“มิกซ์ จตุจักร” เปิดแลนด์มาร์คใหม่ หาที่จอดรถให้นักช้อป ติดแอร์ให้จตุจักร

3503

หากไม่ใช่คนที่อยู่ตั้งแต่เจนเนอเรชั่น X ลงไปจนถึง Baby Boomer หรือเก่ากว่านั้น คงไม่รู้ว่าตลาดนัดขายสินค้าที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองไทยเคยตั้งอยู่ที่สนามหลวง เสน่ห์ของการช้อปปิ้งสินค้ารุ่นปู่ย่า คือการซื้อหาสินค้าราคาถูก สินค้าหายาก และลมเย็นๆ จนสามารถเล่นว่าวได้

จนในปี 2525 รัฐบาลในสมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เปลี่ยนสนามหลวงให้เป็นพื้นที่พักผ่อน และใช้งานหลวง จึงย้ายพื้นที่การขายทั้งหมดของสนามหลวง ไปอยู่ที่สวนจตุจักร

37 ปีของตลาดนัดสำคัญของเมืองไทย กลายเป็นพื้นที่ขายที่ดึงคนไทย และคนต่างชาติเข้ามามากถึงเดือนละ 3 ล้านคน โดยในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาถึงสัปดาห์ละ 3-4 แสนคน

เพียงแต่วันนี้ อากาศของตลาดนัดสวนจตุจักร ไม่ได้มีลมเย็นๆ เหมือนวันก่อน !!

มีพร ไชยูปถัมภ์ กรรมการบริหาร บริษัท สยาม พิริยา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร ศูนย์การค้า “มิกซ์ จตุจักร” (Mixt Chatuchak) กล่าวว่า แม้ความนิยมของตลาดนัดจตุจักรยังคงเป็นตลาดที่ดึงดูดผู้คนจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ แต่ปัญหาที่เป็นช่องว่างของตลาดคือ อากาศที่ร้อน และปัญหาที่จอดรถ ที่ มิกซ์ จตุจักร จะเข้ามาเติมเต็ม

ศูนย์การค้ามิกซ์ จตุจักร เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ย่านจตุจักร ที่บริหารโดยทีมบริหารที่มีประสบการณ์จากการบริหารศูนย์การค้าในเมืองไทยหลากหลายท่าน ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี จากปี 2560 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่  ติดตลาดนัดจตุจักร โดยใช้งบลงทุนกว่า 900 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 5 ชั้น มีความยาวถึง 350 เมตร มีพื้นที่ขายกว่า 60,000 ตร.ม. แบ่งเป็น 8 โซน ได้แก่ เสื้อผ้าแฟชั่น (Fashion Zone) เครื่องประดับ (Accessories Zone) ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Zone) ศูนย์อาหารขนาดใหญ่สไตล์สตรีทฟู้ด (Food Court) สินค้าตกแต่งบ้าน (Home & Décor) เครื่องสำอางและสินค้าทรีตเม้นท์-สปา (Spa & Beauty) ของที่ระลึก (Souvenirs) และธุรกิจบริการ (Service)

“มิกซ์ จตุจักร ชูคอนเซ็ปต์ ‘Mixt Chatuchak Selected’ เป็นศูนย์การค้าที่ผสมผสานระหว่างร้านค้าที่มีเอกลักษณ์จากตลาดนัดสวนจตุจักร 60% และผู้ประกอบการ SME จากทั่วประเทศ 30% อีก 10% เป็นร้านแฟรนไชส์แบรนด์เนม เช่น กาแฟอเมซอน และร้านขนมอานตี้ แอนด์ ฯลฯเลือกสรรร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ทั้งสินค้าแฮนด์เมดสุดครีเอทีฟกว่า 700 ร้านค้า มีค่าเช่าพื้นที่เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ต่อ ตร.ม. เพื่อสนับสนุน SMEs ไทยอย่างแท้จริง ถือเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ของตลาดนัดจตุจักร ที่สามารถช้อปปิ้งสินค้าเดียวกันกับตลาดนัดจตุจักร แต่อยู่ในห้องแอร์ พร้อมความสะดวกสบายในการจอดรถ  และศูนย์อาหารสไตล์สตรีทฟู้ดติดแอร์จากร้านเด็ดร้านดัง”

ด้านกลยุทธ์ในการส่งเสริมการตลาด มีพรกล่าวว่า มิกซ์ จตุจักร จะทำการสื่อสารแบบ Omni ทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ โดยในส่วนของออนไลน์ จะใช้การสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลทุกช่องทาง แต่จะสร้างคอนเทนต์ให้กับ SME ผ่านการเล่าเรื่องตัวสินค้า เพื่อสร้างความน่าสนใจ พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชั่น Mix Chatuchak Reward ที่จะมีกิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ธนาคาร และแกร็บ ขณะที่สื่อออฟไลน์ จะใช้สื่อรถเมล์ และสื่อบน BTS เพื่อสร้างการรับรู้ นอกจากนี้ในส่วนของผู้ค้า ก็จะมีการจัดอบรม ด้านการขาย ทั้งการขายออนไลน์ การสร้างแบรนด์ ฯลฯ

“เราปั้นศูนย์การค้า “มิกซ์ จตุจักร” มาเติมเต็มศักยภาพของย่านจตุจักรให้เป็น Shopping Destination รองรับความต้องการของชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของที่จอดรถกว้างขวาง ห้องน้ำสะอาด ที่แวะพักหลบอากาศร้อน หรือแม้แต่ร้านอาหาร ส่งเสริม ต่อยอด ธุรกิจในย่านจตุจักรให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้นให้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศไทย และสนับสนุนธุรกิจ SMEs ให้เข้ากับยุค 4.0 อย่างยั่งยืน เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจให้กับร้านค้าจากเดิมที่ขายในตลาดนัดจตุจักรได้แค่ 2 วัน ให้สามารถเปิดร้านค้าเพิ่ม ขายได้ทุกวัน ซึ่งจะช่วยสร้างยอดขายได้มากขึ้น และยังช่วยโปรโมทร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้”

มีพร กล่าวว่า สยาม พิริยาฯ เล็งเห็นศักยภาพของย่านจตุจักรที่ถือว่าเป็นทำเลทองย่านใหม่ของกรุงเทพฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เป็นย่านธุรกิจการค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งศูนย์การค้า ออฟฟิศ สถานศึกษา เดินทางสะดวก เป็นจุดศูนย์รวมการคมนาคม มีรถประจำทางมากมาย รวมถึงรถไฟฟ้า BTS และ MRT ซึ่งในปีหน้าจะมี “บางซื่อแกรนด์สเตชัน” สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยตั้งเป้ายอดผู้มาเยือน (visitor) 1.2 ล้านคนต่อเดือน มียอดการจับจ่ายต่อหัว ราว 500 บาท ซึ่งวางเป้าหมายรายได้ทะลุ 300 – 500 ล้านบาท ภายใน 2 ปี