พีเค-พัสกร วรรณศิริกุล ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พรรคกล้า กล่าวถึงแคมเปญ ‘Creative Politics For Creative Thailand’ ว่า ‘การเมืองสร้างสรรค์’ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทย และในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ก็อยากเห็นประเทศไทยลดความตึงเครียดจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะการเมืองสร้างสรรค์เป็นทฤษฎีที่พยายามจะต่อสู้กับความคิดแบบขาวดำที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
“การเมืองสร้างสรรค์ในความคิดของผมคือการวัดที่บุคคลว่าความคิดของเขาเป็นอย่างไร แล้วการกระทำของเขาสะท้อนอะไร พวกเราในฐานะ ส.ส. หรือผู้แทนของประชาชน เราจะคาดหวังให้ประชาชนที่เราเป็นตัวแทนอยู่ร่วมมือกันได้อย่างไร เชื่อว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคคือผู้แทนของคนกลุ่มหนึ่ง ถ้าเกิดว่าเรามองแค่พรรคเดียว มันจะต่างอะไรกับเผด็จการ ทุกพรรคการเมืองมีหน้าที่ไม่เหมือนกันและเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางความคิดของคนไทย บางพรรคขับเคลื่อนเรื่องรัฐสวัสดิการ บางพรรคต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม บางพรรคเน้นเรื่องศาสนา บางพรรคทำเรื่องเศรษฐกิจ แต่ละพรรคมีความคิดเห็นและมุมมองต่างกันในการจัดลำดับว่าอะไรสำคัญกว่ากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การคิดต่างไม่ได้แปลว่าเขาผิดหรือเลวร้าย เพียงแต่เขาอาจแค่คิดว่าบางอย่างควรรอ และบางอย่างควรลงมือทำก่อน”
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหลากหลายวงการ ทั้งจากพรรคการเมือง นักธุรกิจ คนบันเทิง ศิลปะ รวมถึงนักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมครอบครัว เพื่อร่วมประชุมแลกเปลี่ยนมุมมอง โดยคนรุ่นใหม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและปลดล็อคการทำธุรกิจสร้างสรรค์ ศิลปะ วัฒนธรรมร่วมสมัย โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อผลักดันแนวคิดไปสู่รูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเรื่องการผลักดัน พรบ.ภาคประชาชน ที่สามารถส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อเป็นใบเบิกทางให้เกิดการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ปลดล็อคปัญหาไปไม่ได้สุดทางเหมือนที่ผ่านมา
นายพัสกร กล่าวว่า ในส่วนที่พรรคกล้าได้ทำงานมาตลอดคือ 1. การยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านความคิดสร้างสรรค์ และ 2. การส่งออกธุรกิจสร้างสรรค์ พร้อมทั้งเปิดเผยถึงการต่อยอดเปิดย่านวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศว่า ในเดือนกันยายน ประเทศไทยจะเป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งแรกในต่างประเทศที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งตนได้ทำงานร่วมกับโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ในฐานะประธานกรรมการ “Thai Creative Culture Initiative” หรือโครงการวัฒนธรรมไทยสร้างสรรค์ โดยศูนย์แห่งนี้จะเป็นฮับเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เช่น ห้องเรียนภาษาไทย, ห้องเรียนนวดไทย, ห้องเรียนมวยไทย และอื่นๆ อีกมากมาย จุดประสงค์คือไม่ต้องรอต่างชาติมาเมืองไทย แต่เราจะไปหาเขาถึงหน้าบ้าน ให้เขาเห็นว่าเมืองไทยมีความเจ๋งอย่างไรบ้าง นี่คือแผนที่เราจะยกระดับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ชีวิตวัยเกษียณของชาวต่างชาติ, การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์, การท่องเที่ยวเชิงสันทนาการ, อุตสาหกรรมบันเทิงยามค่ำคืน ไปจนถึงการยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตามมา
“แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เราจะเริ่มด้วยการเปิดตลาดนัดสร้างสรรค์ หรือ Creative Market ที่เราจะทำโรดโชว์ไปตามหัวเมืองใหญ่ในประเทศไทย โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ ที่จะจัดต้นเดือนสิงหาคม เราอยากจะจัดที่สวนสราญรมย์ เป็นการเปิดพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ ได้ครีเอทผลงานกันอย่างเต็มที่แล้วนำมาวางจำหน่าย เป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน” นายพัสกร กล่าวปิดท้าย
