เอไอเอ เติบโตในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35

812
หลี่ หยวน ชยอง

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) ยินดีที่จะประกาศดัชนีชี้วัดความสำเร็จของธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566

สรุปมาตรวัดทางการเงินที่สำคัญ

อัตราการเติบโตจัดทำโดยอัตราแลกเปลี่ยนคงที่

  • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้นร้อยละ 35 มีมูลค่าอยู่ที่ 994 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3
  • ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อาเซียน และอินเดีย มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นตัวเลขสองหลัก
  • เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 มีมูลค่า 1,938 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ แข็งแกร่งอยู่ที่ร้อยละ 51.2 เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2566
 หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น3 เดือน สิ้นสุด ณ 30 กันยายน9 เดือน สิ้นสุด ณ 30 กันยายน
พ.ศ.2566พ.ศ.2565เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ
ปีก่อน 
(อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(อัตราแลกเปลี่ยนตามจริง)พ.ศ.2566พ.ศ.2565เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ
ปีก่อน 
(อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(อัตราแลกเปลี่ยนตามจริง)
มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB)99474135%34%3,0232,27736%33%
อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin)51.2%58.1%(7.0) จุด(6.9)จุด50.9%56.1%(5.3) จุด(5.2)จุด
เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP)1,9381,27154%52%5,9224,04951%46%

หลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ความแข็งแกร่งและการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจในกลุ่มเอไอเอ ส่งมอบผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมในส่วนของมูลค่าธุรกิจใหม่อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับมูลค่าธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3ของกลุ่มบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในผลิตภัณฑ์และบริการของเราหลังจากผ่านช่วงวิกฤตโรคระบาด เราได้สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างมากในครึ่งปีแรกด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก โดยส่วนธุรกิจหลักที่เติบโตมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อาเซียน และอินเดีย ซึ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 35

“เราได้ทำการมุ่งเน้นดำเนินงามตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยยกระดับความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับเอไอเอ ซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนให้มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตอย่างยอดเยี่ยมในไตรมาสที่ 3โดยมาจากทั้งช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจของเรา โปรแกรมสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพภายในกลุ่มบริษัท ได้สร้างความแตกต่างให้กับพรีเมียร์ เอเจนซี่ และได้ช่วยให้เกิดการเติบโตไตรมาสต่อไตรมาสสำหรับการสรรหาตัวแทนรายใหม่ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นปีต่อปีของจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงาน อีกทั้งช่องทางพันธมิตรธุรกิจของเรายังได้สร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่จากแต่ละส่วนธุรกิจที่มีการรายงาน

“ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผมยินดีอย่างยิ่งที่เราได้รับการอนุมัติจากหน่วยการกำกับดูแลให้อัพเกรดใบอนุญาตฉือเจียจวงของเราให้ครอบคลุมทั่วทั้งมณฑลเหอเป่ย

“เอไอเอ อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านความคุ้มครองและโซลูชันด้านการออมระยะยาว ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้คนหลายล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกับส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของเราทุกฝ่าย”

บทสรุปไตรมาสที่ 3

เอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 คิดเป็นมูลค่า 994 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 โดยมีผลมาจากการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากทุกช่องทางการขาย ช่องทางตัวแทนอันเป็นเอกสิทธ์ของเรามีมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ในขณะที่ช่องทางพันธมิตรธุรกิจเติบโตขึ้นร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ขยายเป็นวงกว้างโดยเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักจากการดำเนินงานในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อาเซียน และอินเดีย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบแบบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 3,023 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าผลประกอบการรวมทั้งปี 2565 เมื่อพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่

เอไอเอ ประเทศจีน สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตมากกว่าร้อยละ 20 ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากครึ่งปีแรก อันเป็นผลต่อเนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีนแผ่นดินใหญ่หลังสถานการณ์โรคระบาด ในขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการออมทรัพย์ระยะยาวยังคงมีมากอย่างต่อเนื่อง เรายังได้สร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่จากผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรงในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 อย่างดีเยี่ยมในอัตราเลขสองหลัก ตัวแทนคุณภาพสูงที่ได้สร้างความแตกต่างให้กับพรีเมียร์ เอเจนซี่ของเรานั้น ยังคงเป็นความมุ่งเน้นหลักและเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ ส่วนในช่องทางพันธมิตรด้านประกันผ่านธนาคารนั้น มีการผสมผสานระหว่างการเติบโตที่แข็งแกร่งแบบไตรมาสต่อไตรมาสและอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่จากช่องทางตัวแทนโดยรวมยังคงที่เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่โดยรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 โดยได้รับแรงหนุนจากแบบประกันการคุ้มครองแบบดั้งเดิม การปรับเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นของแบบประกันออมทรัพย์ระยะยาว และการปรับราคาผลิตภัณฑ์

ตัวแทนในพรีเมียร์ เอเจนซี่ของเอไอเอ ประเทศจีน ได้สร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ยอดเยี่ยมทั้งในหน่วยงานที่มีอยู่ และในภูมิภาคใหม่ โดยมีผลมาจากจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานซึ่งมีเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงศักยภาพที่สูงขึ้นของตัวแทน โดยภูมิภาคใหม่ของจีนได้สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่มากกว่าร้อยละ 5 ของมูลค่าธุรกิจใหม่จากตัวแทนในไตรมาสที่ 3 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวสาขาใหม่ที่มณฑลเหอหนานในเดือนพฤษภาคมอย่างเป็นผลสำเร็จ

การสรรหาบุคลากรตัวแทนยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องโดยการรับตัวแทนใหม่มีการเติบโตในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบแบบปีต่อปี ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของจำนวนตัวแทนทั้งหมดในไตรมาสที่ 3 โปรแกรมพัฒนาศักยภาพตัวแทนฉบับปรับปรุงใหม่มีส่วนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวแทนสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยของตัวแทนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เป็นระดับเดียวกับก่อนสถานการณ์โรคระบาด

เรายังคงเดินหน้าด้วยดีกับการขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของเอไอเอ ประเทศจีน อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รับการอนุมัติให้อัพเกรดใบอนุญาตฉือเจียจวงให้ครอบคลุมมณฑลเหอเป่ยทั้งหมด

เอไอเอ ฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าธุรกิจใหม่อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 แม้ว่าธุรกิจในประเทศได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยอดขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าธุรกิจใหม่ของเอไอเอ ฮ่องกง ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปี 2566 แรงผลักดันในการสรรหาบุคลากรตัวแทนในพรีเมียร์ เอเจนซี่ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนโดยรวมนั้นสูงกว่าในช่วงเวลาก่อนสถานการณ์โรคระบาด สำหรับช่องทางพันธมิตรธุรกิจนั้น มีการเติบโตอย่างดีเยี่ยมจากทั้งพันธมิตรธนาคารและช่องทางของที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (IFAs)

เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในครึ่งปีแรกอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่โดดเด่นในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ตลอดจนจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานและผลผลิตของตัวแทนได้เพิ่มสูงขึ้นในอัตราเลขสองหลัก นอกจากนี้เรายังเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนตัวแทนรายใหม่ ส่วนธุรกิจในสิงคโปร์และมาเลเซียนั้น มีรายงานว่ามูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากช่องทางการขายทั้งตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจของเรา

ตามที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเชิงลบยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิตในเวียดนาม หากไม่รวมเวียดนาม ตลาดอื่น ๆ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มีตัวเลขสองหลักอย่างแข็งแกร่งจากทั้งสองธุรกิจของเราในอินเดีย ซึ่งเป็นผู้สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัทเอไอเอได้มากที่สุดในกลุ่มตลาดนี้รวมถึงฟิลิปปินส์ สำหรับ Tata AIA Life ในอินเดียมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากตัวแทนอันเป็นเอกสิทธ์ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทประกันชีวิตเอกชนรายใหญ่อันดับสามในอินเดีย โดยรวมแล้ว ธุรกิจในอาเซียนของเรามีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นเลขสองหลัก

โดยภาพรวม เบี้ยประกันภัยรับปีแรกสำหรับกลุ่มบริษัทเอไอเอเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เป็น 1,938 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตรากำไรจากมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.2 จากไตรมาสแรกของปี 2566 ตามแนวปฏิบัติของบริษัท สมมติฐานผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าธุรกิจใหม่ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากที่แสดงในรายงานประจำปี 2565 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 อัตรากำไรขั้นต้นที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงทรงตัวที่ร้อยละ 10 ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ9 เป็น 9,355 ล้านเหรียญสหรัฐ

สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวของเอไอเอเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญและความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก โดยได้รับการสนับสนุนจากการจัดการพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของเรา และแนวทางการลงทุนที่พิจารณาจากภาระหนี้สินประกันภัยเป็นสำคัญ

แนวโน้มอนาคต

โอกาสในระยะยาวสำหรับธุรกิจของเอไอเอนั้นยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากเรามีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมาก การกระจายความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และตัวขับเคลื่อนการเติบโตเชิงโครงสร้างที่ทรงพลังสำหรับการประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชีย การเพิ่มขึ้นของรายได้ การแทรกแซงจากบริษัทประกันเอกชนอยู่ในระดับต่ำ และการคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัด ยังคงขับเคลื่อนความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเอไอเอในตลาดของเรา

เรามั่นใจว่าการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เอไอเอสามารถคว้าโอกาสระยะยาวมหาศาลในตลาดประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชีย และสามารถส่งมอบมูลค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายของเราต่อไป

ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่ในสกุลเงินท้องถิ่นและเราจับคู่สินทรัพย์และหนี้สินของเราอย่างใกล้ชิดเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เมื่อรายงานตัวเลขรวมของกลุ่มบริษัท จะมีผลการแปลงสกุลเงินเมื่อเรารายงานเป็นเหรียญสหรัฐ เราได้รายงานอัตราการเติบโตและใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เนื่องจากข้อมูลนี้ให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของธุรกิจ

หมายเหตุ:

  1. ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของเอไอเอปี 2566 และปี 2565  สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 และวันที่ 30 กันยายน 2565 ตามลำดับ 
  2. ตัวเลขทั้งหมดแสดงในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามจริงในรอบปี (AER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงที่แสดงโดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนคงที่คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เฉลี่ยสำหรับปี 2566 และ 2565
  3. สมมติฐานผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวที่ใช้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (EV) สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 จะเหมือนกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่แสดงในข้อมูลมูลค่าเพิ่มเติมในรายงานประจำปี 2565 ของเรา สมมติฐานที่ไม่ใช่ทางเศรษฐกิจที่ใช้มูลค่าพื้นฐานของกิจการ อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อสะท้อนถึงมุมมองล่าสุดของเอไอเอเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คาดหวังในอนาคต
  4. มูลค่าธุรกิจใหม่คำนวณตามสมมติฐาน ณ จุดขาย

มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอไม่รวมมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

  1. มูลค่าธุรกิจใหม่รวมถึงธุรกิจบำนาญ อัตรากำไรของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกและมูลค่าธุรกิจใหม่ไม่รวมธุรกิจบำนาญและอยู่ก่อนหักส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม
  2. เบี้ยประกันภัยรับปีแรกคิดเป็นร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยปีแรกแบบรายปี และร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว ก่อนที่จะมีการประกันภัยต่อและไม่รวมธุรกิจบำนาญ
  3. เบี้ยประกันภัยรับรวมประกอบด้วยเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุร้อยละ 100 เบี้ยประกันภัยปีแรกร้อยละ 100 และเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียวร้อยละ 10 ก่อนจะมีการประกันภัยต่อ
  4. ในบริบทของส่วนธุรกิจที่มีการรายงานของเรา ฮ่องกง หมายถึงการดำเนินงานในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (SAR) และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สิงคโปร์ หมายถึงการดำเนินงานในสิงคโปร์และบรูไน และตลาดอื่นๆ หมายถึงการดำเนินงานในออสเตรเลีย กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ไต้หวัน (จีน) และเวียดนาม การดำเนินงานที่จัดตั้งขึ้นของเราในจีนแผ่นดินใหญ่หมายถึงสาขาของเราในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น กวางตุ้ง และมณฑลเจียงซู ภูมิศาสตร์ใหม่ของเราในจีนแผ่นดินใหญ่ หมายถึงการดำเนินงานของเราในเทียนจิน ฉือเจียจวง เสฉวน หูเป่ย และเหอหนาน

อาเซียน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมายถึงการดำเนินงานในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

  1. เบี้ยประกันภัยรับปีแรก และมูลค่าธุรกิจใหม่ สำหรับตลาดอื่น ๆ รวมผลการดำเนินงานจากการถือหุ้นร้อยละ 49 ของเราในบริษัท ทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต จำกัด (Tata AIA Life) เบี้ยประกับภัยรับปีแรกและมูลค่าธุรกิจใหม่ ไม่รวมเงินสมทบจากการถือหุ้นร้อยละ 24.99 ของเราในบริษัทประกันชีวิต ไชน่า โพสต์ (China Post Life Insurance Co., Ltd.) เพื่อความชัดเจน เบี้ยประกันภัยรับรวม ไม่ได้รวมการสนับสนุนใด ๆ จาก Tata AIA Life และ China Post Life
  2. ผลการดำเนินงานของ Tata AIA Life ได้รับการบันทึกโดยใช้งวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ในผลประกอบการรวมของเอไอเอ สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 และไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ตามลำดับ
  3. Tata AIA Life ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทประกันชีวิตส่วนบุคคลรายใหญ่อันดับสามในอินเดียในช่วงระยะเวลา 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยพิจารณาจากเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ที่เทียบกับเบี้ยประกันภัยรายบุคคล