SC Asset แข็งแกร่งต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกสร้างรายได้ 10,136 ลบ. กำไรสุทธิ 1,128 ลบ.

229

อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท  คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำ Living Solutions Provider เปิดเผยว่า “ปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2566 ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มีดังนี้

1. การเปิดโครงการใหม่ ทั้งแนวราบ และ แนวสูง ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา SC ได้เปิด 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ 95E1 (ไนน์ตี้ไฟว์ อีสต์วัน) คือ Ultra Luxury Residenceโครงการใหม่ระดับ 100 ล้านบาท บนทำเลเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพียง 10 ยูนิต และ COBE (โคบบ์) รัชดา-พระราม9 คอนโดมิเนียม ใจกลางย่านธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์วัฒนธรรม ราคาเริ่ม 2.39 ล้านบาท

2. การ SC จับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น “โตเกียว ทาเทโมโน” (Tokyo Tatemono) บริษัทอสังหาฯ ที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่น มีสถานะการเงินที่มั่นคง และ มีวัฒนธรรมการทำงานที่สอดคล้องกับ SC อย่างลงตัว ด้วยการร่วมทุนโครงการแรก คือ เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และยังคงมีแผนร่วมทุนกันในอนาคต

อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์

โดยผลดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 10,136 ล้านบาท เติบโต 12% (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 95% และรายได้จากการเช่าและบริการ 5% มีกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท เติบโต 16% (YoY)  โดยรายได้หลัก จากการขาย 9,621 ล้านบาท เติบโต 12% มาจากรายได้โครงการ แนวราบ 7,597 ล้านบาท และรายได้จากโครงการแนวสูง 2,024 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 111% (YoY)โดยปัจจัยหลัก มาจากการโอน 2 โครงการระดับ Super Luxury  ได้แก่ 28Chidlom, SCOPE Langsuanและมียอดขายรอโอนหรือ Backlog รวม 13,009 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย.66 โดยคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2566 แล้วในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 6 กันยายน 2566”

สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทฯ พร้อมเปิด 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนบราบ 13โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ บ้านชั้นนำจาก SC อาทิ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ,บางกอก บูเลอวาร์ด , เดอะ เจนทริ,  เวนิว ไอดี และ วีคอมพาวด์ และ แนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ COBE และ SCOPE พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าสรรหาที่ดินในทุกทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ สำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

อรรถพล กล่าวสรุปว่า “ในปี 2566 นี้ SC ยังมีโครงการเพื่อขายรวมทั้งหมด 74 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 81,000 ล้านบาท ในสัดส่วนแนวราบ 70% และแนวสูง 30% และ ด้วยความมุ่งมั่นในการเตรียมความพร้อมในทุกด้านของ SC เพื่อรับมือกับปัจจัยความผันผวน ทางเศรษฐกิจ และ การเมือง เรายังคงเชื่อมั่นว่าจะทำสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”