“สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส” เปิดตัว “SHREIT” กองทรัสต์เพื่อการลงทุนธุรกิจโรงแรมในภูมิภาคอาเซียนรายแรกของประเทศไทย

14456

การขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนกำลังก้าวแซงหน้าประเทศเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ

โดยเฉพาะประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยหลักในการขยายตัวของเศรษฐกิจของอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2559 เวียดนามมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP อยู่ในระดับ 7% นับเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในอาเซียน เนื่องจากเวียดนามมีนโยบายเปิดกว้างให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเป็นระยะอีกด้วย

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่ หรืออยู่ในช่วงเริ่มต้น ในแต่ละปีมีการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวในอัตราที่สูงมาก แต่ที่ผ่านมาซัพพลายของโรงแรมยังมีไม่เพียงพอ

ส่วนประเทศอินโดนีเซียนั้นเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP อยู่ที่ระดับ 5-6% มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในนโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซีย

และจากการที่ภูมิประเทศของอินโดนีเซียเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีจำนวนประชากรมากกว่า 260 ล้านคน ทำให้ประชากรมีการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางเชิงธุรกิจภายในประเทศค่อนข้างสูง ซึ่งจากตัวเลขพบว่า จาการ์ตา (Jakarta) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองเศรษฐกิจแค่เมืองเดียวมีนักท่องเที่ยวภายในประเทศเดินทางไปถึงราว 30 ล้านคนต่อปี

SHREIT กองทรัสต์อิสระเน้นลงทุนธุรกิจโรงแรมในอาเซียน

จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ บริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด แจ้งเกิด กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้  (Strategic Hospitality Extendable Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ SHREIT กองทรัสต์อิสระที่โฟกัสการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในตลาดอาเซียนเป็นรายแรกของประเทศไทย

ปธาน สมบูรณสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด

“ปธาน สมบูรณสิน” กรรมการผู้จัดการ และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์ บริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด กล่าวถึงแนวคิดในการจัดตั้ง SHREIT ว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมบริหารมองว่า จากการเติบโตอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนและมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี จึงหันมามุ่งลงทุนในธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก

ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนในประเทศไทย ทั้งประเภทบุคคลธรรมดา นิติบุคคล และนักลงทุนสถาบัน มีโอกาสเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงแรมในหลายๆ ประเทศทั่วภูมิภาคอาเซียนผ่านกองทรัสต์ SHREIT ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในอาเซียนกองแรกและกองเดียวของประเทศไทย

ลงทุนโรงแรมที่เป็นเชนอินเตอร์ในหลายประเทศและหลายระดับเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ

เปิดตัวสินทรัพย์โรงแรม 3 แห่งใน “เวียดนาม-อินโดนีเซีย”

“ปธาน” กล่าวว่า สำหรับสินทรัพย์ที่นำเข้ากองทรัสต์ SHREIT ในปีแรกนี้ประกอบด้วยโรงแรม 3 แห่ง รวมจำนวนห้องพักที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 632 ห้อง แบ่งเป็นโรงแรมในอินโดนีเซีย 1 แห่ง และโรงแรมในเวียดนาม 2 แห่ง ได้แก่ 1. โรงแรม Pullman Jakarta Center Park เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย (กรรมสิทธิ์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรม) เป็นโรงแรมขนาด 317 ห้อง ระดับ 5 ดาว เพียงแห่งเดียวในฝั่งตะวันตกของกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีฐานลูกค้าทั้งจากภายใน และภายนอกประเทศ

โรงแรม Pullman Jakarta Center Park เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ในโครงการเซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ที่ประกอบด้วยโรงแรม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโซโก้ ที่สำคัญเป็นโรงแรมที่มีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่รองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากถึง 8,000 คน

โรงแรม Capri by Fraser เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

2. โรงแรม Capri by Fraser เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (สิทธิการเช่า 26 ปี) เป็นโรงแรมขนาด 175 ห้อง ระดับ 4 ดาว โรงแรมแห่งนี้ให้บริการทั้งในรูปแบบห้องพักระยะสั้น (short stay) และห้องพักระยะยาว (long stay) และ 3. โรงแรม IBIS Saigon South เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (สิทธิการเช่า 26 ปี) เป็นโรงแรมขนาด 140 ห้อง ระดับ 3 ดาว โดยมีแผนที่จะปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 20 ห้องในอนาคต

โรงแรม IBIS Saigon South เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เป็นโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากการบริหารจัดการโดยผู้บริหารโรงแรมชั้นนำระดับสากล อีกทั้งยังตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์ประชุม Saigon Exhibition and Convention Center ซึ่งเป็นศูนย์ประชุมระดับมาตรฐานสากลแห่งเดียวในเมืองโฮจิมินห์ และเป็นศูนย์ประชุมที่มีงานสม่ำเสมอตลอดทั้งปีมากกว่า 50 งาน

“โรงแรมทั้ง 3 แห่งนี้นับว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันและมีศักยภาพในการแข่งขันสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเอง โดยปีที่ผ่านมามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ประมาณ 70-80% นอกจากนี้โรงแรมทั้ง 3 แห่งยังมีโพซิชั่นนิ่งและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทำให้ผลการดำเนินงานในอดีตเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง”  ปธานกล่าว

 

เจมส์ เทิค เบง ลิม กรรมการบริหารบริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด 

วงเงินลงทุน 5.4 พันล้านบาท

สำหรับวงเงินการลงทุนในครั้งนี้ “เจมส์ เทิค เบง ลิม” กรรมการบริหารบริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด กล่าวว่า จะใช้ลงทุนในสินทรัพย์มูลค่าไม่เกิน 5,420 ล้านบาท แบ่งเป็นการเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนไม่เกิน 3,740 ล้านบาท และเงินกู้ยืมสถาบันไม่เกิน 1,680 ล้านบาท

“สินทรัพย์ที่เราเน้นจะเป็นโรงแรมที่อยู่ในต่างประเทศทั้งหมด และเป็นประเทศที่มีศักยภาพทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ และโรงแรมที่เลือกมาก็จะต้องมีความโดดเด่น เป็นเชนอินเตอร์ทั้งหมด และหลากหลายระดับ ทั้งนี้เพื่อให้มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังง่ายต่อการบริหารจัดการ และกระจายความเสี่ยง ที่สำคัญยังทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจและสบายใจว่าสินทรัพย์ที่เราเลือกมานั้นมีคุณภาพ เติบโตที่สูง และได้ผลตอบแทนที่น่าลงทุน”

โดยในปีแรกนี้จะยังคงเน้นลงทุนในสินทรัพย์ของโรงแรม 3 แห่งดังกล่าวเป็นหลัก โดยเชื่อมั่นว่าสินทรัพย์ที่บริษัทฯ เลือกมาเป็นสินทรัพย์ชั้นดีในแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สูง ส่วนแผนงานในอนาคตหรือปีต่อๆ ไปนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่อีกหลายแห่งในหลายๆ ประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าน่าจะเข้าไปลงทุนในประเทศที่ 3 ได้ภายในปีหน้า

“เจมส์ เทิค เบง ลิม” ย้ำด้วยว่า แนวทางการลงทุนสำหรับ SHREIT แล้วบริษัทฯ มีคำพูดที่ว่า Invest In Unique ASEAN Diversity หรือ ลงทุนในสินทรัพย์ที่โดดเด่นในอาเซียน

โดย กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบต่ออายุได้เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้  หรือ SHREIT นี้ มีบริษัท สตราทีจิก พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสท์เตอร์ส จำกัด เป็นผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ underwriter และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นทรัสตี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sh-reit.com