การขยายเส้นทางรถไฟฟ้าที่เพิ่มสถานีออกไปสู่จังหวัดปริมณฑล ไม่ได้เพียงแต่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้คนที่อยู่อาศัยในเขตชานเมืองเท่านั้น แต่ได้สร้างความคึกคักให้กับพื้นที่รอบกรุงเทพฯ เหมือนเช่น ฝั่งตะวันตก ที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งไปถึง ปรับเปลี่ยนพื้นที่บางใหญ่ที่ซบเซา ให้สดใสไปด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และซูเปอร์สโตร์เฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศ
และในฝั่งตะวันออก ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวขยายสถานีออกไปถึงสำโรง สมุทรปราการ ก็สร้างความคึกคักให้กับพื้นที่ย่านบางนาไม่ต่างกัน โดยจุดพื้นที่โฟกัสสำคัญที่ถูกจับจ้องก็คือ 2 ซอยพี่น้อง แบริ่ง – ลาซาล ที่ล้อมรอบด้วย 3 ถนนเส้นทางหลัก เทพรัตน์(บางนา-ตราด) ศรีนครินทร์ และสุขุมวิท ซึ่งเต็มไปด้วยหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนประถมมัธยมรายรอบอยู่ถึง 5 โรงเรียน ประมาณการประชากรในย่านนั้นมีอยู่ราว 2 แสนคน
ศักยภาพที่ครบสมบูรณ์เช่นนี้ ดึงดูดให้ กลุ่ม TTC Group ยักษ์ใหญ่ในวงการเรียลเอสเตทของ เจริญ สิริวัฒนภักดี ส่งบริษัทในเครือ แอสเสท เวิรด์ รีเทล เข้ามาพัฒนาโครงการค้าปลีกในพื้นที่นี้
ที่ผ่านมาแอสเสท เวิรด์ รีเทล เป็นผู้พัฒนาหลากหลายโครงการ อาทิ เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์, เอเชียทีค, เกตเวย์ เอกมัย และศูนย์การค้าพันธ์ทิพย์ เป็นต้น แต่การพัฒนาโครงการค้าปลีกในพื้นที่แบริ่ง ลาซาลนี้ แอสเสท เวิรค์ เลือกทำโครงการรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ในชื่อ “ลาซาล อเวนิว” โดยใช้งบลงทุน 350 ล้านบาท
มานพ คำสว่าง ผู้จัดการบริหารทรัพย์สิน บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด เผยว่า สาเหตุที่ย่านบางนาเป็นหนึ่งในทำเลที่มีอัตราการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์อย่างชัดเจน เพราะเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่เชื่อมสู่ศูนย์กลางแหล่งอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ ตลอดจนการคมนาคมที่ มีความหลากหลายด้านการเดินทาง เข้าออกเมืองได้ง่ายด้วยทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนบูรพาวิถี หรือเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และยังเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถึง 3 เส้นทาง ทั้งส่วนต่อขยายสายสีเขียว แบริ่ง-สำโรง, สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง และรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางบางนา-สุวรรณภูมิ โดยย่านดังกล่าวมีจำนวนประชากรอยู่อาศัยกว่า 230,361 คน โดยมีแนวโน้มอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงจากการสำรวจพบว่าประชากร มีรายได้ต่อครัวเรือนราว 4.5-5 หมื่นบาทสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของกรุงเทพฯ อีกด้วย
แต่มานพ ก็ยอมรับว่า ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจรีเทลทั้งกรุงเทพฯ และเมืองเศรษฐกิจทั่วประเทศมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและจะคงการเติบโตดังกล่าวไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า ดังนั้น แนวคิดในการสร้างลาซาล อเวนิว คือการสร้างสรรค์ความแตกต่างเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ลูกค้ายังไม่เคยสัมผัสที่ใดมาก่อน เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเข้าใช้บริการ
“ปัจจุบันตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ยังเป็นอีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจรีเทลที่เป็นที่ต้องการของตลาด แอสเสท เวิรด์ รีเทล เชื่อมั่นว่าคอมมูนิตี้มอลล์แนวคิดใหม่ที่เราพัฒนาขึ้นในครั้งนี้ เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในย่านลาซาลอย่างมาก เพราะเรานำเอาความต้องการของชุมชนมาเป็นโจทย์ในการสร้างคอมมูนิตี้มอลล์รูปแบบแนวคิดใหม่ ที่ไม่เพียงแต่มีร้านค้าที่ตอบโจทย์การไลฟ์สไตล์ของคนในย่านนี้ เรายังมีพื้นที่สีเขียวที่จะสร้างความสดชื่น เป็นปอดแห่งใหม่ของลาซาลอีกด้วย”
มานพ คำสว่าง และ ธนวัฒน์ อัจฉริยวุธ
ด้านธนวัฒน์ อัจฉริยวุธ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายพบว่า ย่านลาซาล-แบริ่ง เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่มีกำลังซื้อสูงและมีความเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงพัฒนาศูนย์การค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า 3 ประการ ได้แก่
- ตอบโจทย์ทางด้านความครบทุกความต้องการของลูกค้าเรียกได้ว่ามาแล้วสามารถใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวัน อีกทั้งยังมี International Brand แฟชั่นระดับโลกไว้ให้บริการ
- มีกรีนสเปซ พื้นที่สีเขียวปอดแห่งใหม่ของคนย่านลาซาล ด้วยพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.
- มีความสะดวกสบายด้วยการออกแบบในสไตล์คอมมูนิตี้มอลล์ที่มี 1 ชั้น โดยจัดพื้นที่จอดรถไว้รอบอาคารกว่า 300 คัน สามารถจอดรถแล้วเดินเข้าร้านค้าต่างๆ ได้ทันที
โดยแม็กเน็ตของ ลาซาล อเวนิว ประกอบด้วย ยูนิโคล่ โรดไซด์ สาขาที่ 2 ในประเทศไทย ที่เพิ่มความสะดวกในการช้อปปิ้ง มาให้คนในย่านลาซาล แบริ่ง Orca BAKER & BUTCHER ร้านอาหารสไตล์ Modern Italian ที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนำเข้าจากฟาร์มชั้นนำทั่วโลกคุณภาพดี พร้อมกูรูเนื้อมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำการเลือกเนื้อที่ตรงตามต้องการ BY BUA ร้านอาหารไทยต้นตำรับที่นำเสนออาหารไทยจากการปรุงรสอย่างละเมียดละไมตามสูตรแบบโบราณ Salada Organic Kitchen ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่เน้นความสดสะอาดของวัตถุดิบปรุงอาหารให้อร่อยอย่างพิถีพิถัน Villa Market World of Foods Supermarket ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศจากทั่วโลก Glo One Stop Beauty Lounge ที่จะเนรมิตให้สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าในแบบ One Stop Service และ Tsuruha Drug Store ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนั้นยังจะมีการเปิดตลาดนัดอินดี้ Theme Market ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ตลอดทั้งปี
โดยขณะนี้พื้นที่ค้าปลีกราว 6,000 ตารางเมตร มีผู้จองเต็ม 100% รวมทั้งหมด 25 ร้าน ธนวัฒน์คาดว่าจะสามารถดึงผู้ใช้บริการลาซาล อเวนิว เฉลี่ย 6,000 คนต่อวัน วางเป้ายอดใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 2,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นลาซาล อเวนิว เฟสแรก 19 ไร่นี้แล้ว บริษัทก็เตรียมเปิดเฟส 2 บนพื้นที่อีก 7 ไร่ ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้เพิ่มที่จอดรถให้มากขึ้นเพียงพอกับผู้ใช้บริการ และอีกส่วนจะนำร้านค้าที่เป็นที่ต้องการ เช่น โฮมโปร, ฟิตเนส หรือบริการล้างรถ เข้ามาเสริม
มานพ เชื่อว่า เมื่อโครงการข่ายการคมนาคม รถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์ แบริ่ง และลาซาลจะคึกคักยิ่งกว่านี้ และลาซาล อเวนิว ก็พร้อมจะขยายโครงการออกไปอีก เพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะมีเพิ่มขึ้น
