บลจ.อีสท์สปริง เปิดโผ 3 กองทุนแนะนำเดือน พ.ค.67 “TMBGQG- TMBUSBLUECHIP-TMBCOF” 

521

ยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในเดือนพฤษภาคม 2567  โดยบลจ.อีสท์สปริง คัดสรรกองทุนแนะนำ Fund of the Month ที่ควรมีไว้ในพอร์ตลงทุนจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth  (TMBGQG) กองทุนเปิดทหารไทย US Blue Chip Equity (TMBUSBLUECHIP) ที่กองทุนหลักลงทุนในหุ้นชั้นดีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนเปิดทหารไทย China Opportunity (TMBCOF) ที่กองทุนหลักลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ในหุ้นที่มีธุรกิจหลักอยู่ในจีน

ยิ่งยง เจียรวุฑฒิ

ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth  (TMBGQG) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือกองทุน Wellington Global Quality Growth Fund ในหน่วยลงทุนชนิด USD Class S Accumulating Unhedged โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ซึ่งบริหารจัดการโดย Wellington Management Company โดยมองว่ากองทุนหลักเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์การลงทุนขณะนี้ เนื่องจากมีการวิเคราะห์แบบผสมผสานทั้งแนวโน้มภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ เพื่อคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพดี ซึ่งผสมผสานหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งกลุ่มเติบโตและวัฏจักร โดยพอร์ตการลงทุนล่าสุดเน้นไปยังกลุ่มเทคโนโลยี 18.5% กลุ่มการเงิน 17.9% กลุ่มสุขภาพ 15.7% และกลุ่มอุตสาหกรรม 15.3% (ที่มา: Wellington  ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)นอกจากนี้ บริษัทที่กองทุนหลักไปลงทุนประมาณ 70% ของพอร์ตมีการประกาศงบฯ ไตรมาส 1/2567 แล้วมีผลกำไรและยอดขายดีกว่าคาดการณ์ (ที่มา: บลูมเบิร์ก วันที่ 7 พฤษภาคม 2567)

สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย US Blue Chip Equity (TMBUSBLUECHIP) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV-US Blue Chip Equity Fund Class I โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ซึ่งกองทุนหลักลงทุนในหุ้นชั้นดีของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา บริหารจัดการโดย T. Rowe Price International Ltd โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมีโอกาส soft landing สูง ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ไตรมาส 1/2567 ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังเติบโตแข่งแกร่งจาก เทรนด์ AI และมีกำไรเติบโตถึง 13.36% กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 39.38% และกลุ่มสื่อสาร 42.58%  ขณะที่ตลาดรับข่าวการลดดอกเบี้ยช้าและน้อยกว่าคาดของเฟดไปหมดแล้ว ทำให้ Downside เรื่องการลดดอกเบี้ยจำกัด นอกจากนี้ Valuationของ S&P500 ปรับตัวลงมาระดับใกล้เคียงอีกครั้งหลัง EPS มีการปรับประมาณการณ์ขึ้นต่อเนื่อง โดย Forward P/E ลงมาจากระดับ 24 เท่า ลงมาอยู่ที่ 21 เท่า คาดการณ์การเติบโตของกำไรของดัชนี S&P500 ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 9.52% และปี 2568 คาดว่าจะเติบโตอีก 12.86% (ที่มา:บลูมเบิร์ก วันที่ 7 พฤษภาคม 2567)

สุดท้าย กองทุนเปิดทหารไทย China Opportunity (TMBCOF) เน้นในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว(Master Fund) คือกองทุน UBS (Lux) Equity Fund – China Opportunity (USD) Class I-A1-acc โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV บริหารจัดการโดยUBS Asset Management (Hong Kong) โดยบลจ.อีสท์สปริงมองว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในเดือนที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่นโยบายการเงิน การคลัง รวมถึงการเข้าพยุงตลาดหุ้น ขณะที่ Sentiment นักลงทุนฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลให้มี fund flow ไหลเข้าตลาดหุ้นโดยเฉพาะตลาด H-Shares  ซึ่งระดับ Valuation ยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดย Forward P/E อยู่ที่ 8.5 เท่า นอกจากนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ทำให้เราคาดว่ารัฐบาลอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกในระยะถัดไป (ที่มา:บลูมเบิร์ก วันที่ 7 พฤษภาคม 2567)

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง 

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงทางด้านตลาด ความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงทางด้านเครดิตและคู่สัญญา และความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่อง เป็นต้น