“เดนทัล คอร์ปอเรชั่น” ซื้อคลินิกทันตกรรม 3 แห่งเสริมพอร์ต จ่อบุ๊ครายได้ทันที Q1/61

1609

ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่า วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาซื้อคลินิกทันตกรรมจำนวน 3 แห่ง คิดเป็นมูลค่าลงทุนประมาณ 32 ล้านบาท ซึ่งเตรียมบันทึกรายได้เข้ามาทันทีตั้งแต่ 1 มีนาคม 2561 และจะผลักดันรายได้และกำไร ในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำสถิติสูงสุดใหม่ตามแผนงานที่วางไว้

“3 คลินิกใหม่ที่เราซื้อกิจการเข้ามาจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยทั้ง 3 คลินิกใหม่จะใช้แบรนด์ Dental Planet ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวต่างชาติ และผู้บริโภคชาวไทยที่มีรายได้ระดับปานกลาง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราได้เป็นอย่างดี” ทพ.พรศักดิ์กล่าว

ทพ.พรศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 16 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขา ดำเนินการภายใต้ “BIDC” 1 สาขา,“Dental Signature” 4 สาขา, “Smile Signature” 8 สาขา และ “Dental Planet” 3 สาขา

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2560 มีรายได้รวม 468.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.67 ล้านบาท หรือ 4.85% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 446.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 46.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.64 ล้านบาท หรือ 8.56% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 42.52 ล้านบาท

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ลูกค้าเข้ามารับบริการมากขึ้น หลังเปิดให้บริการศูนย์ทันตกรรม Dental Signature สาขาศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ (EmQuartier) ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย และกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้ระดับปานกลางและระดับสูง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 16มีนาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2561

ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลทันตกรรมเอกชนเฉพาะทาง ย่านเพลินจิต มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท ได้ฤกษ์ลงเสาเข็มในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2562 โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ชาวไทยที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเป็นอย่างมาก ผลักดันให้บริษัทฯก้าวขึ้นสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจทันตกรรมของเมืองไทย รายได้และกำไรในช่วง 5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้