SCG HOME จัดทัพรับตลาดฟื้น รุกเปิดสาขาย่อย ปั้น Flagship Store ยกระดับแอปฯ

367

แม้โควิด-19 จะทำให้หลายๆ ธุรกิจชะงักงัน  หนึ่งนั้นคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้น แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดหนักหน่วง ที่ทำให้แคมป์คนงานก่อสร้างต้องถูกปิดไปช่วงเวลาหนึ่ง ก็ทำให้โครงการส่วนใหญ่พลาดเป้าการขายไปอีกปี

แต่โควิด-19 ก็ไม่ได้ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบต้องถดถอย เพราะการที่ผู้คนต้องอยู่กับบ้านด้วยนโยบาย Work from Home รวมถึงลูกหลานก็ต้องเรียนออนไลน์  ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากขึ้น ทำให้หลายๆ ครอบครัวหันมามองที่การปรับปรุงบ้านตนเอง  ทำให้ทันทีที่รัฐบาลผ่อนคลายให้หลายๆ ธุรกิจเปิดบริการได้  ศูนย์การค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง กลายเป็นสถานที่หนึ่งที่มีผู้คนเข้าไปใช้บริการอย่างคับคั่ง

บรรณ เกษมทรัพย์

 

บรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น ดูแลธุรกิจ SCG HOME ค้าปลีกและจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้วที่ดีขึ้น เนื่องจากคนได้รับวัคซีนมากขึ้น ประกอบกับมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ทำให้ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1 ปี 2565 มีสัญญาณการขยายตัวที่ดี  ทำให้ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ SCG HOME จึงเตรียมขยายสาขาของร้าน สำหรับธุรกิจ Retail พร้อมยังคงผลักดันกลยุทธ์ OMNI-channel อย่างต่อเนื่อง เพิ่มยอดขายในช่องทางออนไลน์ทั้ง e-Commerce Platform และพัฒนา Ecosystem สนับสนุนเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้กับลูกค้าให้บริการครบวงจร

“เราพบว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างในปัจจุบัน 80% มีการเข้าดูสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนจะมาซื้อสินค้าที่ร้าน  หรือมีการดูสินค้าจริงที่ร้าน ก่อนกลับไปซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นที่มาของการวางกลยุทธ SCG OMNI-channel หรือ O2O ที่รุกทั้งการขยายสาขา และการพัฒนาช่องทางออนไลน์แอปพลิเคชั่น My Home”

ในส่วนของร้านค้า เอสซีจี มีนโยบายที่จะหันมารุกตลาด B2C  หรือการขายตรงถึงผู้บริโภคมากขึ้น เน้นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในแง่ความสะดวกสบายและเข้าถึงง่ายเป็นปัจจัยหลัก โดยมี 4  รูปแบบ ประกอบด้วย

  1. SCG Home ร้านค้าที่มีความร่วมมือกับพันธมิตร SME ผู้แทนจำหน่ายของเอสซีจี ที่มีความชำนาญในพื้นที่ กระจายอยู่ทั่วประเทศ
  2. SCG บุญถาวร เป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์ใหญ่ บุญถาวร ผู้นำด้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
  3. SCG HOME Experience พื้นที่สร้างประสบการณ์เรื่องบ้าน
  4. SCG Home Retail รูปแบบใหม่ซึ่งเป็นร้านขนาดเล็ก วางเป้าหมายให้เป็นร้านสะดวกซื้อของช่างรับเหมา โดยเชื่อมโยงกับการขายช่องทางออนไลน์ในการรับ-ส่งสินค้าจากเอสซีจีไปถึงผู้ซื้อ โดยมีแผนขยายถึง 50 สาขา ภายในปี 2564 เริ่มเปิดสาขาแรกที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา

บรรณ กล่าวว่า สำหรับไฮไลท์ปลายปีนี้ SCG HOME ได้มีการปรับรูปแบบของ SCG HOME Experience ซึ่งมีจุดเด่นเรื่อง Living Solution & Innovation แต่เป็นเพียงพื้นที่ให้ความรู้ มาเป็น Flagship Store ที่รวมเอาแหล่งช้อปปิ้งเรื่องบ้าน และค้นหาไอเดียใหม่ๆเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นมาไว้รวมกันในที่เดียว

อำพล อังคะพิชิต

โดย อำพล อังคะพิชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า SCG HOME Experience ได้ทำการปรับภาพครั้งใหญ่ และยกระดับเป็น Flagship Store แห่งแรกของ SCG HOME ภายใต้คอนเซปท์ Better Living Made Possible’ โดยมีจุดเด่นคือการเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมที่อยู่อาศัยและบริการพร้อมโซลูชันง่าย ครบ จบที่เดียว นอกจากสินค้าที่คัดสรรจากผู้ผลิตที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ทั้งแบรนด์ของ SCG เองและแบรนด์ของพาร์ทเนอร์ ยังมีทีม Living Experience Designer สถาปนิกที่มีความมีความรู้เรื่องการออกแบบและวัสดุศาสตร์เป็นอย่างดี พร้อมถอดรหัสเข้าใจความต้องการของเจ้าของบ้านแบบ Personalized Living Design ออกแบบรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย ภายใต้คอนเซปต์ SMART-ECO-CARE Design ตอบไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว

SCG HOME Experience ปรับพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม.ด้วยงบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งถูกออกแบบด้วย Living Experience Concept จำลองรูปแบบการอยู่อาศัยพื้นที่เสมือนจริง ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่อยากเห็นภาพการอยู่อาศัยจริงก่อนการตัดสินใจซื้อ พร้อมขยายบริการ Care Living Solutions ที่ตอบเทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน คือ การอยู่อาศัยของกลุ่มผู้สูงวัยหรือวัยเก๋า และผู้ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพ พร้อมยังตอบโจทย์วัยเก๋าในยุคดิจิทัล ด้วยการนำหลัก Smart Automation มาผสมผสานให้เกิด Smart Elderly Solutions สร้างความสะดวกสบายพร้อมสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย  นอกจากนี้ SCG HOME Experience  ยังเปรียบเสมือน Customer Lab ของ SCG HOME ที่แบรนด์จะได้ทำการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเพื่อนำไปพัฒนาในการออกแบบสินค้าและบริการใหม่หรืออัพเดทเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต

 

ภายใน SCG HOME Experience Flagship Store ยังต้องการเป็นคอมมูนิตี้ของคนรักบ้าน โดยได้สร้างพื้นที่ Home Inspiration Lounge เพื่อเป็นพื้นที่ Open & Sharing ของคนรักบ้าน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและไอเดียเรื่องบ้าน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ตร.ม. ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่ Home Idea & Book Hub ศูนย์หนังสือขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบเพื่อจุดประกายไอเดียสำหรับการอยู่อาศัยที่สร้างสรรค์ มีพื้นที่สำหรับนั่งชิลล์ พบปะ แลกเปลี่ยน หาแรงบันดาลใจจากหนังสือตกแต่งบ้าน และไลฟ์สไตล์ ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 250 หัวเรื่อง

และเพื่อรองรับการเติบโตของเทรนด์ดิจิทัล SCG HOME Experience ได้สร้างประสบการณ์การมาร้านค้าเสมือนจริงแบบ 360 องศา ด้วย Virtual Store เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาค้นหาทั้ง สินค้าพร้อมบริการ และโปรโมชั่นต่างๆ รวมทั้งการจองคิวปรึกษาล่วงหน้า ตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบันก่อนเข้ามารับบริการจริงที่ร้าน พร้อมยังมีบริการ Virtual Reality Solution ให้ลูกค้าได้ใช้ชมแบบจำลองแบบบ้านเสมือนจริง ผ่าน VR Technology หรือตอบโจทย์พฤติกรรมช้อปออนไลน์ สามารถเลือกซื้อสินค้าพร้อมชำระเงินออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่าน scghome.com เป็นต้น

 

“สำหรับกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ระดับ Best in Class Experience เพื่อรักษาลูกค้าเดิมและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ขยายสู่การแนะนำบอกต่อ ก็คือ การส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าด้วย Service Excellent เพื่อพนักงานทุกคนสามารถถอดรหัสความต้องการ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจเหมือนเป็นคนพิเศษให้แก่ลูกค้า ให้เกียรติลูกค้าทุกครั้งที่ให้บริการด้วยมาตรฐานการบริการที่เป็นกันเอง พร้อมทางเลือกที่ไว้ใจได้ เพราะบ้านคือความสุข ของทุกคน เราจะให้บริการด้วยความรู้ที่ถูกต้อง ส่งมอบบริการด้วยความจริงใจ” อำพล กล่าว

บรรณ กล่าวถึงการพัฒนาช่องทางออนไลน์ว่า มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “My Home” ให้เป็น Ecosystemของการสร้างบ้าน และซ่อมแซมบ้านครบวงจร  โดยมีการรวบรวมบริการต่างๆ ที่เกี่ยวของกับการสร้างบ้าน อาทิ  “คิวช่าง” ศูนย์รวมช่างสำหรับงานซ่อมแซม ตอบโจทย์การหาช่างยาก ช่างหนีงาน  และช่วยให้ช่างมีรายได้, Design Connect ศูนย์รวมนักออกแบบบ้าน และ –D Décor ศูนย์รวมงานตกแต่งภายใน  เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีบริการตรวจเช็คสุขภาพบ้าน  การให้คำปรึกษาออนไลน์ หรือนัดหมายขอคำปรึกษาที่ร้าน รวมถึงการเชื่อมโยงกับร้านค้าในการจำหน่ายสินค้า

ทั้งหมดคือแผนงานที่   SCG Home เตรียมพร้อมสำหรับการรุกธุรกิจรีเทล ซึ่งบรรณ มั่นใจว่า ในไตรมาส 4 สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมที่คลี่คลาย ส่งผลให้ผู้คนออกมาจับจ่ายสินค้าเพื่อซ่อมแซมบ้าน จะเป็นโอกาสที่ธุรกิจของเอสซีจีกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง