อันเดอร์ อาร์เมอร์ ปรับลุกส์สู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์ สานต่อความสำเร็จ 3 ปี สู่แบรนด์ Top 3

1459

การเข้าสู่ตลาดเสื้อผ้ากีฬาในเมืองไทยของแบรนด์ชุดกีฬาหน้าใหม่จากสหรัฐอเมริกา “อันเดอร์ อาร์เมอร์” เมื่อ 3 ปีก่อน  ผู้บริหารและ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทริปเปิ้ล ผู้ได้รับสิทธิการจัดจำหน่ายอันเดอร์ อาร์เมอร์ในอาเซียน ไมเคิล บิงเกอร์ เคยกล่าวไว้ว่า  แนวคิดของอันเดอร์ อาร์เมอร์ คือ ชุดกีฬาที่นำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักกีฬาในเกมการแข่งขัน

ภาพของอันเดอร์ อาร์เมอร์ ในสายตาของคนไทย จึงมองชุดกีฬาแบรนด์นี้เป็นสินค้าของนักกีฬามืออาชีพ หุ่นซิกแพก สวมใส่ฟิตแนบเนื้อ เห็นกล้ามเป็นมัด เหมือนแอนดี้ มาร์รีย์  ยอดนักเทนนิสที่ใช้แบรนด์นี้สวมใส่ลงแข่ง หรือเป็นรองเท้าของนักกีฬาอาชีพที่มีราคาสูง

ซึ่ง ปริศนา ศิริสมถะ ผู้จัดการ ทั่วไป ยูเอ สปอร์ต ไทยแลนด์ ผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย กล่าวยอมรับว่า จุดเริ่มต้นของอันเดอร์ อาร์เมอร์ในประเทศไทย ถือเป็นแบรนด์ชุดกีฬาที่มีราคาสูง และถูกมองเป็นชุดกีฬาในระดับนักกีฬา หรือกลุ่ม Performance แต่วันนี้ การออกกำลังกายถือเป็น เมกกะเทรนด์ที่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มต่างให้ความสนใจ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้คน

ในปีนี้ อันเดอร์ อาร์เมอร์ จึงเพิ่มสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ ที่สามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกาย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยนอกเหนือจากกลุ่มเสื้อผ้าที่มีการออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ ให้เหมาะกับการใช้งานในไลฟ์สไตล์ประจำวัน ควบคู่ไปกับการใช้เพื่อออกกำลังกายแล้ว ในส่วนของรองเท้ากีฬา โดยเฉพาะกลุ่มรองเท้าวิ่งนวัตกรรมใหม่ที่นำเสนอในปีนี้  HOVR ซีรีย์สอง มีเทคโนโลยีระบบรองรับแรงกระแทกในรองเท้าที่ส่งพลังสะท้อนกลับ ช่วยยกระดับประสบการณ์การวิ่ง เพิ่มศักยภาพในการเทรนที่ช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น นานขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากรุ่นท้อปที่เหมาะกับกลุ่ม Performance เล่นกีฬาเป็นอาชีพ หรืออยู่ในระดับโปรแล้ว ก็ยังมีการนำเสนอรุ่นสำหรับกลุ่มที่ออกกำลังกายเป็นไลฟ์สไตล์ ในราคาที่ต่ำกว่าด้วย

ปริศนา กล่าวว่า สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์นี้ จะช่วยให้อันเดอร์ อาร์เมอร์ สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น โดยมีการวางราคาสินค้าให้ต่ำกว่าสินค้าของกลุ่ม Performance ราว 10-15% ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนสินค้ากลุ่มนี้อยู่ราว 7% แต่ในอนาคตก็จะมีการนำสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่ม Sleep Ware ชุดสำหรับใส่นอนที่มีเทคโนโลยีบนเนื้อผ้าที่ช่วยขยายหลอดเลือดเพื่อรับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นในเวลานอน และตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดชื่น พร้อมที่จะเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย เป็นต้น

นอกจากการเปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ อันเดอร์ อาร์เมอร์ ยังวางแผนในการรุกขยายสาขาอย่างเต็มตัว โดย 3 ปีที่ผ่านมา นับแต่การเปิดแบรนด์เฮาส์แห่งแรก ที่สยามเซ็นเตอร์ มาถึงปีนี้อันเดอร์ อาร์เมอร์ จะมีสาขารวมถึง  21 สาขา กระจายอยู่ในศูนย์การค้าทั่วประเทศ โดยมีสาขาขนาดใหญ่ที่เป็นแบรนด์เฮ้าส์ 12 แห่ง และเอาท์เล็ตสโตร์อีก 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอีกกว่า 100 จุดทั่วประเทศ

ไมเคิล บิงเกอร์ กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียนของอันเดอร์ อาร์เมอร์  โดยมีแบรนด์เฮ้าส์สุดไอคอนนิค ที่สาขาสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แล้ว ล่าสุดได้เปิดแบรนด์เฮ้าส์สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ ยกระดับด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับเป็นแบรนด์เฮ้าส์สาขาที่ 11 ในประเทศไทย และยังมีแผนเปิดตัวแบรนด์เฮ้าส์ สาขาที่ 12  ไอคอน สยาม ห้างสรรพสินค้าสุดหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในปลายปีนี้อีกด้วย รวมถึงจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

“ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญของอันเดอร์ อาร์เมอร์  ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและสูงสุดในภูมิภาค จึงทำให้มีสาขาวางจำหน่ายสินค้าที่อันเดอร์ อาร์เมอร์บริหารเอง มากถึง 21 สาขาทั่วประเทศภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี นอกจากนี้ อันเดอร์ อาร์เมอร์ยังคงมีแผนที่จะเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อการวิจัยและพัฒนาสินค้า เราจึงมั่นใจว่าอันเดอร์ อาร์เมอร์จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน”  ไมเคิล บิงเกอร์กล่าว

ด้านปริศนา กล่าวต่อว่า ความสำเร็จของอันเดอร์ อาร์เมอร์ในการทำตลาดเมืองไทย 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีการเติบโตของยอดขายเฉลี่ย 30-50% ทุกปี จนทำให้ปัจจุบัน อันเดอร์ อาร์เมอร์ เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย

แต่เมื่อถามถึงเป้าหมายของอันเดอร์ อาร์เมอร์ในประเทศไทยในอนาคต ปริศนา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอันดับส่วนแบ่งตลาด เธอมองไปที่การเติบโตของยอดขายว่าสำคัญกว่า เพราะหากสามารถเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย 30-50% ต่อไปเรื่อยๆ

อันเดอร์ อาร์เมอร์จะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่อันดับใด ก็ไม่สำคัญ