เป็นข่าวร้อนสะเทือนวงการธุรกิจและสังคมไฮโซสุดๆ เมื่อครอบครัว “ณรงค์เดช” ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น โดย ดร. เกษม ณรงค์เดช, กฤษณ์ ณรงค์เดช และกรณ์ ณรงค์เดช ได้ออกแถลงการณ์เคลียร์ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว “ณรงค์เดช” กรณีของ “ณพ ณรงค์เดช”
โดยเนื้อหาใจความระบุว่าเนื่องจากปัจจุบัน ปรากฏข่าวมากมายในเรื่องของความเกี่ยวพันระหว่างครอบครัวณรงค์เดช กับ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ซึ่งมี “ณพ ณรงค์เดช” ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ครอบครัว “ณรงค์เดช” ออกแถลงการไม่เกี่ยวข้อง “ณพ ณรงค์เดช”
ครอบครัว “ณรงค์เดช” โดย ดร. เกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น นายกฤษณ์ ณรงค์เดช ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น และนายกรณ์ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น จึงมีความจำเป็นต้องส่งแถลงการณ์ต่อสาธารณะเพื่อให้ทราบโดยทั่วกันว่า การดำเนินการใดๆ ของนายณพ ณรงค์เดช ที่ผ่านมา และต่อจากนี้ครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
พร้อมระบุว่า สาเหตุที่ต้องแถลงการณ์ในครั้งนี้ เริ่มจากประมาณ 2 ปีที่แล้ว นายณพ ณรงค์เดช ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวณรงค์เดช ในเรื่องการจัดหาเงินเพื่อลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ซึ่งต่อมาครอบครัวณรงค์เดชก็ให้ความช่วยเหลือในการให้ยืมเงินสด การให้นำทรัพย์สินของครอบครัวณรงค์เดช และทรัพย์สินอื่นที่ครอบครัวณรงค์เดชจัดหามาไปเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม
แต่หลังจากที่ นายณพ ณรงค์เดช ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว นายณพกลับดำเนินการใดๆ โดยใช้ชื่อเสียงของครอบครัวณรงค์เดชไปแอบอ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยลำพัง โดยทางครอบครัวณรงค์เดชไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญหลายประการ ไม่มีส่วนในการรับรู้ถึงรายละเอียดของการดำเนินการเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือบริหารงานใดๆ ในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการลงทุนที่ผ่านมา
พร้อมทั้งย้ำว่า การดำเนินการใดๆ ของนายณพ ณรงค์เดช ที่ผ่านมา และต่อจากนี้ครอบครัวณรงค์เดชไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหากมีการนำชื่อของกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น หรือครอบครัวณรงค์เดชไปใช้โดยไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกครอบครัวณรงค์เดช อันได้แก่ ดร. เกษม ณรงค์เดช นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และนายกรณ์ ณรงค์เดช อยู่ด้วย ขอให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการแอบอ้าง โดยครอบครัวณรงค์เดชไม่ได้รับรู้หรือให้ความยินยอมทั้งสิ้น
นายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด
วงในชี้! ตัดปัญหาพัวพันคดีโกง 2 หมื่นล้าน
แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัทเคพีเอ็นรายหนึ่งระบุว่า สาเหตุที่ครอบครัว “ณรงค์เดช” ต้องออกแถลงการณ์ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากไม่อยากมีชื่อพัวพันกับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด และนายณพ ณรงค์เดช ที่มีข่าวเรื่องของความเกี่ยวพันระหว่างครอบครัวณรงค์เดช กับ วินด์ เอนเนอร์ยี่ ออกมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
อาทิ กรณีบริษัทเน็กซ์โกลบอล อินเวสเมนท์ บริษัท ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ และบริษัทซิมโฟนี่ พาร์เนอร์ ในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทรีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ หรือ อาร์อีซี หรือเคพีเอ็น เอนเนอร์ยี่ ประเทศไทย ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัท วินด์ เอเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด รวมถึงนายเกษม ณรงค์เดช ซึ่งเป็นบิดา และพวกรวม 13 ราย ในความผิดฐานร่วมกันโกงเจ้าหนี้ มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท ที่ศาลแขวงพระนครใต้ เป็นต้น
ทำรายได้รวมปีละกว่า 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ จากข้อมูลกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า สถานะทางการเงินของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) นั้นปัจจุบันมีทุนจะทะเบียน 1,088.37 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมที่ 5,947.23 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมอยู่ที่ 1,801 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 2557-2559 พบว่า ในปี 2557 มีรายได้รวม 2,251.12 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 709.95 ล้านบาท ปี 2558 มีรายได้รวม 2,579.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 896.18 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้รวม 2,374.35 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 582.93 ล้านบาท
และข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2559 พบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ 6 อันแบแรกของ “วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ประกอบด้วย 1. บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด สัดส่วน 59.4625% 2.บริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด สัดส่วน 15.9720% 3.บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 3.8686% 4.นายกำธร กิตติอิสรานนท์ สัดส่วน 3.5167% 5.นางสาว เจนจิรา กิตติอิสรานนท์ สัดส่วน 3.5167% และ 6.นางสาว นันทิดา กิตติอิสรานนท์ สัดส่วน 3.5167%
บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด
เตรียมขาย IPO ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) นั้น เป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานทดแทนในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีนักลงทุนขาใหญ่อย่าง “นายวิชัย ทองแตง” เข้ามาร่วมลงทุนพร้อมนั้งเป็นประธานกรรมการบริษัทตั้งแต่เมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา และมีแผนจะผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทางเลือกอื่นด้วยนอกเหนือจากพลังงานลม อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานชีวมวล ฯลฯ
นอกจากนี้ WEH ยังมองหาช่องทางในการขยายกิจการ โดยการออกหุ้นเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) เข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นหนึ่งในช่องทางระดมทุนเพื่อขยายกิจการดังกล่าวด้วย
โดย WEH ได้เตรียมเปิดตัวโรงงานไฟฟ้าพลังงานลมอีก 5 แห่งในไทยภายในปี 2561 นี้ โดยโรงงานแต่ละแห่งนั้นสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 90 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในไทยของบริษัทเพิ่มเป็น 720 เมกะวัตต์ โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มผลิตไฟฟ้าเป็น 3,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 ขณะเดียวกันยังได้กำลังศึกษาตลาดประเทศอื่นๆ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และบังกลาเทศ ด้วย
