การจะเป็นอันดับ 1 ในตลาด ไม่ได้เกิดขึ้นจากการตั้งหน้าตั้งตาขายเพื่อสร้างรายได้แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่แบรนด์ต้องกลับมาดูคนรอบข้างในธุรกิจ เพื่อช่วยให้เขาเหล่านั้นมั่นคงเติบโต และก้าวเดินไปด้วยกัน เหมือนดังเช่น โครงการ GrabAcademy ที่ แกร็บ ประเทศไทย มุ่งมั่นให้ความรู้เพื่อนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพกับผู้เกี่ยวข้องรอบด้าน ตั้งแต่ไรเดอร์คนขับรถ ร้านค้า ร้านอาหารที่อยู่ในแพลตฟอร์ม และล่าสุดก็ถึงเวลาของร้านเล็ก ๆ ที่ไม่มีทุนรอนจะทำการตลาดโปรโมทร้าน จะได้เรียนรู้ในการทำการตลาด จัดโปรโมชั่น ไปถึงการบริหารการเงิน แบบเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ และนำไปใช้ได้จริง
วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า GrabAcademy คือหนึ่งในโครงการของ Grab for Good ซึ่งอยู่ในรายงาน ESG (Environment, Social & Governance) ของแกร็บ ที่ไม่ได้มุ่งแค่ความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในสังคม ด้วยความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่มีต่อคนกลุ่มต่าง ๆ ในวงจรธุรกิจของแกร็บ ซึ่งแกร็บ ประเทศไทย นำโครงการนี้มาผนวกเข้ากับการธุรกิจ นอกเหนือจากการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั้งไรเดอร์ และร้านค้าแล้ว ยังมีโครงการเสริมทุนให้กับร้านอาหารขนาดเล็ก เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้กับธนาคาร วงเงินไม่เกินหนึ่งแสนบาท และล่าสุดคือการพลิกโฉมคอร์สอบรมออนไลน์สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารขนาดเล็ก ด้วยการนำ 6 กูรูตัวจริงเรื่องธุรกิจและการเงินมาร่วมถ่ายทอดเคล็ดลับและประสบการณ์จริงผ่านหลักสูตร “GrabAcademy ร้านเล็กเก่งไวใน 5 นาที”
โดย จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า เป็นเวลากว่าสองปีที่ แกร็บ ประเทศไทย ได้ริเริ่มโครงการ GrabAcademy หรือ Grab ให้ความรู้ โดยในปีแรกเป็นการร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า ซึ่งมีเป้าหมายในการสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อมุ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์มของแกร็บ ซึ่งที่ผ่านมามีการสำรวจความคิดเห็นและความพึงพอใจของผู้เข้าอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาปรับปรุงคอร์สต่างๆ ให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด
ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย ได้พลิกโฉมคอร์สให้ความรู้สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารโดยได้ 6 กูรูผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีมาร่วมแชร์ความรู้และ เคล็ดลับจากประสบการณ์จริงในรูปแบบ คลิปวิดีโอสั้นที่ช่วยให้ร้านเล็กๆ เก่งได้ภายใน 5 นาที ครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย การบริหารจัดการร้านอาหารและธุรกิจเดลิเวอรี การทำการตลาดและโปรโมชัน และการบริหารจัดการด้านการเงิน
“GrabAcademy ร้านเล็กเก่งไวใน 5 นาที” ได้รับเกียรติจาก 6 กูรู ประกอบด้วย คุณเฟิร์น – นัทธมน พิศาลกิจวนิช เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย, คุณบุ๋ม – บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ กูรูด้านการตลาดชื่อดัง, โค้ชหนุ่ม คุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์ จากเพจ Money Coach, คุณจั่นเจา – สกลณัฏฐ์ ชัยกีรติจินดา และคุณโบว์ – รมย์ลักษณ์ เนียมเครือ จากร้านโคตรยำ และบังฮาซัน อินฟลูเอนเซอร์ และเจ้าของธุรกิจอาหารทะเลตากแห้งชื่อดัง ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ผ่าน 11 คอร์สสุดปังที่โดนใจร้านอาหารยุคดิจิทัล อาทิ หัวใจสําคัญของการจัดการเดลิเวอรี เทคนิคบริหารจัดการเงินสำหรับคนทำธุรกิจ การสร้างจุดขายให้ต่างจากคู่แข่ง เทคนิคการโปรโมทสินค้าให้เป็นที่จดจำ ฯลฯ
“เราเชื่อว่าองค์ความรู้เหล่านี้เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จที่เข้ามาช่วยเสริมแกร่งธุรกิจให้กับพาร์ทเนอร์ของเรา ให้สามารถรับมือกับความท้าทายในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังได้ส่งต่อความรู้ดีๆ เหล่านี้ไปยังบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในการทำธุรกิจร้านอาหารแบบเดลิเวอรีผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง YouTube และ TikTok ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย” จันต์สุดา กล่าว
นัทธมน พิศาลกิจวนิช เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย หนึ่งในกูรูที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการร้านอาหารและธุรกิจ เดลิเวอรีกล่าวว่า “ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจร้านอาหารในยุคปัจจุบันต้องพร้อมปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากการบริหารจัดการหน้าร้านให้มีประสิทธิภาพและต้องสามารถทำกำไรได้แล้ว การปรับรูปแบบธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ เปรียบได้กับการขยายสาขาบนโลกออนไลน์ ที่ไม่เพียงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แต่ยังทำให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและต่อยอดความสำเร็จให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาล โดยผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจ 5 หัวใจสำคัญของการทำเดลิเวอรี ตั้งแต่การวางแผนเรื่องคนหรือทีมงาน การวางแผนเรื่องวัตถุดิบ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการจัดส่งแบบเดลิเวอรี การวางแผนการใช้งานแอปพลิเคชันให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการบริหารต้นทุนและการทำโปรโมชัน ซึ่งรายละเอียดต่างๆ สามารถเรียนรู้ได้จากหลักสูตร GrabAcademy ที่เราได้ถอดบทเรียนมาจากประสบการณ์จริงในการบริหารธุรกิจของสุกี้ตี๋น้อยจนประสบความสำเร็จ”
ด้าน กูรูนักการตลาดมือฉมังอย่าง บุ๋ม – บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ กล่าวว่า “เนื่องจากผู้บริโภคในยุคดิจิทัล สามารถเข้าถึงทางเลือกที่ไม่จำกัดได้ตลอดเวลา การสร้างภาพจำเพื่อชูจุดขายที่แตกต่างให้กับแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องหมั่นลับคมธุรกิจด้วยเทคนิคการตลาดใหม่ๆให้สามารถครองใจลูกค้า โดยการสร้างจุดขายให้ต่างจากคู่แข่งมี 4 เทคนิคสำคัญ คือ 1) การทำสินค้าให้แตกต่างโดยถ่ายทอดผ่านรูปถ่ายที่โดดเด่นหรือบรรจุภัณฑ์ที่สร้างความประทับใจ 2) การให้บริการที่แตกต่าง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าแม้จะเป็นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การใส่โน้ตเล็กๆ เพื่อขอบคุณ 3) การเล่าเรื่องให้แตกต่าง ด้วยการใส่เรื่องราวเข้าไปในการแนะนำอาหาร และ 4) การขยายช่องทางการสื่อสารให้กว้างขึ้นและสร้างความแตกต่าง ผ่านการใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Instagram หรือ Tiktok ซึ่งในหลักสูตรของ GrabAcademy ก็ได้รวบรวมกลเม็ดเคล็ดลับเหล่านี้ที่จะช่วยให้ร้านอาหารไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อพิชิตใจลูกค้าได้อย่างแน่นอน”
จันต์สุดา กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจ Food Delivery ว่า ตลาดยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลายลงและผู้คนเริ่มกลับไปทำงาน หรือออกจากบ้านมากขึ้น เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมการสั่งอาหารออนไลน์กลายเป็นเรื่องคุ้นเคยในชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว อีกทั้งการที่แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ขยายไปสู่เมืองรอง ก็จะช่วยให้ตลาดขยายตัว นอกจากนั้น วันนี้ร้านอาหารเล็กๆ รถเข็น แผงลอย เริ่มเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มมากขึ้น ก็ทำให้ตลาดมีโอกาสเติบโตมากขึ้น แม้อาจจะชะลอตัวลงจากช่วงโควิด-19 ระบาดรุนแรง แต่ด้วยมูลค่าร้านอาหารที่มีกว่า 4 แสนล้านบาทต่อปี แต่มูลค่าธุรกิจFood Delivery มีเพียง 7.9 หมื่นล้านบาท ก็ทำให้เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
