ยา Evusheld ของแอสตร้าเซนเนก้าได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ในสหรัฐ

289

Evusheld ของ แอสตร้าเซนเนก้า (ซึ่งคือแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab) ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody – LAAB) แบบผสมได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะมียาโดสแรกพร้อมใช้ในเร็วๆ นี้

องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ขี้นทะเบียน Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ใหญ่และกลุ่มวัยรุ่น (ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัม) ซึ่งเป็นผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันบกพร่องปานกลางถึงรุนแรง เนื่องมาจากการรักษาทางการแพทย์ หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ที่อาจมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ไม่เพียงพอ รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ผู้ที่ได้รับยานี้ต้องไม่เป็นผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2

นายแพทย์ไมรอน เจ เลอวิน ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์และอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา และหัวหน้าทีมผู้วิจัยการทดลอง PROVENT กล่าวว่า “ประชากรหลายล้านคนทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกยังมีความเสี่ยงสูงต่อการติดโรคโควิด-19 เพราะระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขามีการตอบสนองที่ไม่ดีพอแม้จะได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ผมมีความยินดีที่จะได้แนะนำผู้ป่วยให้ใช้ Evusheld  ยาทางเลือกใหม่ที่ใช้งานง่ายและสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ในระยะยาว และช่วยให้พวกเขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง”

เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำที่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่ง Evusheld ยาแอนติบอดีชนิดแรกของโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันอาการป่วยจากโควิด-19  ก่อนการสัมผัสเชื้อ ซึ่งสามารถป้องกันในระยะยาวได้จากการใช้งานเพียงโดสเดียว Evusheld สามารถลบล้างเชื้อ  SARs-CoV-2 สายพันธุ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันได้ และเรากำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแสดงประสิทธิผลของยานี้ในการต่อสู้กับเชื้อสายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอน แอสตร้าเซนเนก้าขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิก คณะผู้วิจัย นักวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานของแอสตร้าเซนเนก้าทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา Evusheld ได้สำเร็จ”

นายแพทย์ไบรอัน คอฟฟ์แมน (เกษียณอายุแล้ว) ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต ผู้ร่วมก่อตั้ง รองประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งสมาคมมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง CLL (Chronic Lymphocytic Leukemia)  สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “หนึ่งในคำถามแรกๆ ที่คนไข้มักจะถามผมก็คือ ‘พวกเขาจะได้กอดหลาน ๆ อีกเมื่อไหร่’ ในฐานะแพทย์และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง ในวันนี้ผมรู้สึกมีความหวังมากเพราะทราบว่าจะมี Evusheld ยาทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อาจพึ่งพาแค่วัคซีนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้พวกเขาได้รับการป้องกันได้อย่างเพียงพอ”

 เจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การอนุมัติขึ้นทะเบียนยา  Evusheld ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของโลก เราน้อมรับข่าวดีนี้และโอกาสในการช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงด้วยยาชนิดดังกล่าว โดยเราได้เริ่มประสานงานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในประเทศไทย เพื่อรายงานความคืบหน้าและนำส่งข้อมูลงานวิจัยล่าสุดแล้ว”

ยา Evusheld เป็นการผสมกันระหว่างโมโนโคลนอลแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว 2 ชนิด และเป็นยาแอนติบอดีเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกาสำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 และเป็นยาแอนติบอดีที่ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงหนึ่งโดส (ปริมาณตัวยา tixagevimab  และ  cilgavimab อย่างละ 150 มิลลิกรัม)

 ประชากรทั่วโลกประมาณ 2% มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลดลง1,2 มีประชากรชาวอเมริกันประมาณ 7 ล้านคนเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากการใช้ยา Evusheld สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 1,3,4  อาทิ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด ผู้ป่วยโรคมะเร็งอื่น ๆ ที่ได้รับเคมีบำบัด ผู้ป่วยที่ใช้ยาหลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์5-9

ข้อมูลสนับสนุนเบื้องต้นสำหรับการขึ้นทะเบียนยา Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน มาจากการศึกษา พรูฟเวนท์ (PROVENT) ระยะที่ 3 สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ซึ่งแสดงผลอย่างชัดเจนในการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคโควิด-19 แบบมีอาการในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลองที่ได้รับยานี้ (77% จากการวิเคราะห์เบื้องต้น และ 83% จากการวิเคราะห์ค่ามัธยฐานที่ระยะเวลา 6 เดือน) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo)  พร้อมด้วยระดับประสิทธิภาพการป้องกันที่มียาวนานอย่างน้อย 6 เดือน นอกจากนี้ข้อมูลจากการศึกษา STORM CHASER ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการศึกษาหลังการสัมผัสเชื้อ และการศึกษา Evusheld ระยะที่ 1 ยังสนับสนุนการขึ้นทะเบียนยา Evusheld เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน  จากภายใต้การศึกษาต่างๆของยา Evusheld นั้นพบว่าผลข้างเคียงของยาเป็นที่ยอมรับได้ดี

Evusheld และไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ต่างๆ

ขณะนี้เรากำลังเร่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Evusheld ในการป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน  (B.1.1.529) 10,11  โดยจากการทดลองใช้ยา Evusheld จนถึงปัจจุบัน ในการทดสอบบริเวณการจับแทนที่ของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ยังไม่พบการหลีกหนีการลบล้างจากฤทธิ์ยา Evusheld10,11  ผลจากการทดสอบในหลอดทดลองพบว่า ยา Evusheld มีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลต้าและมิว10

ยา Evusheld ที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึงเงินทุนจากหน่วยงานด้านสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ  ภายใต้การกำกับดูแลของ Office of the Assistant Secretary for Preparedness and Response และ Biomedical Advanced Research and Development Authority ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม และ Joint Program Executive Office for Chemical, Biological, Radiological and Nuclear Defense ภายใต้สัญญาหมายเลข W911QY-21-9-0001

แอสตร้าเซนเนก้าได้ตกลงจะจัดหายา Evusheld จำนวน 700,000 โดส ให้แก่รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา โดยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการร่วมกับรัฐต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวยาดังกล่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แอสตร้าเซนเนก้ากำลังดำเนินการยื่นเอกสารต่อหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก เพื่อขออนุมัติขึ้นทะเบียนยา Evusheld ให้ใช้งานในภาวะฉุกเฉิน หรือขออนุมัติยา Evusheld แบบมีเงื่อนไข เพื่อใช้ป้องกันและรักษาโรคโควิด-19

หมายเหตุ

Evusheld

Evusheld เดิมชื่อ AZD7442 คือ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody – LAAB) ที่ผสมยา LAAB สองชนิด ได้แก่ tixagevimab (AZD8895) และ cilgavimab (AZD1061) ซึ่งมาจากบีเซลล์ที่ได้รับการบริจาคจากผู้ที่เคยป่วยจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งถูกค้นพบโดยศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิวท์ และได้อนุญาตให้แอสตร้าเซนเนก้านำมาพัฒนาต่อเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 โมโนโคลนอลแอนติบอดีของมนุษย์ 2 ตัวนี้จะมีความจำเพาะที่ต่างกัน เพื่อจับกับโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ SARS-CoV-2 ในคนละจุด13 และถูกพัฒนาต่อโดยแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อขยายระยะเวลาครึ่งชีวิต(half-life) เพื่อเพิ่มความยืนยาวของแอนติบอดี้ และปรับให้มีการจับกันของ Fc Receptor และ Complement ชนิด C1q ที่ลดลง โดยการขยาย  half-life นั้น สามารถเพิ่มความยืนยาวของแอนติบอดี้ได้มากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับแอนติบอดี้ทั่วไป ซึ่งอาจป้องกันโรคโควิด-19 ได้ยาวนานถึง 12 เดือน จากการใช้ยาเพียงหนึ่งครั้ง14-16 จากข้อมูลของการทดลองในระยะที่ 1 แสดงให้เห็นว่าระดับของแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งการเพิ่มจํานวนของไวรัส (neutralizing antibody) คงอยู่ได้เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน17 และการปรับให้มีการจับของ Fc Receptor ที่ลดลงนั้นสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะ antibody-dependent enhancement (ADE) ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่แอนติบอดี้ของเชื้อไวรัสเข้าไปกระตุ้นแทนที่จะยับยั้งการติดเชื้อ18 Evusheld เป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ซึ่งมีปริมาณตัวยา tixagevimab  และ cilgavimab อย่างละ 150 มิลลิกรัม และใช้เป็นจำนวน 2 เข็มแยกกันโดยฉีดต่อเนื่องกัน

อ้างอิง

  1. Oliver, S MD. Data and clinical considerations for additional doses in immunocompromised people. ACIP Meeting July 22, 2021. Available at: https://www.cdc.gov/vaccines/acip/meetings/downloads/slides-2021-07/07-COVID-Oliver-508.pdf. [Last accessed: December 2021].
  2. AstraZeneca data on file.
  3. Taken as percentage of U.S Population: 328.2m (2019).
  4. CDC: Lower range: adult pneumococcal vaccine (~25% ), mid range: flu (~48%), upper range: COVID vaccine (~70%).
  5. Centers for Disease Control and Prevention. Altered Immunocompetence. General Best Practice Guideline for Immunization: Best Practices Guidance of the Advisory Committee on Immunization Practices. [Online]. Available at: https://www.cdc.gov/vaccines/hcp/acip-recs/general-recs/immunocompetence.html. [Last accessed: December 2021].
  6. Boyarsky BJ, et al. Immunogenicity of a Single Dose of SARS-CoV-2 Messenger RNA Vaccine in Solid Organ Transplant Recipients. JAMA.2021; 325 (17):1784-1786.
  7. Rabinowich L, et al. Low immunogenicity to SARS-CoV-2 vaccination among liver transplant recipients, Journal of Hepatology(2021). doi:https://doi.org/10.1016/ j.jhep.2021.04.020.
  8. Deepak P, et al. Glucocorticoids and B Cell Depleting Agents Substantially Impair Immunogenicity of mRNA Vaccines to SARS-CoV-2. medRxiv [Preprint]. 2021 Apr 9:2021.04.05.21254656. doi: 10.1101/2021.04.05.21254656. PMID: 33851176; PMCID: PMC8043473.
  9. Simon D, et al. SARS-CoV-2 vaccination responses in untreated, conventionally treated and anticytokine-treated patients with immune-mediated inflammatory diseases. Ann Rheum Dis. 2021 May 6: annrheumdis-2021-220461. doi: 10.1136/annrheumdis-2021-220461. Epub ahead of print. PMID: 33958324.
  10. ACTIV. National Center for Advancing Translational Sciences Open Data Portal. SARS-CoV-2 Variants & Therapeutics, All Variants Reported in vitro Therapeutic Activity. Available at: https://opendata.ncats.nih.gov/variant/activity. [Last accessed: December 2021].
  11. Bloom Labs. Available from:

https://twitter.com/jbloom_lab/status/1464005705891868702/photo/1 [Last accessed December 2021].

  1. AstraZeneca data on file.
  2. Dong J, et al. Genetic and structural basis for recognition of SARS-CoV-2 spike protein by a two-antibody cocktail. bioRxiv. 2021; doi: 10.1101/2021.01.27.428529.
  3. Robbie GJ, et al. A novel investigational Fc-modified humanized monoclonal antibody, motavizumab-YTE, has an extended half-life in healthy adults. Antimicrob Agents Chemother. 2013; 57 (12): 6147-53.
  4. Griffin MP, et al. Safety, tolerability, and pharmacokinetics of MEDI8897, the respiratory syncytial virus prefusion F-targeting monoclonal antibody with an extended half-life, in healthy adults. Antimicrob Agents Chemother. 2017; 61(3): e01714-16.
  5. Domachowske JB, et al. Safety, tolerability and pharmacokinetics of MEDI8897, an extended half-life single-dose respiratory syncytial virus prefusion F-targeting monoclonal antibody administered as a single dose to healthy preterm infants. Pediatr Infect Dis J. 2018; 37(9): 886-892.
  6. AstraZeneca news release. New analyses of two AZD7442 COVID-19 trials in high-risk populations confirm robust efficacy and long-term prevention.  Available at: https://www.astrazeneca.com/media-centre/press-releases/2021/new-analyses-of-two-azd7442-covid-19-phase-iii-trials-in-high-risk-populations-confirm-robust-efficacy-and-long-term-prevention.html. [Last accessed: December 2021]
  7. van Erp EA, et al. Fc-mediated antibody effector functions during respiratory syncytial virus infection and disease. Front Immunol. 2019; 10: 548.