เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าสร้างนวัตกรรมมัดใจลูกค้า

937

การปรับนโยบายใหม่ของหนึ่งในผู้นำตลาดประกันชีวิตของเมืองไทย  เมืองไทยประกันชีวิต ที่ประกาศเมื่อต้นปี 2562 ภายใต้นโยบาย “MTL Everyday Life Partner”  ถือเป็นการวางหมากที่แม่นยำของผู้นำอย่าง สาระ ล่ำซำ ที่ทำให้เบี้ยประกันของบริษัทกลับมาเติบโตทั้งแผง หลังจากพลาดเป้าไปเมื่อปี 2561

โดยในปี 2562 เมืองไทยประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 83,840 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับใหม่ 25,956 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยปีต่อไป 57,885 ล้านบาท มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็น Protection & Investment เมื่อเทียบกับผลงานเบี้ยประกันภัยรับใหม่ทั้งหมด สูงถึง 67% มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ Investment Linked อยู่ที่ 163% และมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงอยู่ที่ 11% เมื่อเทียบกับปี 2561

ในปีนี้ เมืองไทยประกันชีวิต  จึงไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งนโยบายที่จะเกาะติดไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกวันทุกคืนนี้ไป

สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินงานในปี 2563 ว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุก Journey ในรูปแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคลมากยิ่งขึ้น  พร้อมสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงอย่างยั่งยืน ในทุกช่วงของชีวิตและทุกไลฟ์สไตล์แบบ End to End ได้อย่างเหมาะสม ตอกย้ำนโยบาย  “MTL Everyday Life Partner” พร้อมยกระดับองค์กรสู่ความเป็นสากล ทันสมัย และสามารถรับมือกับโลกยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว

โดยด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ 10/1 (Global) แบบประกันประเภท Index Linked ที่จะมาช่วยตอบโจทย์และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในยุคปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน เพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวอย่างมั่นคง พร้อมให้ความคุ้มครองชีวิต 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นระยะเวลา 10 ปี การันตีเบี้ยประกันที่จ่ายยังอยู่ครบเมื่อจบสัญญา และสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้

นอกจากนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ สัญญาเพิ่มเติมการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก  (OPD)  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความอุ่นใจเรี่องการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) สบายใจไม่ต้องนอนโรงพยาบาลก็จ่ายให้   โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก สูงสุด 3,000 บาทต่อครั้ง รับความคุ้มครองปีละ 60,000 บาท สามารถแยกซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่ต้องซื้อร่วมกับความคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD)

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์อย่าง สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์  ที่มอบความคุ้มครองดูแลแบบเหนือระดับที่มากกว่า สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 20-100 ล้านบาทต่อปีกรมธรรม์  ล่าสุดได้มีการขยายอายุความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี สร้างความอุ่นใจและหมดกังวลเพราะความคุ้มครองสุขภาพจะอยู่ดูแลคุณไปจนแก่เฒ่า

ด้านกลยุทธ์ช่องทางการขายในปี 2563 สาระกล่าวว่า  ยังคงทำการตลาดแบบหลากหลายช่องทาง  เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ช่องทางตัวแทนประกันชีวิตที่มุ่งสู่การเป็นผู้ออกแบบการเงิน ที่สามารถออกแบบ ให้คำปรึกษา และวางแผนการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละราย,  การขายผ่านช่องทางธนาคาร โบรกเกอร์ รวมไปถึงการขายแบบประกันออนไลน์ ที่มุ่งขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น  K Plus และ Shopee ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

เมืองไทยประกันชีวิตยังได้พัฒนาเทคโนโลยี “BizBox” เพื่อสนับสนุนกระบวนการงานขายตั้งแต่กระบวนการก่อนจนถึงหลังการเสนอขาย เพื่อส่งมอบบริการด้านการวางแผนการเงินที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด  นอกจากนี้ ยังมีการขยายตลาดไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง   ยที่ผ่านมามีการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มประเทศ  CLMV และยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านกลุ่มประเทศอื่น

ด้านการบริการ เมืองไทยประกันชีวิตได้เปิดประสบการณ์ครบเครื่องการบริการที่เหนือระดับด้วยที่สุดของการบริการ ’MTL Smile Service ให้คุณคุ้มค่ามากกว่าแค่คุ้มครอง’ ด้วยรูปแบบการบริการที่ ตอบโจทย์ในทุก Lifestyle พร้อมทีมงานที่คอยดูแลใส่ใจ รวมถึงสิทธิพิเศษมากมาย  ผ่าน โทร.1766 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Online Chat ผ่าน Muangthai.co.th รวมถึงบริการเลขาส่วนตัว บริการติดต่อประสานงานและจัดหาข้อมูลต่างๆ 

ล่าสุด ได้เปิดตัว  “MTL Click” แอปพลิเคชันที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิต ที่สะดวก ครบ จบในแอปเดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาให้ตอบความต้องการหลังการขายที่แตกต่างกันไปตามบุคคล  รวมบัตรประกันกลุ่มและประกันรายเดี่ยวไว้ในแอปเดียวในรูปแบบ Digicard รวมไปถึงการสรุปและรวมผลประโยชน์ตามประเภทกรมธรรม์  การค้นหาตำแหน่งโรงพยาบาลคู่สัญญา การติดตามและแจ้งเตือนสถานะการเคลม การขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ การส่งคำขอเข้าถึงกรมธรรม์ของคนในครอบครัวและชำระเบี้ยประกันให้กันได้

นอกจากนี้ได้มีบริการพบแพทย์ออนไลน์ (TeleMedicine) สำหรับผู้มีประกันสุขภาพกลุ่มกับเมืองไทยประกันชีวิต และสามารถรับยาตามสิทธ์ได้เสมือนการพบแพทย์ผ่านโรงพยาบาล รวมถึงบริการขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอหักลดหย่อนภาษีฯ

สาระกล่าวต่อว่า เมืองไทยประกันชีวิต ยังเดินหน้าในการพัฒนาองค์กรและบุคลากรในทุกระดับ ให้สามารถทำงานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นภายใต้โลกยุคใหม่  ด้วยการเปิด ศูนย์การเรียนรู้  สรรค์สาระ” จังหวัดราชบุรี  ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 48  ไร่  รายล้อมด้วยธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบของอาคารและการจัดสรรพื้นที่ให้มีความโปร่งโล่งสบาย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมอาคารที่พักและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยศูนย์การเรียนรู้ สรรค์สาระ จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาบุคลากรทั้งพนักงาน ตัวแทน รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน พร้อมนำพาองค์กรให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และแข็งแกร่ง

“หัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจของ MTL ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมใหม่และมุ่งเน้นการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์สู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม คิดค้นผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกเพศทุกวัย พร้อมเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแบบเฉพาะตัว มุ่งมั่นเติบโตและก้าวไปอย่างมั่นคงเคียงข้างไปกับลูกค้า ด้วยความยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้บนโลกในยุคดิจิทัล” สาระกล่าว