ตลาดสมาร์ทโฟนของเมืองไทยในวันนี้ ไม่มีการผูกขาดตำแหน่งผู้นำจาก 2 แบรนด์ใหญ่ แอปเปิล และซัมซุง เหมือนในอดีต การจากไปของสตีฟ จ็อบส์ ทำให้นวัตกรรมของแอปเปิลดูเชื่องช้าไปจากเดิม ขณะที่ซัมซุงเองที่ขยันออกสมาร์ทโฟนทุกๆ ปี ก็ไม่ได้สร้างความฮือฮามากเหมือนก่อน กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีน ที่เรียกเสียงว้าวทุกครั้งที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟลกชิปออกมาสู่ตลาด
และหนึ่งในสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในรอบปีที่ผ่านมา จนสามารถก้าวเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว “ออปโป้”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนจากจีน ประสบความสำเร็จชนะใจผู้บริโภคชาวไทย เหนือกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน หรือรถยนต์จากจีน คือการทุ่มทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
ออปโป้ มีศูนย์วิจัยและพัฒนากระจายอยู่ 6 แห่งทั่วโลก พร้อมงบประมาณมากถึง 1,500 ล้านเหรียญต่อปี ไม่เพียงแต่นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนวัตกรรมด้านการออกแบบ ที่ทำให้การเปิดตัวสมาร์ทโฟนออปโป้แต่ละรุ่น ได้รับความสนใจ ดังเช่น ออปโป้ F9 เมื่อไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมาที่ทำยอดขายจนออปโป้ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำของจำนวนยูนิตในตลาดสมาร์ทโฟนท้ายปีที่ผ่านมาดังกล่าว
ปัจจุบัน ออปโป้ เป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนระดับล่าง ราคาเฉลี่ย 5,000 บาท จากออปโป้ A3S ขณะที่ตลาดระดับกลาง ยอดขายของ F Series ก็ทำให้ออปโป้เป็นผู้นำในตลาดนี้
และในปีนี้ ออปโป้ F Series ก็เปิดตัว ออปโป้ F11 Pro มารักษาตลาด
ชานนท์ จิรายุกุล รองประธานกรรมการฝ่ายบริหาร ออปโป้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของออปโป้ ด้วยผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่สามารถก้าวสู่การเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 1 ของไทยเป็นครั้งแรก โดยผลิตภัณฑ์ตระกูล F Series ถือเป็นฮีโร่โปรดักต์ที่ออปโปให้ความสำคัญและเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงอันดับต้นๆ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นของกล้องถ่ายภาพ ดีไซน์สวยสะดุดตา และราคาที่เข้าถึงง่าย
และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ OPPO F11 Pro จะเป็นการยกระดับคุณสมบัติกล้องถ่ายภาพไปอีกขั้น จากการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเซลฟี่ (Selfie Expert) สู่การเป็นผู้นำของการถ่ายภาพพอร์ตเทรต (Brilliant Portrait) ให้ผู้ใช้ถ่ายภาพบุคคลได้สวยสมบูรณ์แบบในทุกสภาพแสง แม้ในสภาวะแสงน้อย
OPPO F11 Pro ยกระดับจุดเด่นจากการถ่ายภาพเซลฟีมาสู่ภาพพอร์ทเทรต ด้วยกล้องหลังคู่ ความละเอียด 48 ล้าน + 5 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพพอร์ทเทรตได้สมบูรณ์แบบแม้แสงน้อยโดยใช้โหมด Ultra Night และฟีเจอร์ Color Mapping พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ล้ำกว่าเดิม ให้ภาพพอร์ทเทรตที่ได้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าจอแบบ Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้วกว้างเต็มตาไร้สิ่งกีดขวาง ด้วยสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 90.9% พร้อมระบบประหยัดพลังงาน แบตเตอร์รี่ขนาด 4,000 มิลลิแอมป์ มาคู่กับเทคโนโลยี VOOC 3.0 ชาร์จไวขึ้น 20% อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Hyper Boost ที่ทำให้สามารถเล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
OPPO F11 Pro เปิดราคา 10,990 บาท และจากการพรีออเดอร์ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยการเปิดจองบนลาซาด้า จำหน่ายหมดใน 2 นาที และทำยอดขาย 3 วัน ได้มากถึง 80% ของเป้าหมายการจำหน่ายรุ่นนี้ สูงกว่าสถิติเดิมในการเปิดตัว OPPO F9 มากกว่า 2 เท่าในเวลาเท่ากัน
ชานนท์ กล่าวว่า ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมของออปโป้ อยู่ในอันดับ 2 โดยตลาดสำคัญที่ออปโป้ยังไม่มีสินค้าเข้ามาจำหน่าย คือกลุ่มตลาดบน ระดับราคา 20,000 บาทขึ้นไป ที่ในอดีตออปโป้ เคยมีสมาร์ทโฟนรุ่น R17 Pro และ Fine X มาทดลองตลาดบน แต่ก็ไม่ได้ทำตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้ ออปโป้จะเริ่มโฟกัสตลาดบน โดยจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในปีนี้มากกว่า 1 รุ่น
“ออปโป้มีเป้าหมายที่จะขยับเข้าใกล้คู่แข่งในระดับไฮเอนด์มากขึ้น และถือเป็นความท้าทายของปีนี้ ที่จะทำให้ผู้บริโภคยอมรับ แต่ก็มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนแฟลกชิปของออปโป้ดีจริง ซึ่งเชื่อว่า จากนี้ไป ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน อันดับ 1 จะมีส่วนแบ่งไม่เกิน 20% ขณะที่อันดับที่ตามมาจะมีส่วนแบ่งห่างกันเพียง 1-2% เท่านั้น ซึ่งหากออปโป้สามารถสร้างส่วนแบ่งในตลาดไฮเอนด์ได้ ก็มีโอกาสเป็นผู้นำในตลาดได้”