MQDC เปิดโครงการแฟลกชิพ “THE FORESTIAS” Mixed-Use Project กลางป่า

1941

ชื่อ ของ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC อาจไม่ได้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่มีประวัติการทำธุรกิจมายาวนาน เหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ แต่ด้วยโครงสร้างบริษัท ที่มีลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์   “ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์” เป็นเจ้าของบริษัท ก็คงถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน

MQDC และบ้านแมกโนเลีย เป็นที่รู้จักในวงกว้างครั้งแรก จากการเป็นโครงการสปอนเซอร์ให้กับรายการเรียลลิตี้โชว์ยอดฮิตเมื่อราว 10 ปีก่อน  “อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย” และในปี 2557 MQDC เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอภิมหาโครงการ Mixed Use ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ไอคอนสยาม”

แต่ปีนี้แมกโนเลีย ควอลิตี้ฯ กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวแผนพัฒนาธุรกิจบนพื้นที่บางนา สู่การพลิกวงการอสังหาริมทรัพย์ จับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกร่วมสร้างสรรค์โครงการ “THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์” โปรเจกต์แฟลกชิพครั้งแรกของโลก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวถึงแนวคิดในการเปิดโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ว่า  ปัจจุบัน ความเจริญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีนับว่ามีบทบาทความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเชื่อมโยงชีวิตและไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งท่ามกลางความเจริญด้านวัตถุ ได้ส่งสัญญาณถึงปัญหาระดับโลกที่กำลังแทรกซึมและส่งผลกระทบต่อโลก อาทิ ระบบนิเวศธรรมชาติเสื่อมถอย เกิดช่องว่างของสมาชิกในครอบครัว สมาชิกต่างคนต่างใช้ชีวิต จนเกิดเป็นความห่างเหิน การเก็บตัว และอาจนำ ไปสู่ภาวะซึมเศร้า หรือการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น

ปัจจุบันครัวเรือนไทย เป็นครอบครัวขนาดเล็กถึง 20.3 ล้านครัวเรือน  มีปฏิสัมพันธ์กันน้อยลงเพราะผลจากการติดอุปกรณ์สื่อสารสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่มีผู้คนในวัย 65 ปีขึ้นไปมากถึง 20% ของประชากรประเทศ โดยภายในปี ค.ศ.2050 ไทยจะมีประชากรสูงอายุมากเป็นรองสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวในอาเซียน ทำให้โอกาสของผู้สูงวัยจะเป็นโรคซึมเศร้าจากความห่างเหินของคนในครอบครัวก็มีมากขึ้น

นอกจากนี้ปัญหาในเรื่องนิเวศธรรมชาติเสื่อมถอย โลกร้อนด้วยเหตุของพื้นที่สีเขียวลดลง โดยในกรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียวเพียง 3.3 ตารางเมตรต่อคน จากค่ามาตรฐานของ WHO  ที่ระบุไว้ 9 ตารางเมตรต่อคน ขณะที่เมืองใหญ่ทั่วโลก มีพื้นที่สีเขียวอยู่ราว 13-27 ตารางเมตรต่อคน

ปัจจัยเหล่านี้เป็นที่มาให้ MQDC นำเสนอโมเดลการใช้ชีวิตเข้ากับระบบนิเวศที่สมดุลเพื่อความสุขที่ยั่งยืน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Imagine Happiness” โดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบ Mixed-Use Lifestyle บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ รายล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัย พื้นที่รีเทล อาคารและสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต ผืนป่าสันทนาการ พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และนับเป็นครั้งแรกของการสร้างระบบนิเวศของผืนป่าที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว

“บริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดช่องว่างและสร้างความสุข อย่างยั่งยืน ภายใต้คำมั่นสัญญา ‘for all well-being’ คือความตั้งใจในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต เพื่อส่งผลดีต่อทุกการดำเนินชีวิต พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลก ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจธรรมชาติ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการเพิ่มพื้นที่เพื่อให้ คนในครอบครัวทั้ง 4 เจนเนอเรชั่น ได้แก่ ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลูกหลาน และเหลน ได้ใช้เวลาร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกัน จนเกิดเป็นคอมมิวนิตี้ที่น่าอยู่ขึ้น”

ด้าน กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นำคำว่า “ความสุขที่แท้จริง” เป็นโจทย์ในการดำเนินงาน โดย MQDC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมาร่วมดีไซน์และสร้างสรรค์โครงการ เพื่อมอบความสุขที่แท้จริงในกับคนในยุคปัจจุบันและอนาคต เกิดเป็นโปรเจกต์แฟลกชิพครั้งแรกของโลก “THE FORESTIAS – เดอะฟอเรสเทียส์” นิยามแห่งการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์สู่ปรากฏการณ์ใหม่ มูลค่าโครงการมากกว่า 90,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Imagine Happiness” ที่ให้ทุกคน ได้ใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

“THE FORESTIAS – เดอะฟอเรสเทียส์” ใช้องค์ประกอบสำคัญ 4 หมวดใหญ่ หรือ Eternal 4 ประกอบด้วย 50 Shades of Nature ความสุขในการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติระบบนิเวศขนาดใหญ่ มีต้นไม้ มีสัตว์ และมีพื้นที่สีเขียวให้ถึง 12 ตารางเมตรต่อคน Connecting 4 Generations ความสุขในการดีไซน์พื้น ที่ความอบอุ่นให้กับครอบครัวได้ใช้ชีวิตร่วมกันครอบคลุมถึง 4 เจนเนอเรชั่น Community of Dreams ความสุขบนพื้นที่และสาธารณูปโภคที่ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน  Sustainnovation for Well-being  ความสุขด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นดีเอ็นเอของ MQDC ที่สร้างแนวคิดใหม่ของการใช้ชีวิตทั้งในวันนี้ และในอนาคตต่อไป

โดยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มาร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์ การอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข นับเป็นโมเดลแรกของโลก ประกอบด้วย  Foster + Partners ที่ปรึกษาการออกแบบวางผังและงานสถาปัตยกรรม EEC Engineering Network ร่วมวิจัยและพัฒนางานระบบอาคาร ตามแนวทางของ MQDC คือ ยึดหลัก Sustainnovation ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้ามาสร้างต้นแบบของงานระบบอาคารที่เน้นความยั่งยืนและความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโครงการ Atelier Ten ร่วมทำวิจัย ศึกษาและวางแผนการป้องกันผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งรวมไปถึงระบบนิเวศให้มีความสมดุลและยั่งยืน โดยการใช้นวัตกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นผู้ตรวจสอบและควบคุมการออกแบบและการก่อสร้างเพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการชั้นนำของโลก ITEC Entertainment จะเป็นผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์และสันทนาการที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการ เพื่อทำให้ ผู้อยู่อาศัยและผู้เยี่ยมเยือนโครงการได้พบกับประสบการณ์ที่พิเศษสุด Six Senses ร่วมบริหารและให้บริการ ด้านการบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย (Hospitality and Residential) ที่ยึดหลักการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ สุขภาพ และความยั่งยืน  รวมทั้งคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เข้ามาร่วมทำการศึกษา ซึ่งนับเป็นงานวิจัย ทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหม่ที่มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากการออกแบบพื้นที่และดีไซน์ของโปรเจกต์นี้ ที่มีต่อสุขภาพมนุษย์

ทั้งนี้ โครงการ “THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ บริเวณบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 โดยเริ่มต้นดำเนินการก่อสร้างปี พ.ศ. 2561 และจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2565