นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตเครื่องสำอางแบรนด์สเนลไวท์ เปิดเผยว่า จากการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดยทางบริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าแบบซอง เพื่อให้ถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกและง่ายขึ้น พร้อมวางจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าดั้งเดิมหรือร้านค้าโชห่วย ส่งผลให้ส่วนแบ่งด้านการตลาดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6% จากประมาณ 4% ในปี 2560 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้เพิ่มช่องทางการขายผ่านช่องทางของกลุ่มคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี (King Power Duty Free) โดยในปัจจุบันได้มีการขยายไปทั้งหมด 4 สาขา ประกอบด้วย สาขารางน้ำ (กรุงเทพฯ), สนามบินเชียงใหม่, สนามบินนานาชาติภูเก็ต, และสนามบินนานาชาติดอนเมือง และยังมีแผนวางจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกสาขาของ King Power Duty Free ที่มีอยู่รวม 8 สาขา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่ม King Power Duty Free มีฐานลูกค้ามากกว่า 31 ล้านคนต่อปี
ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน DDD
สำหรับการขยายตลาดใหม่ในต่างประเทศนั้น นายปิยวัชรกล่าวว่า ทางบริษัทฯ มีความสนใจที่จะเข้าไปขยายตลาดในกลุ่มอาเซียน อาทิ จีน กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อกระจายรายได้ในต่างประเทศให้มีเสถียรภาพมากขึ้น คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2561 จะได้ผลตอบรับในทางที่ดีกว่าในไตรมาส 1/2561 เนื่องจากที่ผ่านมาทางบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์แบบซองเต็มทั้งไตรมาส หลังจากที่มีการวางขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ ทำให้บริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2561 ของบริษัทฯ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยที่ปีละไม่ต่ำกว่า 30% ภายใน 5 ปีนับจากปี 2561 นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นการขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเข้าซื้อแบรนด์ผลิตภัณฑ์เวชสำอางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมให้มีผลิตภัณฑ์ความงามครอบคลุมทุกตลาดและช่วยสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตอีกด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ปี 2560 บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD มีสินทรัพย์รวม 5,460.49 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,684.38 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 351.06 ล้านบาท และในไตรมาส1/2561 ที่ผ่านมา มีสินทรัพย์รวม 5,550.71 ล้านบาท มีรายได้รวม 386.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 112.15 ล้านบาท