แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นางนรินธร อนุเคราะห์ธนาพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี และนายธีระพันธ์ เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แถลงยืนยันความรับผิดชอบ เตรียมวางแผนชำระหนี้ พร้อมขอโอกาสให้ได้ทำงาน เพื่อเร่งฟื้นฟูกิจการ ย้ำทำเต็มที่เพื่อเจ้าหนี้ได้รับเงินคืนอย่างยุติธรรม
แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจ JKN ว่า “บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดทำการมาแล้วมากกว่า 10 ปี โดย JKN ตระหนักดีว่า ธุรกิจสื่อและคอนเทนต์ทั่วโลก ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม มีการใช้สื่อออนไลน์และแอพพลิเคชั่นในการรับชมซีรีส์หรือภาพยนตร์มากขึ้นกว่าเดิม บริษัทฯจึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง และสร้างธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง จึงนำมาสู่การลงทุนในธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่าง Miss Universe Organization ที่สามารถสร้างรายได้ และกลายเป็นธุรกิจหลักของ JKN ซึ่งการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ที่ผ่านมา ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งในเรื่องเวที แสง สี เสียง และการจัดการประกวดที่สมบูรณ์แบบ ถ่ายทอดไปกว่า 160 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งได้เรทติ้งสูงสุดทางช่องเทเลมุนโด้ Roku และแพลตฟอร์มโซเชียล โดยมียอดผู้เข้าชมกว่า 1 พันล้านคน
ปัจจุบันกิจการหลักของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. การเป็นเจ้าขององค์กร Miss Universe Organization ที่มีอายุยาวนานกว่า 70 ปี โดยสามารถสร้างรายได้จากการต่อยอดธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์มิสยูนิเวิร์ส 2. Content Sales เจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหารายการประเภทซีรีส์ ภาพยนตร์ การ์ตูน สารคดี จากหลากหลายประเทศ เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ จีน ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ พร้อมด้วยการเป็นผู้จำหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจสถานีโทรทัศน์ทุกระบบ 3. การขาย Consumer Products ภายใต้ Anne’s Brand ผ่านช่องทาง JKN Hi-Shopping บนหน้าจอโทรทัศน์ และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 4. Media Sales การทำธุรกิจบนดิจิตอลทีวี โดยการร่วมมือกันผลิตรายการประเภทข่าวสาร สาระระหว่าง JKN 18 และ TOP NEWS เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18
นรินธร อนุเคราะห์ธนาพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กล่าวว่า “หลังจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยการระดมทุนด้วยการเพิ่มทุน การกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ และออกหุ้นกู้ ปัจจุบันมีมูลค่าหุ้นกู้กว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีการนำเงินจากหุ้นกู้มาเป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจรวมมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือนำมาเป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ แต่เมื่อลูกค้าของบริษัทฯมีการชำระเงินล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้บริษัทฯมีปัญหาการขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้ได้ตามกำหนด ทางที่ปรึกษาการเงินและที่ปรึกษากฎหมายจึงได้แนะนำให้บริษัทฯยื่นขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้บริษัทฯสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ระหว่างที่กำลังหาทางแก้ปัญหาหนี้สิน
นายธีระพันธ์ เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยถึงการเข้าแผนฟื้นฟูและการเดินหน้าของกิจการว่า “การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทจะช่วยให้บริษัทแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อการแก้ไขปัญหาของบริษัท และเพื่อสร้างผลกําไรจากการดําเนินกิจการต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง
โดยสาเหตุของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปดังนี้
1. แม้บริษัทยังไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ยังไม่อยู่ในฐานะล้มละลาย แต่การชำระหนี้ ของบริษัทอาจจะมีปัญหาและนำไปสู่การฟ้องร้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายทำให้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนของบริษัทเสื่อมค่า อันจะกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นของบริษัทในอนาคตอันใกล้ได้
2. เพื่อเป็นการคุ้มครองเจ้าหนี้ให้ได้รับชำระหนี้ตามแผน จึงจำเป็นต้องนำบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
3. บริษัทได้จัดเตรียมเอกสารข้อมูล รายนามเจ้าหนี้ และจำนวนหนี้ทุกประเภท เสนอ ต่อศาลและเจ้าหนี้ให้พิจารณาแต่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ แล้วเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566
4. บริษัทจะจัดทำแผนธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดสรรกระแสเงินสดในการชำระหนี้ โดยให้เจ้าหนี้และศาลพิจารณาอนุมัติ
5. บริษัทจะบริหารแผนธุรกิจตามแผนที่ผ่านการอนุมัติของที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว
6. เมื่อเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามแผนเรียบร้อย บริษัทก็จะออกจากแผนฯ แล้วดำเนินธุรกิจตามปกติอย่างมั่นคงต่อไป
“ สุดท้ายนี้ บริษัทฯมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการขอโอกาสในการแก้ปัญหาต่างๆให้สำเร็จลุล่วง และพร้อมยืนยันจะแก้ปัญหาเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับเงินคืนอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน” จักรพงษ์ กล่าว