อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ยังคงช่วยสนับสนุนธุรกิจไทยเพิ่มโอกาสทางการขายผ่านอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศให้ได้มากที่สุดในปี 2565 ยอดขายโดยเฉลี่ยของผู้ขายไทยเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่กันยายน 2563 ถึงสิงหาคม 2564
งานประชุม Amazon Global Selling Thailand Seller Conference ในรูปแบบสัมมนาออนไลน์ของ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ผ่านไปด้วยความสำเร็จ โดยมี SME ไทยกว่า 5,000 รายให้ความสนใจและเข้าร่วมงาน งานประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บรรดาธุรกิจไทยได้รับข้อมูล ทักษะ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นในการคว้าโอกาสในธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศที่กำลังขยายตัว รวมถึงยกระดับธุรกิจของตนให้ก้าวไปสู่ระดับโลก ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นทางธุรกิจมากขึ้น ในช่วงระหว่างงานสัมมนา อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ยังได้กล่าวถึงศักยภาพโดยรวมของผู้ขายไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 จนถึงเดือนสิงหาคม 2564 โดยยอดขายเฉลี่ยของ SME ไทยเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ และผู้ขายไทยที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือกว่า 34 ล้านบาท) นั้นมีอัตราเติบโตประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกรอบเวลาเดียวกันปีต่อปี
การประชุมของ Amazon Global Selling Thailand Seller Conference ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Department of International Trade Promotion: DITP) กระทรวงพาณิชย์ พันธมิตรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญ ๆ ไปจนถึงผู้ขายไทยในปัจจุบันของ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งและผู้ที่สนใจที่จะร่วมเป็นผู้ขายในอนาคต ในระหว่างการประชุม อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับโอกาสต่าง ๆ ที่กำลังเป็นกระแส และอาจเป็นไปได้ในช่วงปี 2565 ตลอดจนกลยุทธ์ในการให้การสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจไปสู่ระดับโลกได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากร้านค้าของอเมซอนที่มีเครือข่ายทั่วโลก นอกจากนี้ อเมซอนยังคงร่วมมือและหารือกับ DITP อย่างใกล้ชิดในการช่วยให้ธุรกิจไทยฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด–19 ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานเปิดงานกล่าวว่า “ปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ที่ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยมีการเติบโตได้สูงอย่างมากในปีนี้ ก็คือ การที่กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้การค้าออนไลน์เป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญในการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์กับผู้ซื้อต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า Online Business Matching และการสนับสนุนการขายสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสามารถสร้างยอดขายรวมกันได้มากกว่า 20,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา รวมทั้งการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของโลกได้ เช่น Amazon.com เป็นต้น ซึ่งนับตั้งแต่งานในครั้งที่แล้ว พบว่ามีผู้ประกอบการไทยสามารถขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Amazon.com ได้แล้วถึงกว่า 7 ล้านชิ้น คิดเป็นตัวเลขเฉลี่ยนาทีละ 14 ชิ้น และคาดว่าเกิดมูลค่าการซื้อขายรวมกันกว่า 260 ล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อนหน้านี้ถึงกว่า 30% จึงถือได้ว่า Amazon.com เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถช่วยขยายการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจาะเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน สําหรับงานในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวงพาณิชย์ และบริษัท อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย จะได้สานต่อความร่วมมือในการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้ามาร่วมรับฟังกว่า 5,000 ราย ให้สามารถส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลกได้”
SME ไทยมีศักยภาพในการก้าวไปสู่ระดับโลกเป็นอย่างยิ่ง
กระแสอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศนั้นเรียกได้ว่ากำลังเฟื่องฟู เนื่องด้วยยอดขายของธุรกิจค้าปลีกยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่จริงแล้ว มีการคาดการณ์ว่าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศนั้นจะเติบโตอยู่ที่ 2.3 เท่า1ของอัตราอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในอีก 5 ปีข้างหน้า และยังกลายเป็นโอกาสของผู้ขายที่กำลังเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศอย่างเช่น ประเทศไทย โดยเป็นโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าใหม่ทั่วโลก
คุณเจมี่ เบรนแนน Head of Amazon Global Selling team Thailand กล่าวว่า “งานประชุม Thailand Seller Conference มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ขายได้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับปีใหม่นี้ เราต้องการช่วยให้ผู้ขายสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป บรรเทาผลกระทบจากโรคโควิด-19 และเพื่อนำเสนอสินค้าไทยคุณภาพสูงแก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านทางงานประชุมนี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้ผู้ขายไทยเติบโตและยังช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาก้าวไกลระดับโลก และนอกจากนี้ เรายังต้องการให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อเร่งให้เจ้าของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว โดยทางทีมได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงหลากหลายสมาคมทางภาคอุตสาหกรรม”
“ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ดีไปกว่าการใช้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เป็นจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจของคุณได้เท่ากับตอนนี้อีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขยายธุรกิจไปสู่ระดับโลก” คุณเจมี่ กล่าวเสริม
ความพยายามในการผลักดันสนับสนุนผู้ขายไทยอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ขายที่อยู่บนอเมซอนอยู่ประมาณสองล้านรายทั่วโลก และสินค้าจากผู้ขายนั้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของสินค้าทั้งหมดที่ขายในร้านค้าบนอเมซอน ผู้ขายสามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับโลกของอเมซอน เพื่อช่วยให้ธุรกิจของตนเพิ่มยอดขายได้สูงสุด ในปี 2563 อเมซอนได้เพิ่มพื้นที่บริการคลังสินค้าและเครือข่ายโลจิสติกส์ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยเปิดสถานีจัดส่งสินค้า และศูนย์จัดการสินค้าใหม่หลายสิบแห่งทั่วโลก ท่ามกลางหลากหลายโอกาสที่เพิ่มสูงขึ้น ในระยะเริ่มต้น อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศมาพร้อมกับความท้าทายต่าง ๆ อาทิ อุปสรรคด้านภาษา ผลิตภัณฑ์ และการมีเงินทุนที่เพียงพอ นอกจากนี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งยังพยายามช่วยเหลือผู้ขายไทยในการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจอีกด้วย ในปี 2565 ทีมอเมซอน โกลบอล เซลลิ่งในประเทศไทยจะยังคงสนับสนุนผู้ขายไทยด้วยทรัพยากรจากทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนในความร่วมมือควบคู่ไปกับหน่วยงานของภาครัฐ หอการค้า รวมถึงองค์กรหรือบุคคลที่สามอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวประกอบไปด้วย
- การลดอุปสรรคด้านภาษาด้วยทีมงาน อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญ และ Seller Central ที่พัฒนาปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสำหรับประเทศไทยแล้ว เพื่อให้ผู้ขายไทยสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะเป็นการใช้แดชบอร์ด ตั้งค่ารายการสินค้า ติดตามการขาย ตลอดจนจัดการสินค้าคงคลังทั้งหมดได้ในรูปแบบภาษาไทย
- ช่วยผู้ขายเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ผ่านเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทั่วโลกเพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก และช่วยให้ผู้ขายสามารถพัฒนา เปิดตัว และขายสินค้าบนอเมซอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ – ทีมอเมซอน โกลบอล เซลลิ่งในประเทศไทยทำงานร่วมกับหลายองค์กร เช่น DITP เพื่อให้การสนับสนุนผู้ขายที่เป็นผู้ประกอบการมากขึ้น นอกจากนี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งยังทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการ (Service Provider Network) ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถค้นหาผู้ให้บริการที่เหมาะสมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านกฎหมาย โลจิสติกส์ ศุลกากร หรือการตลาด
การประชุมในวันนี้สะท้อนถึงความพยายามและความมุ่งมั่นของอเมซอนโกลบอลเซลลิ่งที่จะช่วยผู้ขายไทยได้นำเสนอสินค้าและแบรนด์ที่ “เมดอินไทยแลนด์ (Made–in–Thailand)” สู่ผู้บริโภคทั่วโลกผ่านอเมซอน โดยที่อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งเล็งเห็นโอกาสสำหรับธุรกิจไทยมากยิ่งขึ้นในการขยายเส้นทางอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศไปสู่ร้านค้าบนอเมซอนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และประเทศในสหภาพยุโรป
อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนผู้ขายไทยและเชื่อว่าบรรดาธุรกิจ SME ไทยเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการที่อเมซอนได้ให้การสนับสนุนแก่ผู้ขายไทย อเมซอนจึงได้ประกาศจัดงานมอบรางวัล Amazon Global Selling Seller Awards เป็นครั้งแรกในประเทศไทยใน Amazon Global Selling Thailand Seller Conference โดยการมอบรางวัลครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเชิดชูความพยายามของธุรกิจและผู้ขายไทยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนการขายของประเทศไทยบนอเมซอน ส่งเสริมให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นธุรกิจของตนเองบนเส้นทางอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น