อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ผ่านปีวัวดุแบบชิวๆ สานต่อกลยุทธ Strategy 2025 สู่เป้า 3.47 หมื่น ลบ.

717

สถานการณ์การระบาดของโรคร้ายโควิด-19 ที่แปลงกายมาหลายสายพันธุ์ ไม่เพียงแต่ทำให้ระบบสาธารณสุขสั่นคลอน แต่วงการประกันกลับสั่นสะเทือนมากกว่า เมื่อบริษัทประกันภัยสัญชาติไทยบางรายทยอยเลิกกิจการ เพราะทนรับภาระการจ่ายเคลมประกันเจอ-จ่าย-จบ ไม่ไหว  ขณะที่หลายๆ บริษัทประกันแม้ไม่ได้ออกโปรดักส์เจอ-จ่าย-จบ แต่เงื่อนไขประกันสุขภาพ ประกันชีวิตที่ขายไป ก็คุ้มครองการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็มีภาระต้องจ่ายเคลมกันหนักหนาสาหัส

แต่สำหรับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เงินเคลมประกันเฉพาะการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นลูกค้าในปี 2564 ที่สูงถึง 906 ล้านบาท กลับถือเป็นความภาคภูมิใจที่บริษัทสามารถดูแลลูกค้าทุกคนได้อย่างเต็มที่

โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า งบประมาณในการเคลมลูกค้าที่รักษาตัวด้วยโรคโควิด-19 จำนวน 906 ล้านบาท ในปีที่แล้ว เมื่อนับรวมตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันเคลมแล้วกว่า 20,850 เคส เป็นเงินรวมกว่า 1,064 ล้านบาท โดยประมาณ 19,200 เคส เป็นค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากโควิด 19 และประมาณ 1,330 เคส เป็นการชดเชยจากการแพ้วัคซีน และ ประมาณ 330 เคส มาจากการเสียชีวิต

ซึ่งแม้ปี 2021 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ แต่อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2020 จากตัวเลขกำไรที่เพิ่มมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของอลิอันซ์ อยุธยา มีสัดส่วนสูงถึง 36.4% จากเบี้ยประกันทั้งหมดที่ขาย มีส่วนแบ่งตลาด 10.2% เป็นอันดับ 4 ในตลาด  แต่ในปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพของอลิอันซ์ อยุธยามียอดขายสูงสุดในตลาด ขณะที่ยอดขายรวมเติบโตขึ้น 4% เป็นอันดับ 7 ในตลาด

ความสำเร็จท่ามกลางวิกฤตที่รุมเร้ารอบด้าน โทมัส วิลสัน กล่าวว่า มาจากช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายมากที่สุดถึง 39% ของเบี้ยประกันรับใหม่ (ANP) ประกอบกับการมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความคุ้มครองสุขภาพ นอกจากนั้น ในด้านของการดำเนินงาน ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า จนทำให้อลิอันซ์ อยุธยา มีคะแนนอยู่ในระดับ Loyalty Leader ที่ลูกค้ามีความภักดีเป็นอันดับ 1 (จากผลสำรวจของ Ipsos Research Agency บริษัทวิจัยระดับโลก)

สำหรับแผนงานในปี 2565 อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงยึดกลยุทธ์หลัก Strategy 2025 ซึ่งประกอบด้วย 4 เสาหลัก ประกอบด้วย Growth – Product –  Operating Product – Franchise ซึ่งโทมัส วิลสัน เชื่อมั่นว่าจะเป็นปีที่ดี มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนในตลาดทุน และความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นข้อกังวลที่ทำให้อลิอันซ์ อยุธยา ต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน โดยยังคงยึดกลยุทธ์หลัก Strategy 2025 ที่ทุกส่วนในองค์กรจะต้องร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อน ซึ่งประกอบด้วย 4 เสาหลักสำคัญ ที่ปรับเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ในปีนี้ ประกอบด้วย

Growth – สร้างการเติบโตในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย โดยช่องทางตัวแทน จะให้การสนับสนุนผ่านโครงการใหม่ๆ เช่น Elite Program มุ่งเน้นการนำโมเดลของตัวแทนที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่น สนับสนุนตัวแทนที่มีศักยภาพให้เติบโต  ให้รางวัลกับตัวแทนที่สร้างผลงาน เน้นการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ  และ Friend of Agency (FOA) สร้างโอกาสให้ตัวแทนได้รับการแนะนำผู้มุ่งหวัง

ด้านช่องทางธนาคาร ในปีนี้จะมีการขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ ซึ่งถือเป็นความท้าทาย แต่ก็คาดว่าจะช่วยให้ยอดขายผ่านช่องทางนี้เติบโตได้ราว 5-10%  ขณะที่ช่องทาง Direct Marketing  ตั้งเป้าที่จะทำยอดขายกลับมา หลังจากหยุดชะงักไปในปีที่แล้วจากสถานการณ์โควิด รวมถึงการขยายช่องทางอื่นๆ อาทิ ประกันกลุ่มผ่านองค์กร และพันธมิตรต่างๆ

Product – นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมีถึง 10 ผลิตภัณฑ์ในปีนี้ ก็จะเน้นการขยายช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผ่านช่องทางธนาคาร ขณะที่ในช่วงกลางปีจะมีผลิตภัณฑ์ Hybrid ที่เป็นการลงทุนซึ่งผสมผสานระหว่างการออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน  ควบกับการลงทุนที่ให้โอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ไม่การันตี รวมถึงจะรุกผลิตภัณฑ์ Unit Link เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทจากที่ 3%  ให้เติบโตขึ้น 2-3 เท่าตัวในปีนี้

Operating Profit – การสร้างผลกำไรจากการดำเนินงาน ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายและการทำอัพเซลและครอสเซลในกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอยู่ราว 1.6 ล้านราย นำข้อมูล Big Data นี้มาวิเคราะห์เพื่อการนำเสนอบริการเสริมต่างๆให้แก่ลูกค้าที่ตรงกับความต้องการเฉพาะตน เช่น การกู้เงินจากกรมธรรม์ เป็นต้น และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลที่มากขึ้น

Franchise – การสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานและลูกค้า โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ และทัศนคติที่พร้อมต่อการเติบโต โดยเน้นไปที่การพัฒนา Soft Skill ให้กับพนักงาน โดยอลิอันซ์ อยุธยา มีความโดดเด่นในเรื่องนี้มาก ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 3 จากบริษัทในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก ในเรื่องความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัท อีกทั้งในมุมของลูกค้า บริษัทให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน และพร้อมรับฟังความเห็นและความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อให้ลูกค้ามีความสุขในการใช้บริการ และทุกการสื่อสารที่มีไปถึงของอลิลันซ์ อยุธยา

โทมัส  วิสสัน  ประกาศความมั่นใจว่า  “จากกลยุทธ์ 2025 ที่แข็งแกร่งถูกพิสูจน์แล้วด้วยความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และทีมงานคุณภาพของอลิอันซ์ อยุธยา ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้ารวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน พร้อมพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 3.47 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6.5 พันล้านบาท และสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ 30% ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตของไทยได้อย่างมั่นคง”