DRT มองรัฐคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปลุกความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดรักษาอัตรากำไรขั้นต้น 25-27% 

364
สาธิต สุดบรรทัด

‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ ประเมินรัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังซื้อ-ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ปลุกความเชื่อมั่นภาคเอกชนและผู้บริโภค หนุนตลาดวัสดุก่อสร้างปลายปีคึกคัก ส่งสัญญาณแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังทำได้ตามแผน 25-27% ตอกย้ำพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ที่หลากหลายนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง พร้อมแผนบริหาร Product Mix และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90% มั่นใจปีนี้เติบโต 5% แน่นอน   

           สาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า ภายหลังรัฐบาลใหม่เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นกำลังซื้อและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภคผ่านนโยบายต่างๆ ทั้งเงินดิจิทัล การพักหนี้เกษตรกร ปรับลดราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้าและน้ำมัน เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยและกำลังซื้อของผู้บริโภครวมถึงสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้แก่ภาคเอกชนเดินหน้าลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต  

            ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในทุกช่องทางจำหน่าย 4 ช่องทาง โดยเฉพาะลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติม เป็นโอกาสของ DRT นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่มีความพร้อมด้านพอร์ตโฟลิโอด้วยสินค้าที่มีความหลากหลายสามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เข้าไปตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

            ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้จะรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยให้อยู่ที่ระดับ 25-27% ได้ตามเป้าหมาย จากแผนงานการบริหาร Product Mix ในกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรที่ดี และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปี 80-90% เพื่อทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำที่สุด ทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงจากปัจจัยความสำเร็จในการบริหารจัดการด้านการสั่งซื้อวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ เพื่อผลักดันยอดขายทั้งปีเติบโต 5% ตามแผนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป หลังจากในครึ่งปีแรกของปีนี้ ได้เตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้นในวันที่ 15 กันยายนนี้     

          ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเตรียมพร้อมสร้างการเติบโตในปีถัดไป จากแผนการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีต ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/2567 ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการทำตลาดกระเบื้องคอนกรีตในรูปแบบ Roof Solution ตอบสนองความต้องการลูกค้าโครงการผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มเติม