ในขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่กำลังซวนเซไปกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ธุรกิจ Food Delivery กลับมีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก ทั้งคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด คู่แข่งที่บริษัทแม่ส่งแบรนด์ลูกเข้ามาทดลองตลาด เมื่อเห็นโอกาสก็แปลงร่างส่งแบรนด์แม่ข้ามประเทศมาลงสนามเอง และยังมีคู่แข่งที่ข้ามฟากมาจากธุรกิจธนาคาร
การแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้น และเต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีศักยภาพสูงนี้ ทำให้ผู้นำในธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย ต้องขยับตัวเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการรักษาความเป็นผู้นำ ซึ่งไม่เพียงแต่การวางงกลยุทธการตลาดที่จะรุกไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนในอีโคซิสเต็มของธุรกิจ ที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์ สร้างผลตอบแทนที่ดี และสร้างความรู้สึกที่ดีในการทำธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ดังนั้น ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2564 ของแกร็บ ประเทศไทย จึงได้วาง 4 แนวคิด “GROW” ต่อยอดความเป็นผู้นำธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ยกระดับความสัมพันธ์กับคนทุกกลุ่มในอีโคซิสเต็ม ขยายบริการเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันอย่างครอบคลุม และส่งเสริมทักษะดิจิทัลเพื่อสนับสนุนไทยแลนด์ 4.0 พร้อมตอกย้ำพันธกิจ ‘GrabForGood (แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า)’ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและก้าวทันเศรษฐกิจดิจิทัล
อเลฮานโดร โอโซริโอ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2563 ถือเป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงาน และการดำเนินธุรกิจในหลากหลายด้าน โดยธุรกิจดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งในชีวิตประจำวันและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับธุรกิจของแกร็บ ประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยธุรกิจภาพรวมเมื่อสิ้นสุดปีสามารถฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการแพร่ระบาด ในขณะที่ยอดการใช้งานครอบคลุมทุกบริการเติบโตเป็นสองเท่าจากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ การออกแคมเปญทางการตลาดต่อเนื่องตลอดปียังผลักดันให้ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของธุรกิจทั้งหมด
อเลฮานโดร โอโซริโอ กล่าวต่อถึงแนวทางของแกร็บ ประเทศไทยในปี 2564 ว่า ทุกคนกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคนิวนอร์มอล แกร็บจะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับสังคม โดยเฉพาะการสร้างสมดุลของอีโคซิสเต็มและเสริมความแข็งแกร่งของบริการ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านซูเปอร์แอปที่เข้าถึงความต้องการของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง โดย แกร็บ ประเทศไทย จะเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด “GROW” ใน 4 ด้าน ประกอบด้วย
ต่อยอดความเป็นผู้นำธุรกิจรับ-ส่งอาหาร (G – GrabFood Leadership) แกร็บจะรักษาจุดแข็งในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ โดยเน้นย้ำความเป็นผู้นำในด้านคุณภาพบริการ ความเชื่อมั่นในเรื่องความรวดเร็ว ตัวเลือกเมนูอาหารที่หลากหลาย และประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ นอกจากนี้ จะยังกระตุ้นการใช้งานผ่านกิจกรรมทางการตลาดทั่วประเทศต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น แคมเปญพิเศษรับตรุษจีน ซึ่งยังคงจุดเด่นในด้านคอนเซ็ปต์สนุกสนาน เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และเพิ่มเมนูพิเศษที่มีเฉพาะบนแกร็บฟู้ดเท่านั้น (Signature Menu) กว่า 300 เมนู
ยกระดับความสัมพันธ์กับคนทุกกลุ่มในอีโคซิสเต็ม (R – Relationship with Key Stakeholders) – เพื่อให้แพลตฟอร์มสามารถตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกฝ่าย แกร็บจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์คนขับในการรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เร่งเสริมศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจของพาร์ทเนอร์ร้านค้า ทั้งกลุ่มร้านอาหารและกลุ่มร้านค้าออนไลน์ผ่านการทำการตลาดของแกร็บ การอบรมและแชร์ความรู้ด้านการทำการตลาดออนไลน์ในการทำธุรกิจให้สามารถเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืน รวมทั้งการปรับกระบวนการลงทะเบียนเพื่อขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บและกระบวนการจ่ายเงินให้แก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหารให้สะดวกรวดเร็ว เพื่อโอกาสในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงการนำเสนอประสบการณ์ที่ปลอดภัยแก่กลุ่มผู้ใช้งาน และสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เข้าถึงอินไซต์ผู้บริโภค
ขยายบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค (O – Opportunities for new business) – เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ แกร็บจะมุ่งตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยในหลากหลายแง่มุม โดยตั้งเป้าขยายสาขาของ GrabKitchen ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง และเตรียมเปิดสาขาที่ 8 ในช่วงต้นปีนี้ รวมไปถึงการขยายบริการ GrabMart ให้ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภทยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายบริการอีวอลเล็ต เปิดตัวผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ เช่น บริการสินเชื่อแก่พาร์ทเนอร์ร้านอาหารและผู้ใช้งาน รวมไปถึงบริการประกันและการลงทุน
ส่งเสริมทักษะดิจิทัลเพื่อสนับสนุนไทยแลนด์ 4.0 (W – Digital Workforce development in support of Thailand 4.0) – แกร็บจะร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลใน 3 ประเด็นสำคัญได้แก่ การพัฒนาทักษะและความเข้าใจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) การเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Inclusion) และการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ โดยแกร็บจะยังคงร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย และสร้างสรรค์บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์พาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคนขับ
ด้าน วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย และ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการสานต่อพันธกิจ ‘GrabForGood’ หรือ แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า แกร็บ ประเทศไทย ได้มีส่วนช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้ากว่า 400,000 รายสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของแกร็บในการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว ไปจนถึงเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน เช่น บริการผ่อนชำระโทรศัพท์มือถือและบริการสินเชื่อเงินสด
นอกจากนี้ แกร็บยังร่วมมือกับองค์กรภาครัฐในการเพิ่มช่องทางในการกระจายผลผลิตทางการเกษตรกร และการติดอาวุธทักษะในการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล ในปี 2564 แกร็บ จะเดินหน้าตอกย้ำพันธกิจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยต่อไป