ดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มเบาบางลงในช่วงไตรมาสที่สอง แต่ประเมินว่าทางการจีนกำลังจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลังจากเศรษฐกิจที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ซึ่งล่าสุดธนาคารกลางจีนได้ปรับดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) 1 ปีลดลง 0.10% เหลือ 2.65% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งทำให้ต้นทุนทางการเงินของภาคเอกชนลดลงและอาจช่วยเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่ระดับมูลค่าเฉลี่ยปี Forward P/E ของตลาดหุ้นจีน A-Shares ปรับตัวลดลงมาในระดับ -1SD ถือว่าค่อนข้างถูก และกำไรบริษัทจดทะเบียนยังถูกคาดหมายว่ายังโตได้ในระดับกว่า 10% ทั้งปีนี้และปีหน้า รวมถึงเงินเฟ้อของจีนทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินยังสามารถใช้นโยบายผ่อนคลายได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์ และความเสี่ยงด้านการชะลอตัวของภาคอสังหายังเป็นปัจจัยกดดันที่อาจเข้ามากระทบได้เป็นช่วง ๆ
ดังนั้น บริษัทฯ มองเห็นโอกาสการลงทุนในการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีน จึงได้เปิดตัวกองทุนเปิดอีสท์สปริง China Complex Return 1YA (ES-CHINACR1YA) ซึ่งเป็นกองทุนที่จำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนสูงสุดที่ประมาณ 5% ของเงินต้น (หากไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ลงทุนและค่าเงินดอลลาร์บาทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวันเริ่มต้นสัญญาวอร์แรนท์และวันพิจารณาดัชนีอ้างอิง) พร้อมโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์ที่อ้างอิงกับดัชนี CSI300 โดยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันที่ 12-18 กรกฎาคม 2566 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง China Complex Return 1YA มีกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากและ/หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 94.00 – 95.00% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 96% ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ ซึ่งหากมีการลงทุนต่างประเทศในส่วนนี้จะมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เต็มจำนวน
ส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นสัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี CSI300 ซึ่งไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ในสัดส่วนประมาณ 5-6% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่เป็นบวกจากอัตราการมีส่วนร่วม (Participation Rate) 135% ของการเปลี่ยนแปลงของดัชนี CSI300 หากดัชนีดังกล่าว ณ วันพิจารณา ปิดตั้งแต่ 0% ถึง 25% เมื่อเทียบกับ ณ วันเริ่มต้นสัญญาวอร์แรนท์ รวมถึงไม่มีเหตุการณ์ที่ดัชนีดังกล่าวมีการปิดสูงกว่า 25% ณ สิ้นวันใดวันหนึ่งก่อนถึงวันพิจารณาดัชนีอ้างอิง
“จุดเด่นของกองทุน ES-CHINACR1YA คือโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีใกล้เคียงกับดัชนี CSI300 เนื่องจากสัญญาวอร์แรนท์ให้อัตราการมีส่วนร่วมถึง 135% ในกรณีที่ดัชนีดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน 25% นอกจากนี้ยังจำกัดความเสี่ยงการลงทุนสูงสุดที่ 5% ของเงินต้น (หากไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ลงทุนและค่าเงินดอลลาร์บาทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวันเริ่มต้นสัญญาวอร์แรนท์และวันพิจารณาดัชนีอ้างอิง) โดยส่วนที่เหลือมีความเสี่ยงต่อเงินต้นต่ำมาก เนื่องจากลงทุนเฉพาะในพันธบัตรรัฐบาลไทยและ/หรือพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ ที่มีความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก (International rating) ในขณะที่ผู้ที่ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนดังกล่าวควรสามารถรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง ” ดารบุษป์ กล่าว
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะกรณีที่มีการจ่ายผลตอบแทนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง กองทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็นร้อยละ 96 ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ ดังนั้นผู้ลงทุนลงทุนมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนไม่เต็มจํานวน ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงเวลา 1 ปีได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และกองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในการลงทุนในวอร์แรนท์ ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนจากวอร์แรนท์ตามที่ระบุไว้
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง กองทุนนี้มีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงทางด้านตลาด ความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงทางด้านเครดิตและคู่สัญญา และความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่อง เป็นต้น
