วีซ่าหวังท่องเที่ยวฟื้น พากำลังซื้อกลับมา ชี้คนไทยโดนโควิดเร่งสู่สังคมไร้เงินสดเร็วขึ้น

388

การระบาดของไวรัสโควิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลกอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หยุดชะงักจากการปิดประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของทั่วโลก  เมื่อนักท่องเที่ยวต้องอยู่กับบ้าน การจับจ่ายใช้สอยจึงหายวับไป

วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ยอมรับว่ากว่า 2 ปีนับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 ระบาดที่อู่ฮั่นประเทศจีน มาเป็นไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่คร่าชีวิตคนนับล้าน จนถึงสายพันธุ์โอไมครอน ที่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยยากของบริษัท  เพราะการท่องเที่ยวหายไป แม้การจับจ่ายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจทดแทน

สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด กระทบกับผู้คนทุกด้าน ตั้งแต่แผนการดำเนินชีวิต แผนการทำงาน แผนการเรียน แผนการท่องเที่ยว ทุกกิจกรรมล้วนมีการจับจ่าย เมื่อทุกอย่างหยุดชะงัก แม้จะมีการปรับเปลี่ยนมาจับจ่ายใช้สอยผ่าน อี-คอมเมิร์ซ แต่มูลค่าที่ใช้จ่ายแต่ละครั้งน้อยกว่าเทียบกันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการระบาดที่ลดความรุนแรงลง และประเทศไทย รวมถึงหลายๆ ประเทศเริ่มเปิดให้เดินทางท่องเที่ยวได้ ก็น่าจะทำให้แนวโน้มการจับจ่ายกลับมา เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็คงไม่สามารถกลับมาเหมือนเช่นก่อนเกิดการระบาดได้ในเร็ววัน

สุริพงษ์ ตันติยานนท์

สุรพงษ์ ยังได้เปิดเผยข้อมูลจากการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study)ฉบับล่าสุดว่า โควิด-19  ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจับจ่ายของคนไทยสู่สังคมไร้เงินสดได้เร็วขึ้น  เกือบเก้าในสิบของคนไทยเลือกใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแบบไร้เงินสด เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีอยู่ราว 82% โดย 43 % ของผู้ที่พยายามใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดสามารถอยู่ได้มากกว่าหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ต้องพึ่งเงินสด

79 % ของกลุ่มที่ไม่เคยใช้จ่ายแบบไร้เงินสด บอกว่า พวกเขารู้สึกมั่นใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ในช่วง 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 11 % เมื่อเทียบกับผลการศึกษาในปีที่ผ่านมา

“เมื่อดูผลการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคครั้งก่อนหน้า เราเห็นว่าตัวแปรหนึ่งที่มีส่วนผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยให้พึ่งพาเงินสดน้อยลง และก่อให้เกิดทัศนคติที่ดียิ่งขึ้นต่อการใช้จ่ายเงินในรูปแบบดิจิทัลคือสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาในปีนี้และการพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลากหลายอุตสาหกรรม เห็นชัดเจนขึ้นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเริ่มกลายเป็นพฤติกรรมที่ผู้บริโภคเลือกที่จะทำด้วยตนเอง มากกว่าที่จะถูกผลักดันจากปัจจัยภายนอก ซึ่งหมายความว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้จะถาวรและยั่งยืนมากขึ้น”

การศึกษายังพบว่า มากกว่าสามในห้า หรือ 61% ของผู้บริโภคชาวไทยบอกว่าพวกเขาถือเงินสดน้อยลงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักสามประการที่ทำให้พวกเขาลดการใช้จ่ายด้วยเงินสด ได้แก่ การเลือกชำระแบบดิจิทัลมากขึ้น (77 %) ความกังวลเรื่องการติดต่อของโรคระบาดผ่านการถือเงินสด (54 %) และพวกเขาพบว่าจำนวนร้านค้าที่รับชำระแบบดิจิทัลมีเพิ่มมากขึ้น (45%)

เมื่อสำรวจถึงหมวดร้านค้าที่ผู้บริโภคชาวไทยเห็นว่าจะดำเนินการแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้  ห้าอันดับแรก ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ (67%) ชำระค่าบริการจ่ายบิล (64 %) ซูเปอร์มาร์เก็ต (62 %) ระบบขนส่งสาธารณะ (56%) และร้านขายอาหารและร้านอาหารแบบนั่งทานในร้าน (55%)

กลุ่มสำรวจ 76% ให้ข้อมูลว่า การไม่ใช้เงินสดชำระเงินจะยังคงอยู่ต่อไปแม้โรคระบาดโควิด-19 จะหมดไป ขณะที่ 69% เชื่อว่า การซื้อสินค้าออนไลน์จะยังคงได้รับความนิยมต่อไปเช่นกัน

จากการศึกษายังพบอีกว่า เกือบเก้าในสิบของผู้ตอบแบบสอบถาม (87%) มีการรับรู้เกี่ยวกับบัตรคอนแทคเลส โดยในกลุ่มของผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานจำนวน 86% กล่าวว่า พวกเขาสนใจการชำระเงินรูปแบบนี้

ผู้บริหารวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า  ปัจจุบันการชำระเงินแบบไร้สัมผัสหรือคอนแทคเลส  ช่วยให้ผู้บริโภคใช้จ่ายได้อย่างง่ายดายเพียงแตะบัตรชำระเงิน หรือสมาร์ทโฟนที่จุดรับชำระ วีซ่าพร้อมมอบประสบการณ์ในการใช้จ่ายที่เหนือกว่าให้กับผู้ใช้ทั้งความรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบาย ระบบชำระเงินแบบคอนแทคเลสกำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในการใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าปลีกทางกายภาพและการเดินทาง ในปัจจุบันผู้โดยสารผ่านระบบขนส่งในกรุงเทพฯ สามารถใช้บัตรเครดิตแบบคอนแทคเลสชำระค่าบริการได้แล้วที่รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง รวมถึงรถประจำทาง เรือไฟฟ้า และทางพิเศษโทลเวย์

ขณะที่กลุ่มผู้ใช้การชำระเงินแบบคอนแทคเลส ที่เดิมเคยอยู่กับเฉพาะผู้ที่มีบัตรเครดิต ปัจจุบัน วีซ่าก็ขยายช่องทางสู่รูปแบบกระเป๋าเงินออนไลน์ อาทิ  ทรูมันนี  หรือ ดอลฟิน ทำให้กลุ่มผู้ใช้คอนแทคเลสขยายกว้างขึ้น

“วีซ่ามุ่งสร้างสรรค์เพื่อสร้างหนทางให้ทุกคนในทุกที่มีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัล เราหวังว่าข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยฟื้นตัว และเจริญเติบโตต่อไปได้ รวมทั้งยังช่วยปลดล็อคให้กับผู้ประกอบการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อย” สุริพงษ์ กล่าว