ย้อนกลับไปในปี 2554 คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่อาจนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศและระบบเศรษฐกิจอย่างยับเยิน แต่ท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้คนในเวลา แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าจากประเทศญี่ปุ่น ยูนิโคล่ ที่ประสบความสำเร็จเปิดสาขาในหลายประเทศทั่วโลกกว่า 10 ปี ก็เข้ามาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ
จะว่าไปแล้ว การเข้ามาของแฟชั่นสโตร์ อย่างยูนิโคล่ ก็ไม่ได้เป็นโมเดลที่แปลกใหม่สำหรับคนไทย เพราะก่อนหน้าที่ยูนิโคล่จะเข้ามา แบรนด์ดังจากต่างประเทศ ทั้ง GAP จากสหรัฐอเมริกา ก็เข้ามาก่อนหน้า หรือแม้แต่แบรนด์ Zara จากสเปน และ H&M สัญชาติสวีเดน ก็เข้าสู่เมืองไทยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
แต่แม้จะเข้ามาในช่วงเวลาที่ดูไม่เหมาะสม รวมถึงการเผชิญกับคู่แข่งที่ล้วนเป็นแบรนด์แข็งแกร่งระดับโลก ยูนิโคล่ ในประเทศไทยกลับกลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย
ชื่อ Uniqlo เป็นการรวมกันระหว่าง Unique ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับ Clothing Warehouse คลังสินค้าเสื้อผ้า กลับกลายเป็น Uniqlo ที่สามารถขายสินค้าเข้าถึงคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอายุ และทุกระดับชั้น เพราะแม้จะมองช่องทางการจำหน่าย ที่การเปิดสาขาจะอิงไปกับ 2 ศูนย์การค้าใหญ่ คือ กลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มเดอะมอลล์ เผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง Gap หรือ Zara แต่ด้วยราคาสินค้าที่โดยเฉลี่ยต่ำกว่า 2 แบรนด์ดังกล่าว บวกกับรูปแบบการให้บริการที่ดูจะเข้าใจกับจริตของคนไทยที่ไม่ชอบให้พนักงานขายเดินตามติดเวลาเลือกซื้อสินค้า แต่สามารถเรียกหาได้ง่ายเวลาต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งทำได้ดีมีประสิทธิภาพกว่า H&M ทำให้ยูนิโคล่ประสบความสำเร็จในเมืองไทยอย่างรวดเร็ว
โอกุริ โทโมโยชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ยูนิโคล่ในประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ทำรายได้ และมีการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 35 สาขา กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ที่ 2 ศูนย์การค้าใหญ่ กลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มเดอะมอลล์ ขยายไปถึง แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลหันมาปรับปรุงศูนย์การค้าเดิมเป็นหลัก ทำให้ยูนิโคล่มีการขยายสาขาเพิ่มเพียง 2 สาขา
เมื่อธุรกิจกำลังเดินหน้าไปได้สวย แต่ต้องมาสะดุดกับแผนการขยายสาขาของศูนย์การค้าที่ผูกติดกันอยู่ ทำให้ในปีนี้ ยูนิโคล่ กล้าที่จะเดินออกจากศูนย์การค้า ออกมาสร้างแลนด์มาร์คของตนเอง ประกาศนำร้านยูนิโคล่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า โรดไซด์ สโตร์ (Roadside Store) หรือ ร้านสแตนอโลนในทำเลติดถนน ที่มีให้บริการมาก่อนในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน มาเปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยับเข้าหาลูกค้าให้ใกล้มากขึ้น
ถือเป็นความหาญกล้าที่ยูนิโคล่จะขยายสาขาออกมาจากนอกศูนย์การค้า โดยไม่ได้เป็นเอาท์เล็ตสโตร์ที่นำสินค้าตกรุ่น หรือสินค้าเกรดบี มาขายเหมือนแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า ชุดกีฬาเปิดกันตามหัวเมืองรอบกรุงเทพฯ แต่เป็นสินค้าราคาปกติเหมือนที่ขายกันในร้านที่อยู่ตามศูนย์การค้า เป็นเพราะส่วนสำคัญคือคอนเซปต์ของแบรนด์ ที่ยูนิโคล่วางไว้ จากแรกเริ่มให้เป็น “Made for All” การผลิตเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายสำหรับทุกคน ทุกความต้องการ มาสู่คอนเซปต์ใหม่ “Life Ware” แบรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่จะช่วยพัฒนาชีวิตของผู้สวมใส่ในทุกวัน ผนวกกับราคาสินค้าที่คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงขยายกว้างออกไปได้มากกว่าคนที่เดินในศูนย์การค้า
โดยยูนิโคล่ โรดไซส์ สโตร์ จะเปิดตัวสาขาแรก บนถนนพัฒนาการ ในพื้นที่ 1,440 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอีกถนนสายหลักที่วิ่งออกสู่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ซึ่งด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์แวร์ (LifeWear) ของยูนิโคล่อย่างครบถ้วนทุกกลุ่มสินค้า ตั้งแต่สินค้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงไปจนถึงสินค้าสำหรับเด็กเล็ก เด็กโต สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ไปจนถึงสินค้าโปรโมชั่น
“ยูนิโคล่ โรดไซส์ สโตร์ รูปแบบใหม่นี้จะมอบความสะดวกสบายยิ่งกว่าให้กับลูกค้าของยูนิโคล่ในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน ไม่ต้องเดินทางเข้าไปถึงใจกลางกรุงเทพฯ อย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ หรือสยามพารากอน ซึ่งเป็นเพียง 2 สาขาที่มีสินค้าครบถ้วนทุกกลุ่มสินค้า ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ครบถ้วนเช่นกัน พร้อมทั้งยังเป็นศูนย์รวมที่เชื่อมโยงคนในชุมชนให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่จอดรถที่กว้างขวาง รองรับได้ 50-60 คัน และยังมีการออกแบบให้เหมาะกับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย เช่น มีพื้นที่สำหรับผู้มาคอย และโซนสำหรับเด็กๆ เป็นต้น วางเป้าหมายจะมีผู้เข้าใช้บริการราว 2,000-3,000 คนต่อสัปดาห์ ”
โอกุริ โทโมโยชิ กล่าวต่อว่า แผนการขยายสาขาของยูนิโคล่ต่อจากนี้ จะขยายควบคู่ไปทั้งการเปิดสาขาในศูนย์การค้า โดยในปีนี้จะมีการเปิดยูนิโคล่เพิ่มอีก 2 สาขา คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมหาชัย และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พิษณุโลก รวมถึง ยูนิโคล่ โรดไซส์ สโตร์ และจะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งสาขาในศูนย์การค้า และโรดไซส์ สโตร์ ในพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
โอกุริ มองว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี มีการเติบโตเข้มแข็ง ยูนิโคล่ก็จะเดินหน้าในการขยายสาขา เพื่อเพิ่มยอดขายต่อไป แต่ยูนิโคล่ไม่ได้มองความสำเร็จเพียงแค่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น เพราะเพียงเวลา 6 ปีที่เข้ามาสู่ประเทศไทย วันนี้สินค้ายูนิโคล่สามารถเข้าถึงคนไทยได้เป็นวงกว้างมากขึ้นทุกปี ซึ่งที่สุดแล้ว โอกุริ ก็หวังว่า
ยูนิโคล่จะเป็น Top of Mind Brand แบรนด์ที่อยู่ในใจคนไทยเป็นอันดับ 1 ให้ได้
