ยุทธศาสตร์ ABCDE นำเอไอเอก้าวสู่ Digital Insurer พาสุขภาพและชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

422

ท่ามกลางความปั่นป่วนของธุรกิจประกันที่ทำเอาหลายๆ บริษัทโซซัดโซเซจากพิษโควิด-19  เจอ-จ่าย-จบ แต่เอไอเอ ประเทศไทย ที่ยังคงยึดมั่นกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง  ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives  ให้ความสำคัญกับการขายประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์ และประกันสุขภาพที่แท้จริง ทำให้ยังคงความเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทยอย่างมั่นคง และวันนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศยุทธศาสตร์เดินหน้าสู่การเป็น Digital Insurer ตัวจริงแห่งแรกของไทย ตามติดพฤติกรรมความเป็นอยู่ของลูกค้าอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น  เพื่อยกระดับสุขภาพและชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นอีก

กฤษณ์ จันทโนทก

 กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิต แต่ในวิกฤต เอไอเอ ประเทศไทย ได้มองเห็นโอกาสและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจน  ในการส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni Channel) ของเอไอเอ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะจากช่องทางใด ซึ่งความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทยในปี 2564 ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ นั้น มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุกฝ่ายและตัวแทนประกันชีวิตทุกท่านที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives

ซึ่งยุทธศาสตร์ในการพาเอไอเอ ประเทศไทย ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งอย่างยั่งยืน ทั้งการดูแลลูกค้า  การเพิ่มศักยภาพตัวแทนประกันชีวิตผ่านการขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล และการสร้างธรรมาภิบาล  รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม  กฤษณ์ ได้วางแนวทางไว้ผ่านกลยุทธ์ ABCDE ประกอบด้วย

  • A – Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ผลักดันสู่การเป็น Digital Agent ในอนาคต ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริการแก่ลูกค้า เช่น นวัตกรรม AIA iSign ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำประกันชีวิตได้แบบไม่ต้องพบหน้ากัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางและลดการสัมผัส อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพแม้ในยามวิกฤติ
  • B – Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร เอไอเอมุ่งมั่นมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อสร้างอีโคซิสเทม (Ecosystem) ให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
  • C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สำหรับการพัฒนาในทุก ๆ ก้าว เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด
  • D – Digitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัล กับการเป็น Digital Insurer โดยมุ่งเฟ้นหาและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล
  • E – ESG (Environmental, Social and Governance) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านกลยุทธ์ ESG ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงพันธกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอกับ AIA One Billion ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนทั่วเอเชียกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2030

กฤษณ์มองว่า หนึ่งในความท้าทายของธุรกิจประกัน คือการเข้ามาของดิจิทัล เอไอเอจึงเริ่มและวางรากฐานเพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Insurer มาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้ทันยุคสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

“เราใช้ TDA Strategy (Technology, Digital and Analytics) ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึก (Insight) และความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รวมถึงการปรับใช้ภายในองค์กรเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นระบบการทำงานภายในและบริการดิจิทัลต่าง ๆ เช่น

  • AIA iSign นวัตกรรมแรกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนประกันชีวิตในการบริการลูกค้า ตอบโจทย์การซื้อประกันทุกรูปแบบได้โดยไม่ต้องพบหน้ากัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีตัวแทนประกันชีวิตใช้งาน AIA iSign แล้วกว่า54.4% ของตัวแทนประกันชีวิตทั้งหมด (5)
  • ALive Powered by AIA แอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่มอบความรู้และบริการด้านสุขภาพอย่างครบครัน ช่วยดูแลคนไทยทุกคน ไม่เฉพาะสำหรับลูกค้าเอไอเอเท่านั้น โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนี้แล้วกว่า 436,000 ราย (6)
  • AIA iService แอปพลิเคชันที่ครอบคลุมทุกเรื่องกรมธรรม์ ที่ลูกค้าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้แค่ปลายนิ้ว รวมถึงบริการ iClaim ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเรียกร้องสินไหมและตรวจสอบสถานะผ่านทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันนี้

และภายในปีนี้ เราจะสร้างประสบการณ์ในโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อกับแอปพลิเคชันใหม่จากเอไอเอที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ”

ล่าสุดได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ผ่านโครงการ AIA x RISE Accelerator ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญของเอไอเอ ประเทศไทย ที่จะให้พนักงานของเอไอเอได้เรียนรู้และร่วมกันสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อช่วยส่งเสริมให้เอไอเอส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า และยกระดับธุรกิจประกันชีวิตไทยให้พร้อมก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

“เอไอเอตั้งเป้าที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา และเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าตลอดกาล เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง มั่งคั่ง และมั่นคง ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ และด้วยกลยุทธ์ที่แน่วแน่นี้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถผลักดันให้เอไอเอครองใจลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพร้อมเป็นผู้นำ Digital Insurer ของไทย”  กฤษณ์ กล่าว

กฤษณ์ ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ทั้งจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ในขณะที่คนไทยยังไม่พร้อมเกษียณ  นอกจากนี้ ประกันสังคมที่ถูกปรับลดลง อีกทั้ง อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เอไอเอก็พร้อมนำเสนอโอกาสด้านอาชีพตัวแทน AIA Financial Advisor หรือ AIA Life Advisor ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่มั่นคง และสร้างคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น ด้วยการพัฒนาระบบการทำงานและการบริการโดยใช้กลยุทธ์ ABCDE มาเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคง พร้อมมอบความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตของคนไทย

สำหรับผลประกอบการของเอไอเอ ประเทศไทย ในปี 2564 ที่ผ่านมา เอไอเอ ยังสามารถคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในทุกมิติ ด้วย ส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ร้อยละ 23 คิดเป็นมูลค่า 23,542 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรวม ร้อยละ 26 คิดเป็นมูลค่า 157,446 ล้านบาท  ส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ร้อยละ 40 คิดเป็นมูลค่า 4,740 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันกลุ่ม Employee Benefit (EB) ร้อยละ 18