ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ. พี ซี แอล โฮลดิ้ง (PCL) เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 410 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.05% เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปีนี้ ระดมทุนซื้อเครื่องมือวิเคราะห์โรคเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาด-ลงทุนในศูนย์ตรวจสุขภาพ PCL Wellness & Longevity รวมถึงซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต ชูจุดเด่นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์โรค ประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี
พายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCL ผู้นำทางการตลาดเครื่องมือวิเคราะห์และวินิจฉัยทางการแพทย์ในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์การจำหน่ายเครื่องมือวินิจฉัยทางการแพทย์และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย PCL จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 410 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.05% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจ สินค้าอุปโภคบริโภค ภายในปี 2567 นี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนซื้อเครื่องมือวิเคราะห์โรคเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาด สำหรับธุรกิจผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ โดยลงทุนในเครื่องมือวิเคราะห์โรค ได้แก่ เครื่องมือวิเคราะห์โรคเบาหวาน/ไขมันในเลือด/กรดยูริค ฮอร์โมนไทรอยด์ สารบ่งชี้มะเร็ง เป็นต้น, ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน จำนวนไม่เกิน 700 ล้านบาท (Bridging Loan)
นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อลงทุนในศูนย์ตรวจสุขภาพ PCL Wellness & Longevity และลงทุนซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม โดยปรับปรุงห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (LAB) ของ PCT ที่ให้บริการกับลูกค้าทั่วไปให้เป็นศูนย์ตรวจสุขภาพ PCL Wellness & Longevity และลงทุนซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เช่น เครื่องเอกซเรย์ทั่วไประบบดิจิตอล (Digital General X-ray) เครื่องตรวจสแกนกระดูก (Bone Scan) เครื่องดิจิทัลแมมโมแกรม และอัตราซาวนด์เต้านม (Mammogram and Breast Ultrasound) เป็นต้น, พร้อมกันนี้ยังใช้เพื่อลงทุนซื้อเครื่องมือและเทคโนโลยีชั้นสูง ได้แก่ เครื่อง CTC (Circulating Tumor Cells) ใช้ตรวจหาเซลล์มะเร็ง และเครื่องตรวจระดับฮอร์โมนหรือวิตามิน ด้วยหลักการ HPLC เป็นต้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ PCL ประกอบกิจการ 3 ประเภทดังนี้ 1.ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรค และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 2.บริการรับตรวจวิเคราะห์โรคสำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และให้บริการตรวจสุขภาพสำหรับบุคคลทั่วไป และ 3.ผลิต พัฒนา และจัดจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กับเครื่องมือแพทย์ และให้บริการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์พร้อมบริการซ่อมแซมบำรุงรักษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และน้ำยาตรวจวิเคราะห์โรคต่างๆ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิต 36 ตราสินค้า ที่ผ่านการรับรองและมีใบอนุญาตนำเข้าจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อย.) เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการตรวจวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเครื่องมือแพทย์
ด้าน พิสิษฐ์ วรรณวิทยาภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCL เปิดเผยว่า เป้าหมายของการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ เพื่อสร้างการเติบโตและโอกาสในการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง นำพาองค์กรเดินไปข้างหน้าด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญมุ่งมั่นทุ่มเท และให้บริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ
“ด้วยจุดเด่นของ PCL ที่มีประสบการณ์มากถึง 30 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้พัฒนาระบบ Lab Automationและจัดหาเทคโนโลยีด้านการตรวจวิเคราะห์โรค โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์จากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ จำหน่ายให้กับโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก การบริการและระบบสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมของ P C L Holding อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพในหลาย ๆ ด้าน อาทิ ISO 9001, ISO 15189, ISO 27001 และการจัดการที่หลากหลาย นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังจัดจำหน่ายซอฟแวร์หรือโปรแกรมสำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจในสินค้าและบริการให้กับลูกค้า จึงทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” พิสิษฐ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2564 – 2566 เท่ากับ 3,858.98 ล้านบาท 2,859.05 ล้านบาท และ 2,280.73 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย