กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จับมือ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำกลุ่มบริษัทพลังงานครบวงจรระดับภูมิภาค และบริษัท เทสท์อิงค์ เอเชีย จำกัด เดินหน้าผลักดัน Soft Power อาหารไทยในมิติแห่งความเป็นยา และมุ่งยกระดับวงการอาหารไทยในระดับประเทศ จัดงาน “Thai Taste Therapy Challenge by Worldgas ครั้งที่ 2” พร้อมพัฒนาศักยภาพและทักษะของบุคลากรควบคู่การเชิดชูมรดกภูมิปีญญาทางวัฒนธรรม สานต่อความสำเร็จจากการแข่งขันในปีแรกซึ่งมีผู้สมัครมากกว่า 150 ทีม
คุณชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริม การพัฒนาและเผยแพร่ภูมิปัญญาวัฒนธรรมผ่านแรงขับเคลื่อน Soft Power เพื่อชูความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งอาหารไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศ สามารถนำมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจได้หลากหลายส่วน ทั้งนี้ “โครงการ Thai Taste Therapy Challenge ครั้งที่ 2” เป็นการการแข่งขันทำอาหารที่ส่งเสริมและสร้างการรับรู้ความมหัศจรรย์ของอาหารไทยในมิติของโภชนเภสัช และไม่ได้มีเพียงรสชาติความอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่มีประโยชน์ด้านสุขภาพเช่นกัน ดังคำที่ว่า อาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” จึงอยากเชิญชวนคนไทยให้มาร่วมกันพิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่รู้จักไปพร้อมกัน”
คุณชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “เวิลด์แก๊ส โดยดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ได้ยืนหยัดเคียงข้างครัวไทยมากว่า 43 ปีแล้ว เราตั้งมั่นในปณิธานที่จะสานต่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น ผ่านแนวคิด ‘เคียงข้าง สร้างรอยยิ้ม’ ผ่านโครงการภายใต้พันธกิจ ‘WE Promise’ ทั้ง 4 ข้อ ซึ่งครอบคลุมการสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น การให้คุณค่าและยกระดับวัฒนธรรมไทย การสนับสนุนการศึกษา และการรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงยังคงสานต่อความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และเทสอิงค์ เอเชีย จัดการแข่งขันทำอาหาร Thai Taste Therapy Challenge ครั้งที่ 2 เพื่อต่อยอดเส้นทางวงการอาหาร ซึ่งเป็นไปตาม Soft Power ภูมิปัญญาอาหารไทยไปพร้อมกัน”
คุณไอริณ ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้อำนวยการ บริษัท เทสท์อิงค์ เอเชีย จำกัด กล่าวถึงการแข่งขัน Thai Taste Therapy Challenge ในครั้งนี้ว่าจะเน้นการรังสรรค์และใช้นวัตกรรมผ่านวัตถุดิบไทย ผู้เข้าแข่งขันสามารถทำอาหารเมนูไทยประยุกต์จากวัตถุดิบไทยในรูปแบบใดก็ได้ โดยสามารถประยุกต์การใช้นวัตกรรมต่างๆ ภายใต้กรอบแนวคิด อาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” ทั้งนี้ โครงการฯ มุ่งสนับสนุนให้คำนึงถึงการลด Food Waste ในการรังสรรค์เมนูในปีนี้จะได้รับคะแนนพิเศษอีกด้วย
การแข่งขัน Thai Taste Therapy Challenge Episode 2: Food Innovation เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท โดยเมนูของผู้ชนะจะถูกนำไปขายจริงในโรงแรมระดับห้าดาว เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2565 ประกาศผลรอบคัดเลือกวันที่ 31 ตุลาคม 2565 และประกาศผลรอบชนะเลิศ วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ติดตามข่าวสารของโครงการฯ ได้ทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/thaitastetherapy และเว็บไซต์ www.thaitastetherapy.com
