นวัตกรรมแห่งชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ BYE BYE HIV ความหวังผู้ป่วยโรคเอดส์

183
ดร พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา

วันเอดส์โลก วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์ ซึ่งได้คร่าชีวิตของผู้ป่วยไปกว่า 40 ล้านคนแล้วทั่วโลก นับได้ว่าเป็นโรคที่มีความรุนแรงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้องค์การอนามัยโลกต้องหาทางรณรงค์เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคนี้ 

ข้อมูลจากศูนย์รวมข้อมูลสารสนเทศต้านเอชไอวีของประเทศไทย ประเมินสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 9,226 คน โดยกรุงเทพมหานครมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของประเทศ  สัดส่วนอายุของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 52% อยู่ที่ช่วงอายุ 25-49 ปี รองลงมา 33% อยู่ที่ช่วงอายุ 20-24 ปี และเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงอายุ 15-19 ปี หรือกลุ่มเยาวชนมีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 14%  ภายในปี พ.ศ. 2573 และพบว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเพิ่มขึ้นของการป่วยเป็นซิฟิลิสของกลุ่มเยาวชนเพิ่มสูงขึ้น ปี พ.ศ. 2555 จากจำนวน 4.6 คนต่อประชากรแสนคน เพิ่มเป็นจำนวน 59 คนต่อประชากรแสนคน ในปี พ.ศ. 2565 โดยเพศชายติดเชื้อรายใหม่ 81% เพศหญิงติดเชื้อรายใหม่ 19% แยกเป็นสาเหตุการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายมากที่สุดถึง 69% รองลองมาคือการติดเชื้อจากคู่ผลเลือดต่าง (คู่อยู่กิน/คู่ประจำ) 19% สำหรับกลุ่มประชากรผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย 56% รองลงมาคือ หญิงกลุ่มอื่น ๆ 18%และชายกลุ่มอื่น ๆ รวมถึงพนักงานบริการชายอยู่ที่กลุ่มละ 9% ส่วนพนักงานบริการหญิงและลูกค้าผู้ซื้อบริการทางเพศอยู่ที่กลุ่มละ 1% โดยผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่จำนวน 560,000 คน ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเนื่องจากเอดส์จำนวน 11,000 คน  

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) นักวิทยาศาสตร์ไทย หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM ได้ประกาศผลสำเร็จของนักวิจัยไทยจากการคิดค้นนวัตกรรมการสกัดพืชผักพื้นบ้านไทย 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และใบบัวบก เสริมฤทธิ์กันสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดีในระดับโครโมโซม เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้ สามารถเพิ่มเม็ดเลือดขาว CD4 , CD8 (Killer T Cell)  ช่วยลดการเสื่อมถอยของร่างกาย พร้อมกับลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเนื้อร้าย และเพิ่มภูมิคุ้มกันลดการติดเชื้อต่าง ๆ ไปพร้อมกันทำให้ร่างกายแข็งแรง ปัจจุบัน APCO สามารถนำนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดที่ทำการวิจัยมาอย่างต่อเนื่องมาใช้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี จนประสบความสำเร็จสามารถสร้างปรากฏการณ์ในการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นครั้งแรกของโลก จากการติดตามผลการใช้นวัตกรรมแห่งชาติไทยนี้ พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 50 รายตรวจไม่พบเชื้อ และคงสุขภาพที่แข็งแรงโดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ประสบความสำเร็จคือ “คุณดิน” ผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เคยป่วยเป็นเอดส์ระยะสุดท้าย ก่อนที่จะใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด APCO คุณดิน มี CD4 แค่ 4 cells/cu.mm. (CD4 ปกติ คือ 600 – 1,800) ,%CD4 เท่ากับ 0.70% (%CD4 ปกติ คือ 30 – 60%) มีจำนวนเชื้อเอชไอวีมากถึง 2,600,000 copies/ml หลังจากใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด APCO มาเพียง 7 เดือน ตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวี  

ปัจจุบัน คุณดิน BYE BYE HIV มาแล้ว 39 เดือน มี CD4 เท่ากับ 717 cells/cu.mm. , %CD4 เท่ากับ 30% และมีสุขภาพแข็งแรงต่อเนื่อง ปัจจุบันคุณดินทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา แนะนำผู้ป่วยโรคเอดส์ สามารถช่วยผู้อื่นให้ BYE BYE HIV ได้เช่นกัน ทำให้ชีวิตของคุณดินมีคุณค่าเพิ่มขึ้น

ประเด็นปัญหาที่ยังคงสร้างความกังวลใจให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ส่งผลกระทบทางสังคม คือการที่บุคคลอื่นมีทัศนคติเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์ รวมถึงการรณรงค์เพื่อยุติโรคเอดส์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสนับสนุนและช่วยกัน เพื่อลดการเลือกปฏิบัติ ยุติการตีตรา  สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในวงกว้าง  

เนื่องในวันเอดส์โลกในปีนี้ APCO จึงมุ่งมั่นสนับสนุนการสร้างพื้นที่ยืนในสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์ โดยให้มาเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอื่น ๆ ให้มีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ในโครงการ BYE BYE HIV จึงเป็นการสร้างงานและสนับสนุนตามคำขวัญวันเอดส์โลกปี 2023 คือCommunities make the difference : รวมพลังชุมชนยุติเอดส์

“คณะนักวิทยาศาสตร์ Operation BIM ของ APCO มีความตั้งใจและมุ่งมั่นจะพัฒนานวัตกรรมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสมดุลสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงอะไรให้กลับมามีสุขภาพดีและใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม และประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในเรื่อง “นวัตกรรมแห่งชาติไทยสู่นวัตกรรมโลก ภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืชกินได้” โดยขอย้ำให้ทุกท่านมีความมั่นใจในนวัตกรรม APCO และบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) ว่าเป็นองค์กรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินกิจการประสบความสำเร็จ มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีตามหลักวิชาการมาช้านาน จนเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของบริษัท” ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว