PrimeStreet Capital ผนึก Photon Group ร่วมบริหารการลงทุนกองทุน 150 ล้านดอลลาร์ลุยพลังงานยั่งยืนเสริมความมั่นคงประเทศ

140

PrimeStreet Capital ผู้บริหารกองทุน Global Venture Capital สัญชาติไทย ลงนามความร่วมมือ Photon Group บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ สัญชาติญี่ปุ่น ลุยลงทุน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างความยั่งยืนด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นกลยุทธ์ “Inside Out – Outside In” ของกองทุน PrimeStreet Capital เสริมความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ยกระดับศักยภาพ Ecosystem ประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ต่อยอดการเติบโตสู่กองทุน Global Venture Capital ตามเป้า

นายศุภวัฒก์ ชลวณิช ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วน PrimeStreet Capital ซึ่งมีสำนักงานทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ในเครือ PrimeStreet Group เปิดเผยว่า ล่าสุด PrimeStreet Capital ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ Photon Group บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีนโยบายมุ่งเน้นลงทุนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน 100% จัดตั้งและร่วมบริหารการลงทุนกองทุนพลังงานสะอาด (Clean Energy) มูลค่ากองทุนราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเครือข่ายและการลงทุนในต่างประเทศของกองทุน Global Venture Capital ภายใต้การบริหารจัดการของ PrimeStreet Capital มาสนับสนุนเดินหน้าขยายการลงทุนที่สร้างความยั่งยืนด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy), พลังงานลม (Wind Energy), พลังงานน้ำ (Water Energy) และการสร้างประสิทธิภาพของการใช้พลังงานหรือการได้มาของพลังงาน เช่น carbon credit, data center, และ energy efficiency เป็นต้น

ความร่วมมือในครั้งนี้ PrimeStreet Capital ด้วยการเป็นพันธมิตรภูมิภาค (Regional Partner) ที่ผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ จะดำเนินการเฟ้นหาและประเมิน Deal ไปพร้อมๆกับการร่วมบริหารการลงทุน ซึ่งขณะนี้ Photon Group อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมดำเนินการวางระบบ และจัดตั้งสำนักงานดำเนินการในประเทศไทย เบื้องต้นคาดพร้อมเปิดตัวและเริ่มดำเนินการได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ปี 2567
นายศุภวัฒก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือกับ Photon Group ในการร่วมบริหารการลงทุนกองทุนพลังงานสะอาด (Clean Energy) มูลค่ากองทุนราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแบบยั่งยืน ไปพร้อมๆกับการยกระดับศักยภาพ Ecosystem ของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายศักยภาพการเติบโต ผลักดัน PrimeStreet Capital เพื่อต่อยอดสู่การเป็นผู้บริหารกองทุนระดับโลก ภายใต้กลยุทธ์ “Inside Out – Outside In” โดยล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มูลค่าพอร์ตกองทุน Global Venture Capital ภายใต้การบริหารจัดการของ PrimeStreet Capital ปรับเพิ่มขึ้น 3 เท่า หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนแก่นักลงทุน (IRR) อยู่ที่ราว 80%

ตัวอย่างกิจการภายใต้กองทุนของ PrimeStreet Capital ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา เช่น “Clip” ยูนิคอร์นด้าน FinTech ผู้พัฒนาระบบการชำระเงิน (Payment Process) ในเม็กซิโกที่มีความปลอดภัยและศักยภาพสูงสุด จนปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าผู้ใช้บริการการชำระเงินของธนาคารพาณิชย์ทุกรายในประเทศเม็กซิโกรวมกัน และ “Neuvivo” บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech Company) ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนยื่นขอรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FDA (Food and Drug Administration) เพื่อนำยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่ได้พัฒนาออกสู่ตลาด

“PrimeStreet Capital ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสเข้าไปลงทุนในบริษัทเป้าหมายสำคัญๆ ที่มีโอกาสและศักยภาพเติบโตสูง สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายของเศรษฐกิจและสังคมในยุคศตวรรษที่ 21 เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการยึด 4 ธีมเมกะเทรนด์ Environment and Resource, Healthcare and Wellness, Society and Lifestyle, และ Impact Technology” นายศุภวัฒน์ กล่าว