์จนถึงออฟไลน์

507
จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม

ในยุคที่การตลาดแข่งขันกันรุนแรง นักการตลาดหลายคนแนะนำว่า การโฆษณา ณ จุดขาย หรือ Point of Purchase ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะแบรนด์ได้อยู่ในสายตาของผู้บริโภคขณะที่จับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ กลยุทธ์การตลาดที่วางไว้ หากโดนใจ ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะหยิบลงตะกร้าได้ทันที  Instore Media ในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ จึงกลายเป็นสมรภูมิการตลาดที่หลากหลายแบรนด์จองพื้นที่ชิงกำลังซื้อลูกค้ากันดุเดือด

แต่วันนี้เมื่อผู้บริโภคคุ้นเคยกับชีวิตดิจิทัล การจับจ่ายใช้สอยผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือเป็นเรื่องที่ทุกคนทำกันได้ การสั่งอาหารอร่อยจากร้านที่ไม่เคยไป เป็นเรื่องง่ายๆ บนมือถือ  และการซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตก็ไม่จำเป็นต้องฝ่าการจราจร แย่งที่จอดรถอีกต่อไป เพียงกดสั่งซื้อจากสมาร์ทโฟน ก็มีคนมาส่งให้ถึงบ้าน 

โดย แกร็บ ประเทศไทย เผยถึงสถิติการสั่งซื้อสินค้าบนแอปพลิชั่นแกร็บ ตั้งแต่ปี 2020-2022 เปรียบเทียบได้ว่า หากนำไอศกรีมที่ขายได้มาเรียงต่อกันให้สูงขึ้นไป จะได้เท่ากับความสูงของภูเขาเอเวอร์เรส 113 ลูกเรียงต่อกัน ขณะที่หมูบดที่ถูกขายออกไป หากนำไปทำกระเพราหมูสับ จะได้สูงเท่าตึกมหานคร 14 ตึก เป็นข้อมูลมหัศจรรย์ที่แสดงถึงความนิยมในการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตผ่านทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่า เมื่อความนิยมในการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น การสร้าง Instore Media บนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ จึงเป็นโอกาสทางการตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และแกร็บที่เริ่มเปิดตัวบริการสื่อโฆษณาบนแพล็ตฟอร์มของตนเองมาตั้งแต่ปี 2561 ถึงวันนี้มีให้บริการใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และประเทศไทย  และวันนี้แกร็บ ประเทศไทย ก็พร้อมเปิดตัว  Retail Media Network สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในชื่อ “GrabAds”  อย่างเป็นทางการ

จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ แต่มีการผสมผสานกันอย่างไร้รอยต่อ ทำให้นักโฆษณาและนักการตลาดต้องออกแบบกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคให้สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิต และสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์บนโลกออนไลน์และออฟไลน์ของผู้บริโภคให้ได้อย่างลงตัว หากดูข้อมูลธุรกิจโฆษณาในปี 2565  สื่อออนไลน์และออฟไลน์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลง ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา1 สื่อออนไลน์ยังคงได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 5.6% ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในสื่อออฟไลน์ลดลง 1.9% จากการถดถอยของสื่อโทรทัศน์ ขณะที่สื่อนอกบ้าน (Outdoor & Transit media) มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

“นอกเหนือจากสื่อโฆษณาหลักเหล่านี้แล้ว อีกหนึ่งรูปแบบของสื่อที่กำลังมาแรงในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาคือ สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีก (Retail Media Network) ซึ่งบริหารและให้บริการโดยผู้ประกอบการค้าปลีกหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ถือเป็นช่องทางใหม่ที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในขณะที่กำลังซื้อสินค้าออนไลน์หรือหน้าร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยจุดแข็งของการมีฐานข้อมูลที่มีคุณภาพ ทั้งในด้านพฤติกรรมการจับจ่าย ความชอบ และประวัติการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ทั้งนี้ ในปี 2566 สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีกถือเป็นสื่อที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 32 โดยถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมทั่วทั้งโลกสูงถึง 125.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  และจะสามารถทำรายได้รวมสูงกว่ารายได้จากสื่อโทรทัศน์ได้ภายในปี 2571”

แกร็บเข้าสู่ธุรกิจโฆษณาครั้งแรกในปี 2561 โดยเริ่มจากการนำเสนอสื่อโฆษณาภายในรถยนต์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ ก่อนจะขยายตัวมาเป็นสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มเพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์ร้านค้าหรือแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการในแอปพลิเคชันได้มากขึ้น และถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ครบวงจรภายใต้ชื่อ “GrabAds”  ที่ครอบคลุมช่องทางการโฆษณาทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยล่าสุด GrabAds  ติดอันดับหนึ่งในสามของสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับและมีความรู้สึกที่ดีต่อโฆษณา (Ad Equity) มากที่สุด

ในประเทศไทย GrabAds เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในช่วงสองปีที่ผ่านมา จนได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารและเข้าถึงผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและทรงอิทธิพลด้วย 3 จุดแข็งสำคัญ นั่นคือ การเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์ภายในอีโคซิสเต็มของแกร็บได้อย่างไร้รอยต่อ และการดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ การเข้าถึงข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค 3 จุดแข็งสำคัญของธุรกิจสื่อโฆษณาจาก GrabAds คือ

การเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ (Online-to-Offline Integration within Grab’s Ecosystem): GrabAds นำเสนอโซลูชันด้านการตลาดที่ครบวงจร ตั้งแต่ การสร้างแบรนด์ไปจนถึงปิดการขายกับกลุ่มเป้าหมาย (Awareness to Conversion) ด้วยรูปแบบและกลไกของสื่อที่มีความหลากหลาย ทั้งบนแอปพลิเคชันออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง Masthead Native Banner Search เป็นต้น ที่ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อสินค้า และผ่านทางการให้บริการออฟไลน์ อาทิ สื่อโฆษณาบนรถโดยสาร หรือ กระเป๋าส่งของของพาร์ทเนอร์คนขับ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ

การจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพที่มีกำลังซื้อ (Capturing High-Value Audience): กว่า 60% ของผู้ใช้บริการในประเทศไทยที่เปิดแอปพลิเคชันแกร็บมีการทำการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันในเดือนนั้น จึงทำให้อัตราการคลิกโฆษณา (Click Through Rate: CTR) สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ในประเทศไทย ถึง 3 – 5 เท่า4  นอกจากนี้ จากการสำรวจของแกร็บ5 ยังพบว่า กว่า 77% ของผู้ใช้บริการไทยรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาอยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บ 

การเข้าถึงข้อมูลการใช้จ่ายจริงของผู้บริโภค (First-party Data Insights): ด้วยฐานข้อมูลคุณภาพ ที่รวบรวมพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงของผู้ใช้บริการบนแอปพลิเคชัน Grab ที่ครอบคลุมหลากหลายมิติของการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าใจอินไซต์และเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เช่น ไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิ เมนูอาหารที่ชอบ ประเภทสินค้าที่สั่งเป็นประจำ สถานที่ที่มักเดินทางไปบ่อยๆ รวมถึงวิธีการเดินทาง 

จันต์สุดา กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(F&B) ซึ่งถือเป็นกลุ่มหลักที่ให้ความสนใจและทุ่มงบโฆษณากับ GrabAds แล้ว  ยังพยายามขยายฐานลูกค้าไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย โดยในปีนี้   เริ่มมีลูกค้าใน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods: FMCG) เช่นกลุ่มร้านอาหาร  กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) เช่น วอลโว่ เบนซ์ บีเอ็มดับบลิว ฯลฯ  และ กลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร (Finance & Banking) เช่น Kbank, Kept, AIA  ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตและใช้งบเพื่อทำการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องก็ให้ความสนใจมาใช้บริการGrabAds รวมถึงกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม  และกลุ่มเอนเตอร์เทนต์ ก็มีโอกาสเข้ามาเป็นลูกค้าใช้บริการ GrabAds ในอนาคตเช่นกัน 

“เราเชื่อว่า GrabAds จะเป็นเครื่องมือการตลาดอันทรงพลังที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงเป้าหมายอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพ เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง ไม่ใช่การใช้งบประมาณหว่านแหจับกลุ่มกว้างๆ เหมือนก่อนอีกต่อไป” จันต์สุดา กล่าว

  

1อ้างอิงข้อมูลเม็ดเงินโฆษณาในประเทศไทย โดย Nielsen Advertising Information Service

2 อ้างอิง 2023’s Global Mid-year Forecast by GroupM

อ้างอิง Media Reactions Report 2022 โดย Kantar

4 อ้างอิง ข้อมูลการใช้งานของผู้บริโภคแกร็บในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566

5 อ้างอิง  ข้อมูล CTR ของแกร็บ เปรียบเทียบกับ Wordstream CTR Benchmark

อ้างอิง การสำรวจผู้ใช้บริการของแกร็บในเดือนมกราคม 2566 กับผู้ใช้บริการของแกร็บในประเทศไทยจำนวน 2,933 คน