ภาคการศึกษาของไทยในวันนี้ ถือว่าเข้าใกล้วิกฤต หลายๆ มหาวิทยาลัยยอมรับว่า ทุกๆ ปี นักศึกษาใหม่ลดลงเรื่อยๆ จากสาเหตุหลักคืออัตราการเกิด การมีลูกของคนไทยลดน้อยลง และเมื่อเด็กเกิดมา ปัญหาความเลื่อมล้ำ โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กไทย ก็อยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง มีสถิติตัวเลขเด็กนักเรียนที่มีความยากจนมากเป็นพิเศษ สูงถึง 1.24 ล้านคน หรือราว 20% ของนักเรียนทั้งระบบ โดยข้อมูลจากกองทุนเพื่อควาเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ระบุว่า สิ้นปี 2564 ที่ผ่านมา มีเด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษามากถึง 65,000 คน
แต่ไม่ใช่เพียงปัญหาเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาลดลง ที่ทำให้สถาบันการศึกษาต้องปรับตัว ในส่วนพฤติกรรมการเรียนของเด็กที่เข้าสู่ระบบการศึกษาก็มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนสถาบันการศึกษต้องเร่งปรับตัว
ผศ.ดร.ธนุส สุทธิพิศาล ผู้ช่วยคณบดี คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยถึง 5 เทรนด์ของการศึกษาในปัจจุบัน ประกอบด้วย
- พฤติกรรมผู้เรียนที่เปลี่ยนไป สมาธิในการเรียนมีสั้นลง การนั่งเรียนเป็นชั่วโมง หรือสองชั่งโมงเหมือนการเรียนการสอนในอดีตเป็นไปได้ยาก ต้องปรับการสอนเป็นBite Site Learning
- ความแตกต่างของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบ ความสนใจที่แตกต่างกัน ทำให้การสอนต้องปรับแบบองค์รวมมาเป็น Personalize Learning
- เกิดคำถามในผู้เรียนเสมอว่า “เรียนไปเพื่ออะไร”จำเป็นต้องปรับหลักสูตรการสอนเป็น Experiential Learningเรียนรู้เพื่อสร้างประสบการณ์ เพื่อไปสู่เป้าหมายที่สนใจ
- ทักษะใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ที่จบการศึกษาไปแล้ว หรือคนทำงานจำเป็นต้องศึกษาเสริมทักษะใหม่ๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เป็น Lifelong Learning ด้วยคอร์สเสริมทักษะสั้นๆ
- การดำเนินชีวิตแบบ New Normal ในปัจจุบัน ทำให้การสอนจากการรวมกลุ่ม ต้องเปลี่ยนเป็นการสอนแบบ Online Learning
ปัญหาของระบบการศึกษาไทย และแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาเหล่านี้ ทำให้ 2 ผู้บริหารหนุ่ม โธมัส-พิชเยนทร์ หงส์ภักดี เจ้าของแบรนด์อุปกรณ์คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย “แอนิเทค” และ อัมพรสักก์ อังคทะวานิช นักพัฒนาซอฟท์แวร์โซลูชั่น และโมบายแอปพลิเคชั่น ที่มีผลงานพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่นให้กับสถาบันการเงิน ร่วมกัน พัฒนา (แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส) โลกเสมือนแห่งอนาคตที่เชื่อมโยงโลกแห่งความจริงกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์ “Learn-to-Earn” แก้ปัญหาโครงสร้างระบบการศึกษาของประเทศไทย และ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
โธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนบนโลกใบนี้กำลังก้าวเข้าสู่โลกของเมตาเวิร์ส ตนจึงได้ร่วมลงทุนโปรเจกต์ แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส เพื่อวัตถุประสงค์ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของวงการการศึกษาไทย ด้วยความแตกต่างจากผู้พัฒนารายอื่นๆ ภายใต้แนวคิด “Learn-to-Earn” ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในกลไกในการพัฒนาและสร้างโอกาสของระบบการศึกษาของเมืองไทย สู่การเรียนรู้ในโลกเสมือนจริงควบคู่ไปกับการสร้างรายได้แบบคู่ขนานเป็นแห่งแรกของโลก โดยการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้ชื่อ “ANIV” พร้อมประมวลผลข้อมูลของนักเรียนแต่ละคนเพื่อช่วยในการค้นหาตัวตนและสิ่งที่ชอบ รวมถึงเพื่อจับคู่นักเรียนให้เข้ากับโอกาสในการสร้างอาชีพในอนาคต รวมถึงคนทำงานที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพหรือไปต่อในสายอาชีพของตนเองในรูปแบบ “Lifelong learning” เพื่ออัพเกรดทักษะของตนเองแบบไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นดินแดนที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างไร้ขอบเขตบนโลกใบนี้ เป้าหมายในการลงทุนครั้งนี้ต้องการเห็นภาพความร่วมมือในการเข้ามามีส่วนร่วมขององค์กรต่างๆ ในการช่วยกันยกระดับประเทศไทยให้ก้าวไปสู่โลกแห่งอนาคตด้วยกัน
โปรเจกต์ แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส ใช้งบลงทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์มจากผู้ก่อตั้งและการระดมทุนจากนักลงทุน รวมกว่า 50 ล้านบาท รวมถึงการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ อาทิ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) พร้อมจับมือผู้พัฒนาเกมระดับโลก NetDragon ในการหาโอกาสให้การศึกษาออนไลน์ของประเทศไทยดำเนินการในรูปแบบ gamification และใช้เมตาเวิร์ส เข้าช่วย พร้อมทีมที่ปรึกษาโครงการ อาทิ ฐากร ปิยะพันธ์ อดีตซีอีโอ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และเครือไทยโฮลดิ้งส์, ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊ก บี จำกัด และ Six Network, ณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และที่ปรึกษาอาวุโส NetDragon Websoft , ดร.อุรีย์ เจี่ยสกุล คณบดี คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรชื่อดังและเจ้าของเพจแบไต๋, จักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีมนวัตกรรมและวิจัยทางเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย และ อภิชาติ ขันธวิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิว เจ็น คอนซัลแทนท์ จำกัด และ เจ้าของเพจ HR – The Next Gen เป็นต้น
“แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส เป็นพื้นที่การเรียนรู้ ที่มีส่วนสำคัญคือคอนเทนต์ ซึ่งนอกเหนือจากหลักสูตรจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่มีแนวทางตรงกันและพร้อมที่สุด เรายังติดต่อกับอีกหลายมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศที่มีความสนใจในโปรเจกต์เมตาเวิร์ส ก็จะมีความร่วมมือเพิ่มตามมา ขณะที่หลักสูตรสายอาชีพ Lifelong learning จะเป็นความร่วมมือกับ Content Editor ชั้นนำ ซึ่งมีความรู้ในแต่ละด้าน มาพัฒนาหลักสูตรที่จะให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้เพื่อประกอบอาชีพได้จริง” โธมัส-พิชเยนทร์ กล่าว
ด้าน อัมพรสักก์ อังคทะวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดตัว ANIVERSE METAVERSE ว่า ได้ร่วมมือกับ โธมัส ก่อตั้งบริษัท ครีเอทีฟ ดิจิทัล ลีฟวิ่ง จำกัด ขึ้นมา เพื่อร่วมกันสร้างแพลตฟอร์ม “ANIVERSE METAVERSE” บนเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นการจำลองโลกเสมือนจริง ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาในโลกเสมือนผ่านรูปแบบ Edu GameFi เกมส์ที่พัฒนาขึ้นด้วยหลักการ “เกมส์” บวก “การเรียน” เท่ากับ “รายได้” ที่จะก่อให้เกิดความท้าทายในการเรียนเพื่อพิชิตเป้าหมาย และยังได้รับรางวัลเป็น NFT Asset เพื่อนำไปเป็นทุนทรัพย์เพื่อการศึกษาต่อไป ด้วยเหรียญโทเคน “ANIV” เป็นสกุลเงินกลางในการแลกเปลี่ยน
ระบบยังมีฟีเจอร์เรื่องของการซื้อขายที่ดิน (Land) โดยในระยะแรกมีจำนวน 250,000 บล็อก เปิดขายในราคาบล็อกละ 2,500 บาทเท่านั้น ทุกคนจะมีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของเพื่อธุรกิจในอนาคตได้อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งยังเป็นช่องทางที่จะช่วยในเรื่องของธุรกิจสำหรับแบรนด์ต่างๆ และในอนาคตจะต่อยอดไปอีกขั้นเป็น 3D Virtual ด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ที่เติมเต็มทุกจินตนาการของโลกแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“รูปแบบการเรียนการสอนในแอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส รูปแบบ Edu GameFi จะมุ่งให้ผู้เรียนมีความสนุกเหมือนเล่นเกม โดยมีรางวัลให้กับทั้งผู้เรียนที่เรียนเข้าใจ ทำข้อสอบหรือ ผ่าน Mission ได้ และมีรางวัลให้กับผู้สอนที่ได้รับความสนใจมีผู้เรียนลงทะเบียนเรียนมาก ๆ โดยจะมีระบบ AI ที่จะช่วยพัฒนาผู้เรียนให้ได้เรียนได้ตรงกับที่ใจต้องการ และคอยกระตุ้นให้ตั้งใจเรียน เพื่อผ่านด่านการเรียนไปสู่รางวัลเป็น NFT ที่ใช้เป็นทุนที่ในอนาคตจะเพิ่มมูลค่าขึ้นอีก ซึ่งในอนาคตมีเป้าหมายร่วมกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญที่จะให้ผู้เรียนใน แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส สามารถเก็บหน่วยกิตเช่นเดียวกับการเรียนในห้องเรียนได้” อัมพรสักก์ กล่าว
โธมัส-พิชเยนทร์ กล่าวต่อว่า โครงการ แอนิเวิร์ส เมตาเวิร์ส เป็นโครงการระยะยาวมากกว่า 4 ปี แต่จะเริ่มเปิดตัวเฟสแรกในราวไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ผู้เรียนจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนในแต่ละหลักสูตร แต่ก็สามารถหารายได้จากการเรียนได้ ทำให้โอกาสในการเรียนเปิดกว้างสำหรับทุกคน ทั้งคนที่ยังอยู่ในระบบการศึกษา และคนที่ออกนอกระบบไปแล้ว และผู้ที่จบใหม่ราว 6 แสนคนต่อปี สามารถเข้ามาเสริมความรู้ พร้อมกับได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อนาคตนอกเหนือจากการซื้อขายที่ดิน ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ เช่น สัตว์เลี้ยง หรือยานพาหนะ รถยนต์ เรือยอร์ช อีกด้วย
