Bhiraj Office REIT พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เข้าเทรดวันที่ 21 ส.ค.นี้

397

กองทรัสต์ BOFFICE พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ 21 สิงหาคมนี้ หลังปิดการขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนและเข้าลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าโครงการภิรัช
ทาวเวอร์ แอท ไบเทค เป็นที่เรียบร้อย รวมมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 
3,300 ล้านบาท ชูขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์แตะหมื่นล้านบาท  

อรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ’หรือ Bhiraj Office REIT (BOFFICE) พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ หลังจากได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค จากกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีเป็นที่เรียบร้อย โดยโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสำนักงานเกรด A ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Mixed-use
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (โครงการ 
BITEC Mixed-use Complex) ในย่านสุขุมวิทบางนา โครงการเชื่อมต่อ BTS สถานีบางนา พื้นที่รวมประมาณ 70,741 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 32,072 ตารางเมตร)
เป็นระยะเวลา 
30 ปีนับจากวันที่จดทะเบียนสิทธิการเช่าของกองทรัสต์เป็นที่เรียบร้อย โดยมีมูลค่าลงทุนในทรัพย์สินใหม่รวม 3,300 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งที่ จำนวน 222,562,074 หน่วย
ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 12.30 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 2,737 ล้านบาท และกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงินอีกจำนวน 700 ล้านบาท  

 ทั้งนี้ เมื่อรวมกับทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์ คือ โครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-use Commercial Complex ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) พื้นที่รวมประมาณ  94,853 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 49,460 ตารางเมตร) ส่งผลให้ทรัพย์สินของ BOFFICE มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีพื้นที่ให้เช่าและพื้นที่ใช้สอยที่เข้าลงทุนรวมทั้งสิ้นเพิ่มขึ้นเป็น 165,594 ตารางเมตร (เป็นพื้นที่ให้เช่าสุทธิ 81,532 ตารางเมตร) และทรัพย์สินทั้ง โครงการยังมีผลการดำเนินงานที่ดี โดย ณ วันที่  31  มีนาคม  2563 โครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ มีอัตราเช่าพื้นที่ 98.7%  และโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค มีอัตราเช่าพื้นที่ 99.1% 

 ขณะที่ BOFFICE เป็นกองทรัสต์ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด โดยปี 2562 จ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงานและส่วนลดทุนชำระแล้วแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์แล้วรวมทั้งสิ้นในอัตรารวม 0.7103 บาทต่อหน่วย ส่วนในปีนี้ได้จ่ายประโยชน์ตอบแทนแล้ว  6 เดือน ในอัตรารวม 0.3601 บาทต่อหน่วย  

ด้าน สาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า BOFFICE เป็นหนึ่งในกองทรัสต์คุณภาพที่เป็นทางเลือก
การลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทรัสต์ที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวจากเงินปันผล และยังช่วยสร้างสมดุลแก่พอร์ตการลงทุน
 โดยภายหลังหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ เข้าทำการซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายจากปริมาณหน่วยทรัสต์ใหม่ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจต่อการเข้าลงทุน ประกอบกับทรัพย์สินใหม่ที่เข้าลงทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น รวมถึงตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิท
างนาติดแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงเชื่อว่าจะเป็นโครงการที่มีดีมานด์จาก
ผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง
 

 ขณะที่ วราลักษณ์ พฤฒิวรมงคล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)  ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ ในช่วงที่ผ่านมามีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจและสามารถปิดการเสนอขายได้ตามเป้าหมาย โดยภายหลังหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ ของ BOFFICE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์คือโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ และทรัพย์สินที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมคือโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค ล้วนเป็นโครงการออฟฟิศคุณภาพที่ตั้งอยู่ในทำเลดีติดแนวรถไฟฟ้า จึงเป็นที่ต้องการของผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด สะท้อนจากผลการดำเนินงานของทรัพย์สินทั้ง โครงการ