“บริษัท รักษาความปลอดภัย แอล เอส เอส โซลูชั่นส์ จำกัด” (LSS) ในเครือ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ปรับโฉมหน้าธุรกิจบริการรักษาความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากลภายใต้การนำของ 2 ผู้บริหารหญิง เชื่อจะประสานจุดแข็งของ LPP การใช้เทคโนโลยี และการบริหารด้วยความใส่ใจในรายละเอียดควบคู่ความชำนาญ จะทำให้บริษัทแข็งแกร่ง พร้อมเติบโดก้าวสู่ปีที่ 2 ต่อไป
สมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการชุมชนในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่า LPP จัดตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยขึ้นเพื่อขยายธุรกิจบริการให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยระดับสากลที่บริหารโดยคนไทย มีจุดแข็งในเรื่องความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการระหว่างการรักษาความปลอดภัยด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และงานระบบมาใช้ควบคู่กัน โดยในปีแรกของการดำเนินการ LSS ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ มีโครงการในความดูแลรับผิดชอบทั้งสิ้น 39 โครงการ ซึ่งครอบคลุมทั้ง อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โครงการคอนโดมิเนียม และหน่วยงานราชการ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“แม้ว่าบริษัท LSS จะเป็นบริษัทสัญชาติไทย แต่มาตรฐานการปฏิบัติการของเราเทียบเท่ามาตรฐานสากล ที่มากกว่านั้น คือ เราต้องการยกระดับการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้เพียงดูแลเรื่องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังต้องควบคู่ไปกับการบริการด้วยความใส่ใจ เราปลูกฝังบุคลากรของเราทุกคนให้มีความสุภาพ นอบน้อมและให้บริการด้วยใจ ที่สำคัญคือ การรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งผู้ใช้บริการ คู่ค้าและพนักงาน โดยเรามุ่งเน้นในการลงทุนกับบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคลให้มีความรู้ ความสามารถ และมีสมรรถภาพร่างกายที่พร้อมต่อการปฏิบัติงาน บนมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย และนำเสนอบริการตามระดับความต้องการของลูกค้า (Service Level Agreement หรือ SLA)” สมศรี กล่าว
ด้าน ณิชมน ชาญอุไร กรรมการผู้จัดการบริษัท รักษาความปลอดภัย แอล เอส เอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS) กล่าวว่า นอกจากการให้ความสำคัญเรื่องการคัดเลือกบุคคลากรที่มีคุณภาพแล้ว LSS ยังได้นำเรื่องของการรักษาความปลอดภัยด้านอิเล็กทรอนิกส์และงานระบบ (Electronic Security & System “ESS”) มาใช้ในการรักษาความปลอดภัยร่วมด้วย อย่างเช่น ศูนย์ปฏิบัติการระบบรักษาความปลอดภัย หรือ LPP Smart Security Center เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยทั้งในส่วนการใช้บุคลากรและเทคโนโลยีควบคู่กันได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“แม้ตนจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีสัดส่วนน้อยในธุรกิจรักษาความปลอดภัย แต่เชื่อว่าผลงานและประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจนี้ทั้งในและต่างประเทศกว่า 25 ปี คือ เครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และด้วยความละเอียดอ่อนของความเป็นผู้หญิง ทำให้ LSS เหนือกว่าในเรื่องของระเบียบวินัย ภาพลักษณ์ การแต่งกายของบุคลากร และงานบริการ อีกทั้งยังใส่ใจในเรื่องชีวิต ความเป็นอยู่ พร้อมให้การสนับสนุนบุคลากรอย่างใกล้ชิด โดยอีกหนึ่งความมุ่งหวังของเรา คือ เราต้องการสร้างคน สร้างงาน สร้างโอกาส และยกระดับงานรักษาความปลอดภัยให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มิต่างจากอาชีพอื่นๆ”ณิชมน กล่าว
นอกจากนี้ LSS ได้ริเริ่มสร้างศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรรักษาความปลอดภัยขึ้น โดยหวังผลิตพนักงานคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ หัวหน้างาน ฝ่ายบริหาร หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในงานอีเว้นท์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และเจ้าหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ (Body Guard) เพื่อตอบรับความต้องการในธุรกิจรักษาความปลอดภัยทุกรูปแบบ และรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต