วิริยะประกันภัย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ CSR “ประกันรถ 2+ Good Drive” ชวนคนไทยขับรถดี มีเงินคืนเข้าบัญชี  

467

ธุรกิจประกันรถยนต์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ถือเป็นปีที่ดีของบริษัทประกันภัย ที่มูลค่าการจ่ายค่าซ่อมรถลดลงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประชาชนอยู่กันแต่ในบ้าน ถนนหนทางโล่ง อุบัติเหตุรถชนแทบจะไม่มี และมันคงเป็นเรื่องดีถ้าหากเราขับรถดี ตลอดทั้งปีไม่มีการชน บริษัทประกันไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมแซมรถของเรา เราจะได้เงินประกันคืนกลับมาบ้าง

 ความต้องการนี้ตรงกับใจของผู้ซื้อประกัน ตามข้อมูลดาต้าเบสของลูกค้าที่วิริยะประกันภัยนำมาวิเคราะห์หาความต้องการ ซึ่ง วิริยะประกันภัย ก็มีโครงการขับรถดีมีเงินคืนร่วมกับสถานวิทยุจราจร จส.100  ในชื่อประกันคนรักรถ ที่ดำเนินการมาหลายปี โดยผู้ร่วมโครงการนี้ ถ้าขับรถดีไม่มีอุบัติเหตุตลอดปี  และหากเงินกองทุนในโครงการมีเหลือจากการจ่ายค่าเคลม ก็จะนำมาแบ่งคืนตามอัตราส่วน แต่ในปีนี้ วิริยะประกันภัย นำแนวคิดนี้มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ “ประกันรถ 2+ Good Drive”

สุรชัย ไตรวิทยางกูร

สุรชัย ไตรวิทยางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ทุกความเสี่ยงภัย เราพร้อมเคียงข้างคุณ”  โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูล (Data Driven) จากฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของวิริยะประกันภัย นำมาวิเคราะห์ วิจัย เพื่อคิดค้น พัฒนา ปรับปรุง และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และความเสี่ยงภัย ทั้งในส่วนของความคุ้มครอง และอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของการรับประกันภัยด้านรถยนต์ ซึ่งถือเป็นพอร์ตหลักของวิริยะประกันภัยนั้น บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์ ซึ่งให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป

         “ในปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติดี (Good Drive) กล่าวคือ ขับรถดี ไม่เกิดอุบัติเหตุ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นการตอบแทนและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ขับขี่รถยนต์ ขับรถดีมีวินัย เพื่อลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียทางเศรฐกิจต่อสังคมโดยรวม โดยบริษัทฯ ใช้ฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีอยู่มาวิเคราะห์วิจัย พบว่ากลุ่มผู้เอาประกันภัยที่เลือกใช้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประเภท 5 (2+, 3+) ซึ่งบริษัทฯ รับประกันภัยเป็นจำนวนมาก โดยจากการวิจัยข้อมูลพบว่า ผู้เอาประกันภัยในกลุ่มนี้ไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมฝ่ายประมาทหรือเรียกง่าย ๆ ว่าไม่มีเคลม หรือมีเคลมแต่เป็นฝ่ายถูกมีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน”

            สุรชัย เปิดเผยต่อไปอีกว่า ถ้าใช้วิธีการกำหนดเบี้ยในรูปแบบเดิม คือ การกำหนดจากความเสี่ยงของรถแต่ละยี่ห้อแต่ละบริษัท จะไม่เป็นธรรมต่อผู้เอาประกันภัยกลุ่มนี้ เพราะต่อให้ขับรถดีมีวินัย ไม่เคยเคลมประกันเลยตลอดอายุกรมธรรม์ ต่อเมื่อถึงเวลาต่ออายุกรมธรรม์ใหม่ ผู้เอาประกันภัยในกลุ่มนี้ยังคงต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยในอัตราเดียวกับผู้เอาประกันภัยที่มีการเรียกร้องสินไหมฝ่ายประมาทหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าฝ่ายผิด

“บริษัทฯ เล็งเห็นถึงภาระร่วมของผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติไม่เคยเคลมประกันเลยตลอดอายุกรมธรรม์ผนวกกับความต้องการที่จะส่งเสริมให้คนขับรถดีมีวินัยดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “2+ Good Drive” ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระเบี้ยประกันภัย ซึ่งประเมินว่าน่าจะสามารถลดภาระของผู้เอาประกันภัยให้ต่ำกว่าเบี้ยประกันภัย2+ ทั่วไปโดยเฉลี่ย 12% และรวมไปถึงการเพิ่มเติมความคุ้มครองให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้เอาประกันภัยมากยิ่งขึ้น”

สำหรับรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองของผลิตภัณฑ์ “2+ Good Drive”  ให้ความคุ้มครองหลักเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ 2+ มาตรฐาน ประกอบด้วย คุ้มครองในกรณีรถชนรถเท่านั้น ในวงเงิน 1-5 แสนบาท  คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก คุ้มครองชีวิต ร่างกาย บุคคลภายนอก  คุ้มครองชีวิต ร่างกายผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร นอกจากนี้กรมธรรม์ฉบับนี้ยังเพิ่มเติมความคุ้มครองภัยก่อการร้ายตามทุนประกันภัย และความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลภายในรถยนต์จากการโจรกรรมในวงเงิน 10,000 บาทอีกด้วย  และจะมีความแตกต่างเป็นเงื่อนไขพิเศษอยู่ตรงที่ ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมฝ่ายประมาท ระหว่างปี บริษัทฯ จะคืนเงินให้ทันที 30% ของเบี้ยประกันภัยสุทธิที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไป และจะจ่ายคืนภายใน 15 วัน  นับจากวันหมดอายุกรมธรรม์   โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นที่  8,600 บาท ถึง 1,3900 บาท จำกัดอายุรถไม่เกิน 20 ปี 

สุรชัย กล่าวต่อว่า  ปัจจุบันวิริยะประกันภัยมีผู้เอาประกันในกรรมธรรม์ประเภท 5 อยู่ราว 3-4 แสนกรมธรรม์ ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นกรมธรรม์ 2+  ซึ่งถือว่ายังมีไม่มากหากเทียบกับประกันประเภท 1 ที่ได้รับความนิยมสูง แต่เชื่อว่าความนิยมซื้อกรมธรรม์ 2+ และ 3+ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประเภท 1 แต่มีราคาถูกกว่าครึ่ง  รวมถึงผลิตภัณฑ์ “2+ Good Drive ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจผู้เอาประกันมากขึ้น 

“ผลิตภัณฑ์ประกันใหม่ที่บริษัทฯ ออกมาให้ความคุ้มครองนี้  บริษัทฯ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการขายไว้แต่อย่างใด แต่เป็นการทำตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing) เพื่อมุ่งหวังที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็นแรงจูงใจให้ผู้คนในสังคมขับขี่รถอย่างมีวินัย แน่นอนเมื่อทุกคนขับรถดีมีวินัย อุบัติเหตุทางท้องถนนก็จะเกิดขึ้นน้อยลงตามไปด้วย และแน่นอนว่าความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณราว 5 แสนล้านบาทต่อปี ย่อมลดลงตามไปด้วย และเมื่อผู้ขับขี่มีวินัย มีการเคลมประกันน้อยลง ก็จะทำให้มีการพิจารณาเพิ่มเงินคืนมากถึง 40-50% ก็เป็นไปได้  รวมถึงการขยายผลิตภัณฑ์นี้ไปสู่กรมธรรม์ประเภท 1 ก็เป็นเรื่องที่บริษัทฯ กำลังศึกษาอยู่และอาจมีออกได้ในอนาคต” สุรชัยกล่าว