โตชิบา ตั้งเป้าโต 20% รุกหนักครึ่งปีหลัง เปิดตัวสินค้าใหม่ 53 รุ่น ชูเทคโนโลยี IOT

455

โตชิบา ไทยแลนด์ เปิดแผนรุกหนักครึ่งปีหลัง’65 ตั้งเป้าเติบโต 20% สอดรับกับการเติบโตรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดตัวสินค้าใหม่ 53 รุ่น โดยเป็นสินค้า IOT มากถึง 18 รุ่น เดินหน้ารุกตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์ เน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น  

มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งปีแรกในประเทศไทยว่ามีอัตราการเติบโตค่อนข้างคงที่ จากสถานการณ์โควิดต่อเนื่องยาวนาน ประกอบกับภาวะสงคราม ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน ค่าขนส่งที่สูงขึ้น สภาวะเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจไม่ดีตามคาด แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ตาม แต่สำหรับครึ่งปีหลัง โตชิบาตั้งเป้าเติบโต 2 ดิจิต โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์ด้านต่างๆ จะเริ่มเป็นบวกมากขึ้น รวมไปถึงเทศกาลต่างๆ ในปลายปีที่น่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

“ในส่วนของโตชิบา ไทยแลนด์ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เติบโตต่อเนื่อง 2 ดิจิตมาตลอด และสำหรับครึ่งปีแรก บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ ปี 2565 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตโดยแยกแต่ละหมวด โดยสินค้ากลุ่มตู้เย็นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 13.8% เป็น 17.4% ส่วนกลุ่มเครื่องซักผ้าคาดว่าจะเพิ่มจาก 9.6% เป็น 11% กลุ่มไมโครเวฟคาดว่าจะเพิ่มจาก 19.5% เป็น 21.5% หม้อหุงข้าวคาดว่าจะเพิ่มจาก 5.8% เป็น 8.5% และเครื่องทำน้ำอุ่นคาดว่าจะเพิ่มจาก 9.3% เป็น 10%”

“สำหรับทิศทางของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลัง เราตั้งเป้าเติบโต 20% รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งและทันสมัยยิ่งขึ้น เน้นการทำตลาดกลุ่ม Middle to High โดยนำสินค้านวัตกรรมเข้ามาเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่รักความสะดวกสบาย ชอบเทคโนโลยี รักการเป็นผู้นำ ในขณะเดียวกันยังคงใส่ใจในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ Young Generation ที่เน้นดีไซน์ ความคุ้มค่า (Value for Money) และความเป็นตัวตน (Unique)”

“กลยุทธ์การตลาดในปีนี้ บริษัทฯ เน้นในเรื่อง 1) การเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า รวมไปถึงจำนวนไลน์อัพสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น 2) เน้นการทำตลาดในกลุ่มสินค้า IOT ซึ่งเข้ามาจำนวน 18 รุ่น ที่สามารถเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์กับแพลตฟอร์มอัจฉริยะ TSmartLife ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดายทุกที่ทุกเวลา 3) เน้นการทำตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการเข้าถึง รับรู้ และมีประสบการณ์ในการใช้งานก่อนการตัดสินใจซื้อ 4) การให้ความสำคัญกับคู่ค้า รวมถึงพนักงานขาย 5) การพัฒนาศูนย์บริการและงานบริการให้รวดเร็วและเพียบพร้อมสำหรับรองรับจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น และ 6) การพัฒนาระบบไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในแง่งานขาย การตลาด และการบริการ”

นางสาวธัญปภัสส์  อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงครึ่งปีหลังว่า โตชิบาจะทุ่มงบการตลาดมากขึ้น เพื่อทำกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ทั้งในเรื่องการสร้างการมองเห็นของแบรนด์ (Brand Visibility) ผ่านการปรับโฉมหน้าร้านค้าทั่วประเทศให้ดูทันสมัยขึ้น รวมถึงการใช้สื่อโฆษณาต่างๆ ทั้งในรูปสื่อออนไลน์ การทำดิจิทัลและโซเชียลมาร์เก็ตติ้งแคมเปญ การใช้ KOLs (Key Opinion Leaders) ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์มาเป็นกระบอกเสียงให้แบรนด์ และสื่อออฟไลน์ อาทิ วิทยุ สื่อนอกบ้าน (Out of Home) สื่อ Transit รวมไปถึงการทำแคมเปญส่งเสริมการขาย และโรดโชว์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานจริง ณ ร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายและย่านชุมชน

“สำหรับสินค้ากลุ่ม IOT ที่เป็นสินค้าไฮไลท์ในครึ่งปีหลัง มุ่งหวังเจาะกลุ่มคนรักเทคโนโลยี ชื่นชอบในนวัตกรรม ซึ่งเป็น Niche Market แต่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในทุกๆ ปี เราตั้งเป้าวางสินค้าในร้านค้าหลักกว่า 100 สาขาทั่วประเทศในปีนี้ และขยายเป็นกว่า 300 สาขาในปีถัดไป พร้อมปูพรมดิสเพลย์ให้โดดเด่นภายใต้ชื่อ TSmartLife รวมไปถึงการเตรียมสื่อดิจิทัลและคอนเทนต์ การโปรโมทสินค้าในรูปแบบดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่เจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน TSmartLife ยังสามารถเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับ Google Assistant และ Alexa เพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น”

มร.ริค หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ รวม 63 รุ่น โดยเปิดตัวในครึ่งปีหลัง 53 รุ่น แบ่งเป็นตู้เย็น 13 รุ่น เครื่องซักผ้า 16 รุ่น และสินค้ากลุ่ม Small Appliance อาทิ ไมโครเวฟ เตาปิ้งย่าง หม้อหุงข้าว เครื่องฟอกอากาศ พัดลม เครื่องดูดฝุ่น เครื่องล้างจาน เครื่องกรองน้ำ และตู้กดน้ำ รวม 24 รุ่น โดยสินค้าไฮไลท์ ได้แก่ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ รุ่น GR-RS780WI-PGT(22) ความจุ 21 คิว, ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น GR- GR-RF605WI-PMT(06) ความจุ 18 คิว, ตู้เย็น 2 ประตู แบบช่องแช่แข็งด้านล่าง รุ่น GR-RB410WE-PMT(06), เครื่องซักผ้าฝาหน้า DUAL DRUMS รุ่น TWD-BL160D4T(MG), เครื่องอบผ้า ระบบ Heat Pump รุ่น TD-BK110G4T ความจุ 10 กิโลกรัม, เครื่องซักผ้า ฝาบน รุ่น AW-DUM1300KT(SG) ความจุ 12 กิโลกรัม, เตาอบไอน้ำไฟฟ้า รุ่น MS5-STR30SC(BK) ความจุ 30 ลิตร, หม้อหุงข้าว ลดน้ำตาล รุ่น RC-18IRSTH(K) ความจุ 1.8 ลิตร และเครื่องล้างจาน อัตโนมัติ ประเภทตั้งพื้นรุ่น DW-14F2(BS)-TH เป็นต้น

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวย้ำว่า มั่นใจว่าปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น และจะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป พร้อมกับ ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย โดยไม่เพียงแต่จะนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีญี่ปุ่นที่ผ่านขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งในเรื่องคุณภาพ ความสะดวกสบาย ดีไซน์ ไปจนถึงการประหยัดพลังงานและรักสุขภาพ แต่ยังมีการบริการจากทีมงานมากประสบการณ์ของบริษัทฯ ควบคู่ไปกับแคมเปญดีๆ อย่าง #Details Matter ซึ่งเป็นแนวทางการสร้างแบรนด์แบบยั่งยืนของโตชิบา

“ไม่ใช่แค่การจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพ การให้บริการที่ดี ราคาจับต้องได้ แต่กว่าจะมาเป็นทุกผลิตภัณฑ์ของเรา เรารับฟังและคำนึงถึง ‘สิ่งเล็กๆ’ ที่หลายคนอาจมองข้าม พัฒนาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสรีระผู้ใช้ เกิดความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย ประหยัด หรือแม้แต่เฮลธ์ตี้ยิ่งขึ้น เหล่านี้คือการสร้างแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่น และศรัทธาอย่างแท้จริงและยั่งยืน ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าโตชิบาใส่ใจทุกรายละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคิดค้นและผลิตสินค้า การทำการตลาด การดูแลพาร์ทเนอร์และลูกค้า การพัฒนาพนักงานขายให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของลูกค้า และกิจกรรมเพื่อสังคม”