“กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์” วางกลยุทธ์ Tech & Talk ขยายตลาดสู่ประกันสุขภาพ พาสู่เป้า 9 พัน ลบ.

349

ถึงแม้ธุรกิจประกันภัยในรอบปีที่ผ่านมาจะพบกับมรสุมกระหน่ำจากวิกฤตโควิด-19 จมมีบริษัทประกันบางแห่งต้องปิดตัวลง แต่ความเชื่อมั่นในการทำประกันของผู้บริโภคก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป เพราะด้วยสภาพสังคมที่ผู้คนเสี่ยงเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ข้อมูลของ Global Health Expenditure Database ระบุว่า ในปี 2018 สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศไทยคิดเป็น 3.8% ของจีดีพี แม้ยังเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงมาก แต่ตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ก็ยิ่งทำให้การใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงขึ้น ตามอย่างประเทศญี่ปุ่นที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุไปก่อนหน้า มีสัดส่วนการใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงถึง 10.7% ของจีดีพี และเมื่อผู้คนต้องเตรียมงบก้อนโตไว้เพื่อการดูแลสุขภาพ รักษาตัวเองยามเจ็บป่วย แก่เฒ่า การทำประกัน จึงถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง 

“กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ผู้นำโบรคเกอร์ประกันภัยยานยนต์ จับตาเทรนด์นี้ พร้อมประกาศเกมรุกในธุรกิจประกันสุขภาพ และประกันด้านอื่นๆ ด้วยการวางกลยุทธ์ “Tech & Talk” ที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ส่งมอบผลิตภัณฑ์ประกันที่ตอบโจทย์ตรงใจที่สุด  

ชญาน์ธิป พันธุ์มณี

ชญาน์ธิป พันธุ์มณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจประกันภัยมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ จาก 2 ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากสังคมสูงวัย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว โดยรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยระบุว่า มูลค่าตลาดประกันภัยออนไลน์ในปี 2564 ยังมีสัดส่วนเพียงประมาณ 2% ของมูลค่าตลาดโดยรวม จึงชี้ให้เห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ชญาน์ธิป กล่าวต่อว่า กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ เป็นผู้นำธุรกิจประกันภัยที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและบริการที่ครบวงจรในเซ็กเมนต์ประกันภัยยานยนต์ อีกทั้งยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยอื่นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อตอบรับการเติบโตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จึงได้วางกลยุทธ์รุกตลาดในปีนี้ โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ประกันภัยให้สะดวกสบาย และตอบอินไซต์ความต้องการได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้นด้วยกลยุทธ์ “Tech & Talk” ผ่าน 2 แนวทาง ประกอบด้วย 

Tech บริการครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม สะดวกรวดเร็ว มากกว่าคำว่าง่าย : ส่งมอบบริการในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์หลัก  ตั้งแต่ เว็บไซต์, GO Application by Krungsri Auto และ LINE Official Account โดยมีผู้ช่วยด้านประกันภัย “คานะ (KANA)” อำนวยความสะดวก ตั้งแต่การเปรียบเทียบราคา กรอกข้อมูล ชำระเงิน และส่งกรมธรรม์ออนไลน์ 

สำหรับในปีนี้ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ เตรียมเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการบน GO Application by Krungsri Auto ได้แก่ ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และเปิดให้บริการประกันเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนา “คานะ” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการบริหารจัดการพอร์ตประกันภัยในอนาคต

Talk คำปรึกษาเชิงลึก ต่อติดทุกจุดบริการ และประสบการณ์ที่แตกต่าง: เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า ผ่านการให้คำแนะนำโดยพนักงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ การออกแบบประสบการณ์ที่เอื้อให้ลูกค้าขอรับคำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ แม้จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ โดยการให้คำแนะนำทั้งหมดนี้ยังมีพื้นฐานอยู่บนการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ซึ่งทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละรายและช่วงเวลาอย่างแท้จริง

ชญาน์ธิป กล่าวถึงแคมเปญการตลาดในไตรมาสสองว่า  กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ วางจุดขายในด้านความคุ้มค่า เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยมีแคมเปญหลัก คือ ประกันภัยยานยนต์ชั้น 2+ ค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 5,700 บาท สำหรับรถยนต์และรถกระบะ และเริ่มต้น 8,900 บาท สำหรับบิ๊ก ไบค์ พร้อมทางเลือกในการแบ่งจ่ายเงินสดสูงสุด 6 งวด*

“ตลอดการดำเนินธุรกิจเกือบ 30 ปี เราเชื่อว่าการเพิ่มประสิทธิภาพบริการด้วยเทคโนโลยีต้องมาพร้อมกับคำปรึกษาที่ตรงใจและจริงใจต่อลูกค้า เราจึงมั่นใจว่า กลยุทธ์ ‘Tech & Talk’ จะสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่แบรนด์   กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้ามูลค่าเบี้ยประกันภัยรวมในปี 2565 ไว้ 9,000 ล้านบาท เป็นเบี้ยประกันภัยดิจิทัล  350 ล้านบาท รวมถึงการตอกย้ำความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเซ็กเมนต์ประกันภัยยานยนต์และประกันภัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน” ชญาน์ธิปกล่าว 

*โปรโมชันสำหรับรถยนต์และรถกระบะ เริ่มต้นแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 – 30 มิถุนายน 2565 และบิ๊ก ไบค์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 – 30 มิถุนายน 2565 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด