TPIPP ยืนยันจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2562 ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา

850

บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ยืนยันจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2562 ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมศึกษาแผนลงทุนจิกะโปรเจกต์ คาดชัดเจนภายในปีหน้า

ภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP กล่าวว่า ทีประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติยืนยันจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2562 ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้พิจารณาผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวด เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสำหรับงวดจำนวน 3,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 607 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.2 จากจำนวน 2,725 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปี 2561 โดยบริษัทมั่นใจเป้าหมายรายได้รวมปีนี้มากกว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,915 ล้านบาท ในปี 2561 และใน เดือนปี 2562 ที่มีรายได้รวม 7,945 ล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้า TG8 (150 เมกะวัตต์) ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 440 เมกะวัตต์ โดย TPIPP ได้ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) เพิ่มขึ้น 5 ตัว เพื่อใช้ทดแทนหม้อต้มไอน้ำหลักในช่วงที่จำเป็นต้องหยุดซ่อมบำรุง โดยติดตั้งแล้วเสร็จ 2 ตัว และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอีก 3 ตัว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 นี้

ภัคพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 3 สัญญา รวม 163 เมกะวัตต์ โดยได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วย เพิ่มจากค่าไฟฐาน โดยโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG3) – 20 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA 18 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนมกราคม 2565 โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG5) – 60 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA  55 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนสิงหาคม 2565 และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ RDF (TG4 และ TG6) – 100 เมกะวัตต์ ภายใต้ PPA 90 เมกะวัตต์ ได้รับ Adder ถึงเดือนเมษายน 2568 โดยภายหลังระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นโรงไฟฟ้าทั้ง โรง ยังสามารถขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ในราคาค่าไฟฐานต่อไป

 ปัจจุบันมีโครงการที่บริษัทได้พิจารณาและอยู่ระหว่างรอข้อสรุปและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนหลายโครงการ อย่างเช่น (1) โครงการประมูลโรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดสงขลา (2) โครงการประมูลโรงไฟฟ้าขยะ จังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนงานขยายการลงทุนในโครงการระดับจิกะวัตต์ซึ่งเป็นจิกะโปรเจกต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า โดยบริษัทมีความพร้อมด้านแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้พัฒนาโครงการ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เสนอขายหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เพื่อการขยายธุรกิจ

บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ทุกการตัดสินใจของทั้งบอร์ดและผู้บริหาร ได้ยึดมั่นเอาประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้นเป็นที่ตั้งเสมอ” ภัคพล กล่าว