บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ยืนยันจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2562 ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมศึกษาแผนลงทุนจิกะโปรเจกต์ คาดชัดเจนภายในปีหน้า
ภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP กล่าวว่า ทีประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติยืนยันจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2562 ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้พิจารณาผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสำหรับงวดจำนวน 3,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 607 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.2 จากจำนวน 2,725 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปี 2561 โดยบริษัทมั่นใจเป้าหมายรายได้รวมปีนี้มากกว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,915 ล้านบาท ในปี 2561 และใน 9 เดือนปี 2562 ที่มีรายได้รวม 7,945 ล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้า TG8 (150 เมกะวัตต์) ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 440 เมกะวัตต์ โดย TPIPP ได้ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) เพิ่มขึ้น 5 ตัว เพื่อใช้ทดแทนหม้อต้มไอน้ำหลักในช่วงที่จำเป็นต้องหยุดซ่อมบำรุง โดยติดตั้งแล้วเสร็จ 2 ตัว และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอีก 3 ตัว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 นี้
ภัคพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 3 สัญญา รวม 163 เมกะวัตต์ โดยได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วย เพิ่มจากค่าไฟฐาน โดยโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG3) – 20 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA 18 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนมกราคม 2565 โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG5) – 60 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA 55 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนสิงหาคม 2565 และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG4 และ TG6) – 100 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA 90 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนเมษายน 2568 โดยภายหลังระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โรง ยังสามารถขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ในราคาค่าไฟฐานต่อไป
ปัจจุบันมีโครงการที่บริษัทได้พิจารณาและอยู่ระหว่างรอข้อสรุปและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนหลายโครงการ อย่างเช่น (1) โครงการประมูลโรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดสงขลา (2) โครงการประมูลโรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนงานขยายการลงทุนในโครงการระดับจิกะวัตต์ซึ่งเป็นจิกะโปรเจกต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า โดยบริษัทมีความพร้อมด้านแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้พัฒนาโครงการ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เสนอขายหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เพื่อการขยายธุรกิจ
“บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ทุกการตัดสินใจของทั้งบอร์ดและผู้บริหาร ได้ยึดมั่นเอาประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้นเป็นที่ตั้งเสมอ” ภัคพล กล่าว