หนึ่งในเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในเมืองไทย คือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลายเป็นบริษัทมหาชนเพื่อระดมทุนนำบริษัทเติบโตไปข้างหน้า แต่การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้มีเพียงแค่การทำให้ธุรกิจที่มีอยู่มั่นคงแข็งแรงเท่านั้น หากแต่แผนการเติบโตจะต้องมีแนวทางในการขยาย มองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยทั้งการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ และยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนมากขึ้น จึงจะเป็นที่สนใจของนักลงทุน
บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผลิตสินค้า OEM อย่างน้ำมันหล่อลื่น จารบี ให้กับบริษัทรถยนต์ชั้นนำเกือบทุกแบรนด์ และยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ที่อยู่ตาม 2 ข้างทางบนท้องถนน แต่ความยิ่งใหญ่นี้สร้างรายได้ทั้งหมดจากรูปแบบการขาย B2B หรือระหว่างองค์กรกับองค์กร ซึ่งดำเนินมาถึง 30 ปี ก่อนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผ่านมาไม่ถึง 3 เดือน PSP ก็ต่อยอดการผลิตของโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ พร้อมทีมวิจัยที่แข็งแกร่ง เปิดตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เจาะตลาดใหม่อย่าง B2C ให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ที่จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิตจาก 3 ผลิตภัณฑ์นำร่อง
เสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์หลักที่บริษัทได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือการมองหาโอกาสในการต่อยอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายฐานลูกค้า โดยเน้นไปที่ตลาดที่มีโอกาสเติบโตและมีอัตราการทำกำไรสูง ซึ่ง 3ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย “PROTECH” น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ (PROTECH Multi-Purpose Oil) และอีก 2 ผลิตภัณฑ์จาก “MASTER” ได้แก่ สเปรย์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ (MASTER Air cleaner & Refresher Spray) และ สเปรย์ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ (MASTER Deodorizer Spray)
“การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด B2C และเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัท ทั้งนี้ทาง PSP มั่นใจว่า สินค้าทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ มีคุณภาพสูง ซึ่งพัฒนามาจากความพร้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาสูตรสินค้า รวมไปถึงความเชี่ยวชาญและศักยภาพของบริษัทที่มีนั้น จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน”
ด้าน ชาญชัย จันทรพิมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์และพัฒนาธุรกิจ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า PSP มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมามากกว่า 30 ปี มีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ จากโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการลงทุนด้านอุปกรณ์เครื่องมือระดับโลก รวมถึงความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง มีห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลครอบคลุมทั้งด้านการรับรองและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้า ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างความแตกต่างและได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำจากทั้งในและต่างประเทศตลอดมา การแตกไลน์ธุรกิจในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการนำจุดแข็งและศักยภาพดังกล่าวของบริษัทมาต่อยอดและพัฒนาออกมาเป็น 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ทาง PSP ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและค้นคว้าตลาด รวมไปถึงการลงทุนเพิ่มเติมสำหรับการวางแผนการตลาด ซึ่งทำให้มั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี อาทิ ตลาดสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการประกอบด้วย
ผลิตภัณฑ์ PROTECH น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ (PROTECH Multi-Purpose Oil) มีเทคโนโลยี Active Shield Molecules ช่วยหล่อลื่นและยึดเกาะผิวโลหะ ป้องกันสนิม ผลิตจากสารธรรมชาติที่ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่เป็นอันตรายเมื่อสัมผัสต่อผิวหนัง เหมาะกับการใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ของกลุ่มคนที่อ่อนไหว เช่น อุปกรณ์ของผู้ป่วยติดเตียง หรือของเล่นเด็ก โดยมีขนาด 400 มล. 200 มล. และ 80 มล.
ผลิตภัณฑ์ MASTER วางจุดขายด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความหอม สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารก่อมะเร็งและสาร CFC ซึ่ง MASTER มี 2 ผลิตภัณฑ์ที่วางขายในตลาด ประกอบด้วย
ผลิตภัณฑ์สเปรย์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศโดยไม่ต้องใช้น้ำ (MASTER Air Cleaner & Refresher Spray) มีจุดเด่นคือ มีนวัตกรรม Active Intelligent Molecules โมเลกุลอัจฉริยะที่คอยดักจับสิ่งสกปรกในแอร์ ให้เกาะไปกับน้ำพร้อมไหลลงสู่ท่อน้ำทิ้งแอร์ เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดค่าไฟ มีขนาด 500 มล. และ 250 มล.
ผลิตภัณฑ์สเปรย์ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ (MASTER Deodorizer Spray) พร้อมให้ความหอม สะอาด มีนวัตกรรม Nano Complex Formulation ที่ช่วยดักจับและขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลดการสะสมของเชื้อโรคได้ถึงระดับใยผ้า ให้กลิ่นหอม สะอาด สดชื่นในทุกโอกาส มีขนาด 300 มล. และ 80 มล. ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นั้น มี 2 กลิ่นได้แก่ กลิ่นซีบรีซ และกลิ่นดอกซากุระ
ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ครอบคลุมทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยสำหรับทางออฟไลน์นั้น ได้มอบหมายให้บริษัท บอร์เนียว เทคนิเคิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมืออุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่มีประสบการณ์ในประเทศไทยมากว่า 160 ปี มีระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่รองรับการขายและกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ มาเป็นพันธมิตรหลักในการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศได้ โดยจะมีการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดชั้นนำ อาทิ Big C, Villa Market, Mr.DIY ขณะที่ช่องทางออนไลน์ นอกเหนือจากการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของ PSP ยังมีการจำหน่ายผ่าน Shopee และ Lazada อีกด้วย
ด้านการสื่อสารการตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค PSP มีการใช้สื่อทั้งออนไลน์ Online TVC สื่อสารผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีการใช้ Influencer ชื่อดังจากหลายๆ วงการที่เกี่ยวข้องกับการใช้สินค้า ทั้งรถยนต์ ช่าง ไลฟ์สไตล์ กว่า 30 คน มาช่วยสื่อสารแบรนด์และตัวผลิตภัณฑ์ ขณะที่ช่องทางออนกราวน์ มีการใช้บิลบอร์ดในสถานีรถไฟฟ้าสีลม และการปล่อยคาราวานไรเดอร์ไปทั่วเมือง เพื่อให้แบรนด์สื่อสารไปถึงผู้บริโภคให้กว้างที่สุด
ชาญชัย กล่าวว่า สำหรับตลาด B2B ที่เป็นตลาดเดิมของบริษัท กลุ่มน้ำมันหล่อลื่น จารบี ก็ยังมีแนวโน้มเติบโต แม้ตลาดรถยนต์จะมีการขยับเข้าสู่ตลาดรถ EV ก็ยังจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ อย่างไรก็ตามแนวโน้มโครงสร้างรายได้ของบริษัท ก็จะมีการปรับส่วนของ B2B จากเกือบทั้งหมดลงเหลือ 70% ขณะที่อีก 30% จะมาจากสินค้าอื่นๆ ส่วนถึงกลุ่มสินค้า B2C ที่เปิดตัวนี้ โดยนอกเหนือจากตลาดในประเทศที่จะเริ่มจำหน่ายในปลายปีนี้ ก็จะมีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนต่อไปในอนาคตด้วย